ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเซียวเฉวียนองค์หญิงจะต้องออกจากวัง
เมื่อนางออกจากวังแล้ว หลินฟ่าง และคนอื่นๆ ก็สามารถไปฟ้องเซียวเฉวียนต่อหน้าฮ่องเต้ได้อย่างสบายใจ และใส่ร้ายเขาว่ากบฏ
หากใส่ร้ายเขาเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็ไม่สามารถหนีพ้นได้
เซียวเฉวียนเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
หลินฟ่าง และอู๋จี้ช่างกล้าหาญมากจริงๆ เพื่อที่จะกำจัดเซียวเฉวียน พวกเขาไม่กลัวที่จะเสี่ยง
พวกเขาไม่กลัวว่าเซียวเฉวียนจะสืบหาพวกเขาหรือไม่?
ไม่ พวกเขากลัว
แต่พวกเขาก็รู้ว่าหากพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว การจะต่อกรกับเซียวเฉวียนในภายหลังจะยิ่งยากขึ้น
ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเดิมพันทั้งหมด โดยหวังว่าเซียวเฉวียนจะไม่สามารถสืบหาตัวพวกเขาได้
เพื่อต่อกรกับเซียวเฉวียนพวกเขาใช้ความคิดอย่างเต็มที่
การยืนยันสิ่งที่เซียวเฉวียนคิดอยู่ในใจ ทำให้ทั้งสองคนไม่มีประโยชน์สำหรับเขาอีกต่อไป
เซียวเฉวียน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ออกไป!"
ทั้งสองคน ได้ยินดังนั้น ก็ตกตะลึงอย่างชัดเจน
อะไรนะ?
เซียวเฉวียนบอกให้พวกเขาออกไป?
พวกเขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?
พวกเขามองเซียวเฉวียน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ พวกเขาอยากจะพูดเพื่อยืนยันเรื่องนี้ แต่เซียวเฉวียน แสดงสีหน้าอันเยือกเย็น ทำให้พวกเขาไม่กล้าพูดอะไร
ถ้าพูดผิดคำ แล้วทำให้เซียวเฉวียน โกรธขึ้นมาล่ะ?เดิมทีก็ไม่ได้จะต้องตายหรอก แต่เซียวเฉวียน อาจจะโกรธจนเอาชีวิตพวกเขาไปก็ได้
ทั้งสองคนจึงจ้องมองเซียวเฉวียนรอให้เซียวเฉวียนพูดซ้ำอีกครั้ง
ในเวลานี้เอง พวกเขาถึงได้พบว่า คำคำนี้ช่างไพเราะเสียเหลือเกิน ราวกับเป็นคำที่ไพเราะที่สุดในโลก
เซียวเฉวียนเหลือบตามองทั้งสองคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ทำไม?อยากจะอยู่ที่จวนเซียว ต่อไปอีกหรือ?"
ความหมายแฝงก็คือ รีบไปซะ
ถึงแม้ว่า ความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอด จะเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ แต่ทั้งสองคน เพื่อที่จะมีชีวิตรอด พวกเขาก็ยอมทรยศต่อหลินฟ่าง และอู๋จี้ อย่างไร้ความลังเล
คนเช่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดี
คนที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่จงรักภักดี จวนเซียวจะไม่ยอมเก็บไว้
คราวนี้ ทั้งสองคนก็เข้าใจความหมายของเซียวเฉวียน แล้วว่าเซียวเฉวียน ตั้งใจจะปล่อยพวกเขาไปจริงๆ
ฮ่าฮ่าฮ่า!
โชคดีจริงๆ!
ทั้งสองคนด้วยความดีใจ ก้มลงกราบเซียวเฉวียน หนึ่งครั้ง "ขอบคุณใต้เท้าเซียว ที่ไม่ฆ่าพวกเรา"
พูดจบ ทั้งสองคนก็ลุกขึ้นอย่างเซๆ แล้วหันหลังกลับ มุ่งหน้าไปที่ประตูใหญ่
แต่พวกเขาเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็หยุดลงกะทันหัน หันกลับมามองเซียวเฉวียน ด้วยความหวังว่าเซียวเฉวียน จะยอมเก็บพวกเขาไว้ที่จวนเซียว
แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไร
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เป็นพวกของหลินฟ่าง และยังช่วยหลินฟ่าง แพร่กระจายข่าวลือไปทั่ว เรียกได้ว่าเป็นพวกเดียวกับเสือ
เซียวเฉวียนปล่อยสองคนไปโดยไม่ฆ่าพวกเขา ก็เป็นโชคดีของพวกเขาแล้ว หากยังหวังว่าเซียวเฉวียนจะให้เขาอยู่ต่อไป ก็คงจะคิดไปเองมากเกินไป
เซียวเฉวียน มองทั้งสองคนด้วยสายตาที่เย็นชาและไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นว่าไม่มีหวังที่จะอยู่ต่อในจวนเซียว ทั้งสองคนจึงหันหลังกลับและเดินไปที่ประตูด้วยท่าทางที่หนักอึ้ง
เจี้ยนจงมองเซียวเฉวียน แล้วถามด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะได้ยินกันแค่สองคนว่า “เหล่าเซียว "จริงเหรอ ปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เลย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...