ยังไงเสียเจี้ยนจงก็เป็นตัวแทนจุดสูงสุดของตระกูลชาวคุนหลุน
หากจุดสูงสุดนั้นยังไม่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ คนอื่นก็คงมิมีใครสามารถ
หรืออีกนัยหนึ่งคือ เมื่อเจี้ยนจงอยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียนจะไม่สามารถมีความลับใดใดได้ ไม่ว่าคนแห่งเขาคุนหลุนจะฝึกฝนอย่างไรมันก็ไร้ประโยชน์ ความลับที่พวกเขาปกปิดไว้ไม่อาจจะเก็บซ่อนได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียน
แต่พลังในการอ่านใจของเว่ยหงและเว่ยหยานนั้นเซียวเฉวียนมิสามารถรับรู้ได้
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็สามารถคิดได้ว่าวิชาวิชาปิดกั้นอ่านใจของสองคนนี้เดิมทีไม่ได้มาจากตระกูลคุนหลุน
ต้องมาจากสำนักหมิงเซียนเป็นแน่
สำนักหมิงเซียนอยู่ในซินเจียงที่แสนห่างไกล เมื่อไม่มีกี่ปีมานี้ได้หลบซ่อนตัวอย่างมิดชิด สิ่งที่คนภายนอกรู้มีเพียงแค่ที่นี่เป็นตัวแทนของเทียนเต๋าและมีวิชาทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งนักปราชญ์ผู้นี้ก็เลื่อนลอยเอาแน่เอานอนมิค่อยได้เท่าไรนัก นอกจากลูกศิษย์ที่ได้รับการยกย่องกับผู้นำสำนักคนสำคัญในตอนนี้แล้วนั้นโอกาสที่จะได้พบกับนักปราชญ์ผู้นี้นับว่าน้อยมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเสียทีเดียว
การที่ได้รับขนานนามว่าเป็นตัวแทนของเทียนเต๋า นักปราชญ์จึงได้มองตนเองว่าเป็นผู้สูงส่ง ไพร่ชนคนธรรมดาไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่นิด เช่นนั้นแล้วเขาทำอย่างไรกันให้ต้องตานักปราชญ์จนได้วิชาที่สำคัญเช่นนี้มา?
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรความเป็นไปได้ก็มีไม่มากนัก
ในตอนแรกนักปราชญ์ต้องการใช้ประโยชน์จากหมิงเจ๋อถึงได้สอนวิชาปิดกั้นอ่านใจแค่พื้นฐานให้ แต่ถึงเช่นนั้นก็ยังมิได้เต็มใจสอน
ยิ่งไปกว่านั้นเว่ยหงและเว่ยหยานก็มิได้มีความสัมพันธ์อะไรกับนักปราชญ์เลยแม้แต่น้อย ระหว่างพวกเขาเองก็ไม่มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามากี่ยวข้องนักปราชญ์ยิ่งไม่มีทางที่จะสอนวิชาปิดกั้นอ่านใจให้ทั้งสองแน่ๆ
หากวิเคราะห์เช่นนี้แล้ว ความเป็นไปได้ที่จะเป็นนักปราชญ์ก็สามารถตัดออกไปได้
แต่เมื่อตัดออกไปก็จะไม่มีผู้ต้องสงสัยคนไหนที่จะเลือกได้แล้ว
นอกจากนักปราชญ์แล้วเซียวเฉวียนยังคิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีผู้ใดสอนวิชาปิดกั้นอ่านใจให้กับเว่ยหงและเว่ยหยานได้อีก
หรือว่าระหว่างสามคนนี้จะมีอะไรที่เราไม่รู้?
วิชาปิดกั้นอ่านใจเป็นข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างระหว่างนักปราชญ์กับพวกเขาอย่างนั้นหรือ?
หรือเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับท่านนักปราชญ์แต่เกี่ยวกับย่าเหยียน
ยังไงเสียย่าเหยียนเองก็เป็นผู้นำของสำนักหมิงเซียน เท่าที่เซียวเฉวียนรู้ชาวซินเจียงนั้นนับถือและภักดีกับย่าเหยียนผู้นี้เป็นอย่างมาก
ดูท่าแล้วย่าเหยียนผู้นี้คงจะมีความสามารถพิเศษอะไรสักอย่างที่พูดเรื่องราวข่มขวัญผู้คนได้
ถ้าเช่นนั้นแล้ว เซียวเฉวียนจะคิดว่าสมมุติฐานที่เขาตั้งมานั้นถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นนักปราชญ์หรือย่าเหยียนก็ล้วนเป็นคนของสำนักหมิงเซียน ดังนั้นเซียวเฉวียนก็แค่ปักเป้าหมายเป็นสำนักหมิงเซียนก็พอแล้ว
ต่อมาเซียวเฉวียนก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเว่ยหงกับเว่ยหยานมีข้อตกลงอะไรกันถึงยิ่งใหญ่พอให้คนสำนักหมิงเซียนถ่ายทอดวิชาที่สำคัญเช่นนั้นให้ได้?
ข้อตกลงนั้นคืออะไรกัน?
หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับการเอาเลือดบริสุทธิ์จากกองทัพตระกูลเซียว?
แต่กองทัพตระกูลเซียวกับสำนักหมิงเซียนก็มิได้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ว่าจะเป็นนักปราชญ์หรือย่าเหยียนก้ไม่มีแรงจูงใจที่จะทำเช่นนี้
ไม่ว่าจะคิดมากมายเพียงใดเซียวเฉวียนก็มิอาจหาจุดเชื่อมโยงได้เลย
เซียวเฉวียนที่คิดเรื่องราวร้อยแปดไม่มีความง่วงเลยสักนิดอีกทั้งเขารู้สึกว่าการอยู่ในกระโจมนี้ทำให้เขาเองรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาจึงลุกขึ้นเพื่อออกไปสูดอากาศ
ทันทีที่ออกมาเขาบังเอิญเห็นเงาดำเงาหนึ่งจากที่ไกลๆผ่านตาไป
ถึงแม้ว่าจะดูไม่ออกว่าเป็นใคร แต่เซียวเฉวียนเห็นชัดเจนว่าในมือคนผู้นั้นได้ถือปืนเอาไว้
ท่าทีลับๆล่อๆเช่นนี้ต้องเป็นคนของเจ้าผู้ครองรัฐเป็นแน่
ต้องเป็นคนที่ที่มาครั้งก่อนพบว่าอาวุธในมือของกองทัพตระกูลฉินนั้นไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ขึงสั่งคนมาเพื่อขโมยมันไปศึกษาเพื่อทำความคุ้นเคยกับมันอีกครั้ง
แม้จะรู้ทิศทางของเงาดำนั้น หากเซียวเฉวียนต้องการจะจับมันก็ย่อมจับได้อยู่แล้ว
แต่เซียวเฉวียนไม่สนใจที่จะไล่ตาม ถ้าพวกเขาต้องการจะศึกษาก็ให้พวกเขาทำไปจะได้ไม่ต้องให้พวกเขาพูดว่าเซียวเฉวียนนั้นกลั่นแกล้งตนเองจนเกินไป
เพียงแต่อย่าเอาปากกระบอกปืนไปจ่อที่หัวตนเองแล้วเหนี่ยวไกก็พอแล้ว
ไม่เช่นนั้น แม้แต่ว่าตนเองตายยังไงก็คงไม่ทันได้ล่วงรู้
เจ้าสิ่งที่เรียกว่าปืนนี้อันตรายมาก ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถนำไปเล่นได้
โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยเห็นปืนเลยอย่างคนโบราณพวกนี้นั้นนับว่ายิ่งอันตรายหากได้มาถือไว้ในมือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการแขวนชีวิตของตนเองเอาไว้กับกระบอกปืนนั้น
ภายใต้ความมืดของราตรี เซียวเฉวียนยกยิ้มขึ้นมาพร้อมคิดในใจว่าปืนกระบอกนั้นเมื่อถึงมือของเจ้าผู้ครองรัฐแล้วถึงแม้จะไม่มีใครต้องสังเวยชีวิตแต่มันก็คงเพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกนั้นหวาดกลัว!
ฮ่าฮ่าฮ่า!
เมื่อแผนการนี้เข้าไปถึงเมืองหลวง เซียวเฉวียนจะให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความยอดเยี่ยมของอาวุธยุคปัจจุบัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...