ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1634

หลังจากเจินฮ่าวได้ฟัง ก็คิดกับตัวเองว่า "สนใจ เรื่องที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ มันน่าสนใจมาก"

แสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "โอ้? ใหญ่แค่ไหนหรือ? ลองบอกมาสิ"

นักสืบหวังซึ่งสังเกตเห็นการแสดงออกของเจินฮ่าวก็กลอกตาด้วยสีหน้าประจบประแจง จากนั้นก็เอาหัวไปแนบหูของเจินฮ่าวแล้วพึมพำคำสองสามคำ

เมื่อแสดงก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแสดงให้ครบชุด

พอเจินฮ่าวได้ฟัง ก็มีสีหน้าประหลาดใจอย่างมาก เขาจ้องไปที่นักสืบหวัง ด้วยดวงตาเบิกกว้าง แทบจะกรีดร้องออกมาว่า "อะไรนะ คิดการกะ-?"

ก่อนที่เขาจะพูดคำว่าบฏ นักสืบหวังก็ยื่นนิ้วชี้ของเขาออกมาทันที วางบนริมฝีปากของเขา พร้อมกระซิบกับเจินฮ่าวว่า "คุณชายเจิน เบาเสียงลงหน่อย"

นี่เป็นเรื่องที่เป็นความลับมาก ท่านอ๋องเชื่อใจท่าน ดังนั้น ข้าน้อยจึงได้บอกกับท่าน หวังว่าท่านจะสามารถร่วมทำการใหญ่กับท่านอ๋อง

ร่วมทำการใหญ่กะผีสิไม่ว่า!

ทำเรื่องเช่นนี้กับเว่ยอี้หรานงั้นรึ?

เว้นแต่ว่าคงเบื่อมีชีวิตแล้ว!

เจินฮ่าวดูไม่สบายใจและพูดว่า "ท่านอ๋องเขา เขากล้าได้ยังไง? หรือว่าเขาไม่กลัวเซียวเฉวียนหรือ?"

เซียวเฉวียนเป็นใคร?

นั่นคือคนที่สามารถทำให้เว่ยเชียนชิวพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ด้วยมือของเขา!

เราจะประมาทมันได้อย่างไร?

การกบฏมิใช่หมายถึงจงใจหาเรื่องเซียวเฉวียนหรอกหรือ?

ไม่ต้องพูดถึงการยึดบัลลังก์ สามารถข้ามด่านเซียวเฉวียนนี้ไปได้ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าจะเดินเส้นทางนี้ จะต้องตายอย่างแน่นอน

เว่ยอี้หรานคาดการณ์ไว้แล้วว่า เจินฮ่าวจะต้องแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ออกมา เขาจึงได้บอกสายลับแล้วว่าจะต้องโน้มน้าวเจินฮ่าวอย่างไร

นักสืบหวังเลิกคิ้วแล้วพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ "คุณชายเจิน ท่านอ๋องของเราคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบสำหรับเรื่องนี้แล้ว และเขามั่นใจว่าจะต้องได้รับชัยชนะ"

"ท่านไม่ต้องกังวล ท่านอ๋องแค่พูดว่า ตราบใดที่ท่านเข้าร่วมกองกำลังของเรา เขาจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้เจินฮ่าวก็แสร้งทำเป็นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลังเลที่จะตัดสินใจ

แน่นอนว่าเรื่องใหญ่เช่นนี้ แน่นอนว่าต้องลังเลสักพัก ถ้าตอบไปโยง่ายดาย มันจะไม่ทำให้เว่ยอี้หรานเกิดความสงสัยเอาได้หรือ?

นักสืบหวังรอแล้วรอ เมื่อเห็นว่าเจินฮ่าวยังคงไม่สามารถตัดสินใจได้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มความประหลาดใจ เขาพูดอย่างลึกลับว่า "คุณชายเจินเป็นคนฉลาด คิดว่าท่านคงจะรู้ด้วยว่า ท่านอ๋องตั้งใจแน่วแน่ที่จะชนะการใหญ่ของเขา ท้ายที่สุด จะไม่มีใครสู้ศึกที่ไม่มั่นใจอย่างแน่นอน"

"ติดตามท่านอ๋อง มันมีแต่จะได้รับผลดีมากกว่าผลเสียสำหรับท่าน"

ความหมายโดยนัยของคำพูดเหล่านี้ก็คือ การกบฏของเว่ยอี้หรานกับเจ้าครองนครคือแน่นอนแล้ว และพวกเขาคือตั้งเป้าที่จะยึดเมืองหลวงได้ มุ่งตรงไปที่พระราชวัง

เมื่อพวกเขาจะเดินทางนี้ พวกเขาจะต้องผ่านรัฐมู่อวิ๋น และรัฐมู่อวิ๋นมีที่ดินอุดมสมบูรณ์ สามารถใช้เป็นยุ้งฉางเก็บเสบียงได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง คงจะดีที่สุดถ้าเจินฮ่าวเข้าร่วมกลุ่มของเว่ยอี้หรานโดยสมัครใจ และทุกคนจะจบลงอย่างมีความสุข

หากเขาไม่ เว่ยอี้หรานทำได้เพียงใช้วิธีรุนแรงเพื่อยึดครองรัฐมู่อวิ๋น

เมื่อถึงตอนนั้น ชาวรัฐมู่อวิ๋นที่เคยประสบกับความวุ่นวายเมื่อไม่นานมานี้ จะต้องพบกับความวุ่นวายอีกครั้ง และพวกเขาจะไม่รู้ว่าพวกเขาจะรอดได้หรือไม่

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่ามีสัญญาณของการคุกคาม

เจินฮ่าวฟังความหมายออก เว่ยอี้หรานคือใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของราษฎรเพื่อคุกคามเจินฮ่าว

ฮึ่ม!

เขาเป็นคุณชายผู้สง่างามของตระกูลเจิน ไม่เคยถูกบังคับ ใช้ชีวิตอย่างตามใจ เขาเกลียดการคุกคามจากผู้อื่นมากที่สุด!

ในเวลานี้ หัวใจของเจินฮ่าวเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

แต่การแอบเข้าหาท่านอ๋องและทำหน้าที่เป็นสายลับคือเป้าหมายสูงสุดของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถแตกแยกกับเว่ยอี้หรานได้ในเวลานี้

เจินฮ่าวระงับความโกรธในใจ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงลึกลับนี้ และพูดด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า "ข้าเข้าใจเจตนาดีของท่านอ๋อง แต่ท่านอ๋องก็รู้ด้วยว่าบุคคลที่รับผิดชอบรัฐมู่อวิ๋นจริงๆ ในตอนนี้คือ ไป๋ฉี่ เขาคือคนของเซียวเฉวียน"

คนจากทาสคุนหลุนสามารถเป็นแม่ทัพได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้

แต่ไป๋ฉี่ทำได้แล้ว

การเป็นแม่ทัพหรือองครักษ์ โดยธรรมชาติแล้วการเป็นแม่ทัพจะดีกว่า

บางทีไป๋ฉี่ที่เคยเป็นแม่ทัพแล้ว ไม่เคยต้องการกลับไปเป็นองครักษ์อีกเลย ที่ยินดีติดตามเจินฮ่าวเพื่อเข้าร่วมกับท่านอ๋อง

เมื่อฟังสิ่งที่สายลับหวังพูด แววตาของเจินฮ่าวเป็นประกายและพูดว่า "วิธีการนี้อาจได้ผล"

เช่นนั้นก็ลองวิธีนี้ก่อน ถ้าไม้อ่อนไม่ได้ผล ให้ลองไม้แข็ง นักสืบหวังพยักหน้าและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นต้องขอรบกวนคุณชายเจินแล้ว"

บรรลุข้อตกลงแล้ว และนักสืบหวังก็ขอตัวลากลับไปปฏิบัติหน้าที่ของเขา

เจินฮ่าวทำทีแสดง ส่งบุคคลนั้นไปที่ประตูอย่างสุภาพ จากนั้นเรียนรู้น้ำเสียงที่ประจบประแจงแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น ขอรบกวนพี่หวังช่วยกล่าวชื่นชมข้าต่อหน้าท่านอ๋องด้วย“

นักสืบหวังที่เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ก็พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาว่า "แน่นอน แน่นอน"

เมื่อหันกลับมา นักสืบหวังก็เปลี่ยนหน้าและพึมพำด้วยสีหน้าที่ดูน่ากลัว " ขอข้าพูดพูดชื่นชมงั้นหรือ? ล้อเล่นนะ ไม่เหยียบย่ำเจ้าก็บุญโขแล้ว“

พูดชื่นชมให้เขา มันมิใช่ทำชุดแต่งงานให้เขา(ตัวเองทำแทนคนอื่นลำบากเสียเปล่า)หรอกเหรอ

แล้วนักสืบหวังก็ยังไม่มีชุดแต่งงาน(ผลงาน)ด้วยตัวเองเลย

หลังจากที่เว่ยอี้หรานใช้เจินฮ่าวเต็มที่แล้ว นักสืบหวังก็จะพูดใส่ร้ายเจินฮ่าวต่อหน้าเว่ยอี้หราน ทำให้เว่ยอี้หรานละทิ้งเจินฮ่าวที่เป็นแค่ตัวหมากไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อเห็นร่างของนักสืบหวัง หายไปเจินฮ่าวก็ไปพบไป๋ฉี่

สถานการณ์ตึงเครียดมาก เจินฮ่าวก็กลัวว่าเขียนจดหมายจะถูกคนของเว่ยอี้หรานขัดขวาง ให้ไป๋ฉี่ใช้จิตติดต่อเซียวเฉวียนเพื่อรายงานสถานการณ์จะสะดวกและปลอดภัย

นับตั้งแต่ไป๋ฉี่อยู่ที่รัฐมู่อวิ๋น ก็ไม่มีปัญหาในรัฐมู่อวิ๋น ดังนั้น ไป๋ฉี่จึงไม่ได้ติดต่อกับเซียวเฉวียน

เมื่อได้รับสัญญาณการเชื่อมจิตจากไป๋ฉี่อย่างกระทันหัน เซียวเฉวียนก็รู้ว่าสถานการณ์ของเจ้าครองนครค่อนข้างเร่งด่วน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย