องค์ฮ่องเต้รู้ดีว่าเซียวเฉวียนมาที่พระราชวังเพียงเพื่อต้องการเยี่ยมองค์หญิง แต่กลับมีใครบางคนพบเห็นเข้า
แต่ถึงกระนั้น องค์ฮ่องเต้ก็ยังไม่เข้าพระทัยอยู่ดี ว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงไม่มาเข้าเฝ้าพระองค์เมื่อมาถึงยังพระราชวัง?
แม้ว่าฮ่องเต้จะคุ้นชินกับนิสัยทำตามอำเภอใจของเซียวเฉวียน แต่พระองค์ก็รู้ดีว่าเซียวเฉวียนเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมารยาทด้วย
เช่น เซียวเฉวียนรู้ดีว่าชายและหญิงไม่ควรที่จะสนิทสนมกัน ผู้ชายควรให้เกียรติและเคารพผู้หญิง
ตำหนักฝ่ายใน คือสรวงสวรรค์ของผู้หญิง
ใก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้ไม่สามารถรับรู้อะไรเกี่ยวกับองค์หญิงต้าถงได้เลย เซียวเฉวียนเองไม่ต้องการเปิดเผยที่อยู่ขององค์หญิงต้าถง ดังนั้นเขาจึงเข้าออกพระราชวังอย่างเงียบๆ
แต่ตอนนี้ องค์ฮ่องเต้รู้เเล้ว และเซียวเฉวียนเองไม่ได้มาทักทายฮ่องเต้ก่อนที่จะไปตำหนักฝ่ายใน ซึ่งมันค่อนข้างผิดปกติ
ฮ่องเต้ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ไม่นาน ความคิดนี้ก็พัดผ่านออกไปตามสายลม และพระองค์ก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้อีกเลย
เพราะท้ายที่สุด ภายในก้นบึ้งพระทัยของฮ่องเต้ พระองค์รู้ดีว่า ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะทำอะไรก็ตาม เขาย่อมมีเหตุผลเสมอ
ยิ่งกว่านั้น ฮ่องเต้ยังรู้อีกว่าเซียวเฉวียนจะไม่มีวันทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อต้าเว่ย และต่อตัวฮ่องเต้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
“ฝ่าบาท! โปรดพระองค์ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนด้วยพะยะค่ะ!”
ทันในนั้นเอง เสนาบดีคนหนึ่งพูดเรียกร้องความชอบธรรมขึ้นมา ทำให้ฮ่องเต้ดึงสติกลับมาสนใจเหตุการณ์ตรงหน้า
ฮ่องเต้หันไปมองเสนาบดีคนนั้นด้วยสายตาแสดงความครุ่นคิด
ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน?
คำข้อดังกล่าวเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของราชวงศ์ ดังนั้นการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจึงถือเป็นความคิดที่ดี
อันที่จริง เสนาบดีคนนี้กำลังรอโอกาสที่ฮ่องเต้จะรับสั่งให้จัดการ
เพราะตัวเสนาบดีคนนี้นั้น แทบรอไม่ไหวที่จะได้สังหารเซียวเฉวียน!
ถึงยังไง หากมีการสอบสวนขึ้น ความหยุ่งเหยิงก็จะตามมา และต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั้นหมายความว่าชีวิตมนุษย์จะต้องถูกนำมาเป็นเครื่องสังเวย
ขณะนั้นเอง ฮ่องเต้ตอบโต้กลับ พระองค์เลิกพระขนง และตรัสอย่างเย็นพระทัย: "ตัวข้าเข้าใจความรู้สึกของพวกท่านเป็นอย่างดี เข้าใจความรักความห่วงใยที่พวกท่านมีต่อตัวข้าและต้าเว่ยที่ยิ่งใหญ่"
"ขอบใจพวกท่านที่ยากลำบากมา"
ฮ่องเต้กล่าวชื่นชมเหล่าเสนาบดีที่ทำงานอย่างหนักเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาให้ตรงประเด็นยิ่งขึ้น: "แต่ถึงกระนั้น เรื่องของราชครูและเม่ยซีนั้นถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด"
เมื่อพระองค์ตรัสประโยคนี้จบ เสนาบดีทั้งหลายก็เงียบไปชั่วขณะ
เข้าใจผิด?
มันจะเป็นความเข้าใจผิดได้อย่างไรกัน?
ใครกันที่จะกล้าทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดเช่นนี้?
มีข่าวลือว่ามีคนเห็นเซียวเฉวียนออกมาจากตำหนักของเม่ยซีในตอนกลางคืน
เกิดมาจนอายุปูนนี้แล้ว ใครมันจะเชื่อว่าทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์อะไรเกินเลย?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เหล่าเสนาบดีก็เริ่มกระซิบกระซาบพูดคุยกันเอง
เพราะด้วยบทเรียนที่ผ่านมาจึงไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับคำพูดของฮ่องเต้
แต่การกระทำที่ทำอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เหล่าเสนาบดีมองไปยังองค์ฮ่องเต้ ตั้งใจที่จะถามออกไปว่าทำไมพระองค์ถึงตรัสออกมาเช่นนี้
ฮ่องเต้รู้จักสีหน้าพวกนั้นดี จึงทรงชี้แจงและคลายข้อสงสัยว่า “พวกท่านไม่ได้รู้อะไรเลย ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ตัวข้ารู้สึกเหนื่อยง่าย เม่ยซีที่เป็นห่วงเป็นใยข้า จึงคอยอยู่ดูแลปรนนิบัติเช้าเย็นเพื่อคลายความเหนื่อยล้า”
ซึ่งหมายความว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เม่ยซีอยู่กับฮ่องเต้ทุกวัน ซึ่งถือว่านานทีเดียว
ฮ่องเต้สามารถพิสูจน์ได้ว่าเม่ยซีและเซียวเฉวียนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์
ข่าวลือเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ไม่มีอะไรที่เป็นจริง
หากมีบุคคลอื่นให้การเป็นพยานปรักปรำเซียวเฉวียนและเม่ยซี เหล่าเสนาบดีก็คงบอกให้เขาให้การเท็จว่าเห็นเซียวเฉวียนจริง
แต่พยานคนนี้คือฮ่องเต้ และไม่มีใครกล้าที่จะกล่าวหาฮ่องเต้
และในเมื่อมีฮ่องเต้เป็นพยานแสดงความบริสุทธิ์ของเซียวเฉวียนและเม่ยซี ต่อให้เสนาบดีมีคำพูดเป็นร้อยเป็นล้านคำ ก็จะถูกขัดขวางออกไปจนหมดสิ้น
เสนาบดีบางคนอยากจะให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเสียเหลือเกิน
เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริง นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถหาเรื่องมากำจัดเซียวเฉวียนได้
เนื่องจากนี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด พวกเขาจึงต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยม และถอดถอนอคติที่มีต่อเซียวเฉวียน
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสนาบดีบางคน แม้ว่าฮ่องเต้จะยืนยันความบริสุทธิ์แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ยอมที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป พวกเขายืนกรานที่จะยกเรื่องนี้เป็นประเด็น ราวกับว่าเรื่องนี้สามารถโค่นล้มเซียวเฉวียนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...