ให้เขาอาศัยอยู่ที่จวนหลิน อยู่ใต้การควบคุมสอดส่องของเขา หลินฟ่างก็จะได้สบายใจขึ้น
อู๋จี้เป็นลูกคนเดียวของพี่สาวเขาและเป็นสายเลือดเพียงคนเดียวของตระกูลอู๋ หลินฟ่างต้องเฝ้าดูเขา ปล่อยให้เขาพลาดท่าเสียทีไม่ได้
แต่ว่าตอนนี้หลินฟ่างเองก็คุมสติอารมณ์ไม่อยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอู๋จี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอู๋จี้จะใจร้อนเต็มที แต่ต่อหน้าหลินฟ่างเขาไม่กล้าที่จะแสดงออกอย่างชัดเจน เขากลัวว่า หลินฟ่างจะดุด่าเขาว่าใจร้อนอีก
เขาบังคับเก็บกดความเร่าร้อนในใจแล้วพูดว่า "ท่านลุง ตอนนี้เราควรทำยังไงดี ?"
แม้แต่อู๋จี้ก็ยังจินตนาการได้ว่าองค์จักรพรรดิและเซียวเฉวียนจะยิ่งรับมือได้ยากยิ่งขึ้นในอนาคต แล้วหลินฟ่าง ซึ่งเป็นคนเก๋าในสถานราชการยิ่งต้องคิดได้เช่นกัน
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เรื่องแก้แค้นจะยิ่งยืดเยื้อออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ชั่วโมงนี้เป็นโอกาสอย่างดีมิใช่หรือ ?
ขอให้พวกเขากระทำอย่างระมัดระวังเพียงพอ จะไม่มีใครสังเกตเห็นแน่นอน
เช่นเดียวกับคนที่กระจายข่าวว่าเซียวเฉวียนและเม่ยซีมีความสัมพันธ์กัน ก็เป็นคนของพวกเขามิใช่หรือ ?
ขอเพียงอำพรางไว้ให้ดี องค์จักรพรรดิและเซียวเฉวียนจะหาอะไรไม่พบ สาวยังไงก็สาวไม่ถึงตัวของพวกอู๋จี้
ปรากฏว่า คนที่แพร่ข่าวลือในตอนแรกนั้น ก็เป็นคนที่หลินฟ่างเอาเข้าไปซุกในพระราชวัง
จุดประสงค์คือเพื่อสืบหาว่ามีอะไรแปลกประหลาดในฝั่งของเม่ยซีหรือไม่
เม่ยซีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจวนเซียว ทั้งได้รับการโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิ หลินฟ่างต้องการแสวงหาแหล่งทะลวงจากตัวเม่ยซีเพื่อนำมาจัดการกับเซียวเฉวียนและองค์จักรพรรดิ
ไม่คิดว่า บุคคลนั้นบังเอิญไปเห็นเซียวเฉวียนออกมาจากตำหนักของเม่ยซีพอดี
ช่างเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง !
หลินฟ่างและอู๋จี้ได้พบเรื่องนี้เข้า ดีใจจนถึงกับเลี้ยงฉลองกันไปยกใหญ่ เฉลิมฉลองความโชคร้ายของเซียวเฉวียนล่วงหน้าก่อนเลย
พวกเขาถึงอย่างไรก็คาดไม่ถึง สถานการณ์ในที่สุดจะเป็นตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคิดโดยสิ้นเชิง องค์จักรพรรดิทรงพูดเพียงคำเดียว ลมก็เปลี่ยนทิศทาง ไม่ได้ทำให้เซียวเฉวียนสั่นไหวแม้แต่นิดเดียว
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งสองถึงกับกินไม่รู้รส ค่ำคืนนอนไม่หลับไปสองวันเต็มๆ
พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก เซียวเฉวียนมีดีมีเด่นอะไร ถึงได้รับการยอมรับจากองค์จักรพรรดิถึงขนาดนี้ ?
ใช่ เป็นเรื่องจริงที่เซียวเฉวียนมีกำลังแกร่ง แต่เขามีพฤติกรรมเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไร้กฎเกณฑ์ ไร้ผู้คนในสายตา นอกลู่นอกรีด ไม่ใช่ง่ายสำหรับองค์จักรพรรดิที่จะควบคุมบุคคลเช่นเขาได้
หรือองค์จักรพรรดิจะไม่กังวลว่าการเลี้ยงเสือไว้ในบ้าน วันหนึ่ง เสือจะย้อนกลับมากัดกินพระองค์จนไม่เหลือแม้แต่ซากหรือ ?
ตามที่พวกเขากล่าวไว้ จักรพรรดิองค์นี้มีจิตใจกว้างจริงๆ
ข่าวลือร้อนแรงมากถึงขนาดนี้ พระองค์ยังช่วยแก้ต่างให้เซียวเฉวียนอีก
ยังดีที่มีข่าวลือออกมาอีกในภายหลังว่าองค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้ หลินฟ่างและอู๋จี้ต่างคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า องค์หญิงต้าถงจะต้องอาศัยอยู่ในพระราชวังแน่ๆ
คนของพวกเขาเห็นเซียวเฉวียนออกมาจากตำหนักของเม่ยซี เก้าสิบเก้าส่วนร้อยคือเซียวเฉวียนมาพบกับองค์หญิง
ในเมื่อองค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่ จึงพิสูจน์ได้ว่าเซียวเฉวียนหลอกลวงทุกคน รวมทั้งองค์จักรพรรดิด้วย
ขอให้หาวิธีทำให้เซียวเฉวียนจำต้องพาองค์หญิงออกจากวัง จากนั้นระดมข้าราชฯ บางคนให้เข้าร่วมฟ้องร้องกล่าวหาเซียวเฉวียน ให้องค์จักรพรรดิลงโทษเซียวเฉวียนในข้อหาหลอกลวงเบื้องสูง เซียวเฉวียนก็จะต้องตายอย่างแน่นอน
ดังนั้น อู๋จี้จึงแทบรอไม่ได้ที่จะใช้โอกาสจากลมแรงครั้งนี้จุดไฟให้ลุกโหมครั้งใหญ่ เผาเซียวเฉวียนไปโดยไม่มีใครรู้เนื้อรู้ตัว
อู๋จี้แค่อยากจะได้คำยืนยันคำเดียว งานนี้หลินฟ่างตกลงจะทำไม่ทำ ?
ถ้าหลินฟ่างขลาดและไม่เอาด้วย อู๋จี้ก็ตัดสินใจทำเอง จะไม่รออีกต่อไป
หากพลาดโอกาสนี้อีก จะไม่มีโอกาสในวันข้างหน้าอีกแล้ว
ถึงอู๋จี้จะอำพรางดีซะเพียงใด หลินฟ่างก็ยังรู้สึกถึงความร้อนใจในตัวเขา
แม้แต่หลินฟ่างก็ยังร้อนใจ แล้วอู๋จี้จะไม่ร้อนใจได้อย่างไร ?
หลินฟ่างแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง มองอู๋จี้ด้วยสายตาลุ่มลึกแล้วพูดว่า "หลานจี้ เจ้าคิดอย่างไรล่ะ ?"
ในขณะนี้ชั่วโมงนี้ หลินฟ่างก็ไม่คิดจะห้ามปรามอู๋จี้แล้ว เขาก็กลัวว่าอู๋จี้จะพลาดโอกาสแก้แค้นอันดีนี้ไป
เขาต้องการจะฟังอู๋จี้ว่าอะไรบ้าง
เขาพูดอย่างใจเย็นว่า "ระหว่างหลานกับลุง จะต้องกล่าวขอบคุณอีกหรือ ?"
การกล่าวขอบคุณดูเหมือนจะห่างเหินไปหน่อย
อู๋จี้ยิ้มอย่างรู้เท่าทันและพูดว่า "ขอรับ ท่านลุงพูดถูก"
แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่มีมารยาทก็ไม่เป็นเรื่องแปลก แม้จะมีความสนิทสนมเกินกว่าเป็นญาติกันอีกก็ตาม
จากนั้นลุงและหลานก็หารือในรายละเอียดของแผนการ หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว หลินฟ่างก็จัดให้คนนำไปปฏิบัติ
ความสามารถในการแต่งเรื่องของหลินฟ่างและอู๋จี้นั้นโดดเด่นจริงๆ
คนของพวกเขาเพิ่งออกไปครึ่งวัน ข่าวลืออีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับเซียวเฉวียนก็กวาดไปทั่วเมืองหลวงไวอย่างกับลมบ้าหมู
ข่าวลือเล่าว่าความสัมพันธ์ระหว่างเซียวเฉวียนและองค์หญิงต้าถงได้ร้าวฉานไปนานแล้ว ทั้งคู่ได้เลิกกัน ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ องค์หญิงต้าถงได้กลับไปยังภูมิภาคตะวันตกแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน จวนเซียวก็ถูกสังหารหมู่ และเซียวเฉวียนก็ถือโอกาสนี้ประกาศการสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงเพื่ออำพรางความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานของพวกเขา
สาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเกิดร้าวฉาน ก็เพราะเซียวเฉวียนเปลี่ยนใจไปรักหยางอวี้หวน ซึ่งพักอาศัยอยู่ในจวนเซียวในขณะนั้น
เหตุการณ์ระหว่างหยางอวี้หวนและเซียวเฉวียนตอนนั้น ก็ถูกกุขึ้นมาแพร่สะพัดอย่างดุเดือดเช่นกัน
ดังคำพังเพยว่า แมลงวันไม่กัดไข่ที่ไร้รอยต่อ และข่าวลือก็ไม่เข้าหาคนรอบคอบ
หากพวกเขาบริสุทธิ์กันจริงๆ ข่าวลือดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ต่อมา ไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนคิดได้จึงกลับใจหรือเพราะเหตุอย่างอื่น เขาอาศัยโอกาสที่ไปฝึกฝนยังภูมิภาคตะวันตก เกลี้ยกล่อมองค์หญิงให้กลับมาจนได้
ข่าวลือยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่เซียวเฉวียนพาพวกบัณฑิตจิ้นซื่อไปยังภูมิภาคตะวันตกเพื่อฝึกฝนนั้น เพียงเพื่อหาข้ออ้างที่ถูกต้องให้เขาได้ไปที่ภูมิภาคตะวันตกตามหาภรรยาของเขาเองเท่านั้น
ไม่ต้องกล่าวอะไรมาก ข่าวลือทั้งหมดนั้นพูดอย่างมีเหตุผลมีที่อ้างอิง ชวนให้คล้อยตาม ชวนให้เกิดจินตนาการไปต่างๆ นาๆ
แม้แต่เซียวเฉวียนที่ฟังแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความสามารถของคนที่อยู่เบื้องหลังกุเรื่องราวว่าโดดเด่นจริงๆ จุดสำคัญ รายละเอียดต่างๆ เรียบเรียงกันได้อย่างลงตัวเหมาะเจาะ
อย่างไรก็ตาม ในดวงตาของเซียวเฉวียนได้เพิ่มความเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...