ไม่ควรดูถูกเซียวเฉวียนจริง ๆ
ก่อนเจอเซียวเฉวียน เว่ยหงรู้สึกว่าการเว่ยเชียนชิวอยู่ในมือของเซียวเฉวียนแล้ว ทำให้เว่ยเชียนชิวโอ้อวดตนเกินไป
พูดตามตรง เว่ยเชียนชิวประมาทข้าศึกเกินไป จึงเผยช่องโหว่ให้กับเซียวเฉวียน จนค่อย ๆ ตกเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเซียวเฉวียนทีละก้าว
ดูทางเว่ยหงคงจะรู้ว่าเขาคิดผิดไป แม้แต่คนที่ระมัดระวังตัวอย่างเขาก็ยังตกหลุมพรางของเซียวเฉวียนได้
เดิมทีไม่ใช่เพราะอยากจัดการอย่างเงียบ ๆ หรือโอ้อวดตนหรอก ประเด็นหลักคือคนอย่างเซียวเฉวียนปลิ้นปล้อนเกินไป
เก่งนักนะ!
พูดเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็ฉลาดตามไปด้วย
เขารู้เรื่องความสามารถของเซียวเฉวียนดี ใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับเซียวเฉวียนไม่มีใครจบสวยสักคน ดังนั้นจึงดึงเซียวเฉวียนเข้ามาในค่ายของตัวเอง ยกย่องเกียรติแห่งความเป็นราชครูให้กับเซียวเฉวียน ทำตามความต้องการของเซียวเฉวียนทุกอย่าง เชื่อในตัวของเซียวเฉวียน
คนอย่างเซียวเฉวียน หากไม่เป็นประโยชน์ต่อฮ่องเต้ มันคงเป็นระเบิดเวลาสำหรับฮ่องเต้ ที่พร้อมจะระเบิดใส่พระวรกายของฮ่องเต้ได้ตลอดเวลา
แทนที่จะทำให้ตัวเองอกสั่นขวัญแขวน สู้ฮ่องเต้ทรงพันธนาการเซียวเฉวียนไว้ในค่ายของตัวเองดีกว่า
เช่นนี้เขาและเซียวเฉวียนก็ต้องกลายเป็นคนที่ลงเรือลำเดียวกัน ไม่ต้องกังวลว่าเซียวเฉวียนจะหักหลังเขา
อีกทางหนึ่ง ต่อให้เซียวเฉวียนคิดจะทำร้ายเขา แค่ความสามารถของเซียวเฉวียน ฮ่องเต้ก็คงจะหมดปัญญา
ไม่มีสิ่งใดน่าเชื่อถือไปกว่าเซียวเฉวียนแล้ว
จากการตรวจสอบความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชา เว่ยหงต้องขอชื่นชมฮ่องเต้
นัยน์ตาของเขาโดดเดี่ยว กระทั่งได้รับเลือกให้อยู่ในค่ายกับเขาตั้งแต่แรก
ต่อมาเขามีความลำเอียงกับเซียวเฉวียนมากขึ้น คิดหาทางเพื่อรั้งเซียวเฉวียนไว้ ถึงขั้นตำหนิเหล่าขุนนางเพื่อเซียวเฉวียน
อย่าว่าแต่ด้านการเมือง เว่ยหงรู้สึกว่าฮ่องเต้ทรงเป็นฮ่องเต้ที่ดี
เพียงแต่เขาทำเพื่อฮ่องเต้ เว่ยหงทำเพื่อเจ้าครองนคร ฮ่องเต้ประสงค์รวมอำนาจแห่งจักรพรรดิ เจ้าครองนครไม่อยากเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ยอมให้ฮ่องเต้ได้ประโยชน์จากพวกเขา
จุดยืนของฮ่องเต้และเจ้าครองนครนั้นต่างกัน ขืนช้ากว่านี้คงเกิดสงครามที่น่าสะพรึงกลัวเป็นแน่
เพราะปืนกระบอกเดียว ทำให้เว่ยหงคิดไม่วิตก ยิ่งคิดก็ยิ่งไกล การปรากฏตัวของปืนทำให้เว่ยหงปวดหัวจริง ๆ
เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้ ต่อให้เจ้าครองนครจะกล้าหาญและเก่งการต่อสู้เพียงใด เนื้อหนังมังสาก็ยังต้านทานความแหลมคมของอาวุธไม่ได้อยู่ดี
เว้นเสียแต่ว่าทหารของเจ้าครองนครจะใส่เสื้อเกราะที่ปืนยิงไม่ทะลุดาบแทงไม่เข้า
แต่แบบนี้มันก็ดูเกินจริง
ดังนั้นหงเว่ยจึงพอคิดได้ว่าภายใต้สถานการณ์นี้ ทันทีที่สงครามเริ่มขึ้น เหล่าทหารของเจ้าครองนครต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
แพ้อย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ
หากอยากชนะ คงจะเผชิญหน้ากับกองทัพฉินตรง ๆ ไม่ได้ ต้องคิดหาทางฉวยโอกาสยามที่ตระกูลฉินไม่รู้ตัวลอบโจมตี
หากจะลอบโจมตี พูดง่ายกว่าทำ
ยาก!
รับมือยากมาก!
เวลาล่วงเลยผ่านไป เว่ยหงทอดถอนใจเสียงทุ้มต่ำ “พูดตามตรง บัดนี้ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร”
พลาดก้าวเดียว แพ้ทั้งกระดานจริง ๆ นะ
ผิดก็ว่าไปตามผิด หลังจากนี้จะต้องวางแผนก่อการกบฏที่รัดกุมมากกว่านี้ แต่คนของเซียวเฉวียนรู้เรื่องนี้ด้วย
คาดไม่ถึงว่าคนในค่ายของเซียวเฉวียนจะมีอำนาจแทรกแซงเข้ามาได้ลึกขนาดนี้
เป็นเรื่องที่ลับเฉพาะจริง ๆ
คืนนี้เป็นคืนที่นอนไม่หลับสำหรับเว่ยหงและเว่ยหยาน
ไม่ว่าค่ำคืนจะยาวนานแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องผ่านไปได้อยู่ดี
ดวงอาทิตย์เช้าวันใหม่ หมายความว่าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ช่วงใกล้รุ่งสาง เว่ยหงเพิ่งได้นอน ประกอบกับความเหนื่อยล้าจากการเดินทางในช่วงสองสามวันนี้ ความรู้สึกนี้ เว่ยหงหลับจนกระทั่งเว่ยอี้หรานมาหา เขาถึงจะตื่น
เวลานี้ ดวงอาทิตย์ได้ขึ้นสูงแล้ว ทันทีที่เว่ยหงเปิดประตู แสงแดดก็สาดส่องเข้าตาพอดี
เว่ยหงอดหรี่ตาลงไม่ได้ มองไปทางเว่ยอี้หราน “ไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพมีเรื่องอะไร?”
เว่ยอี้หรานมองเว่ยหงแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงราบเรียบ “เมื่อคืนข้าได้ยินเสียงจากทางนี้ แต่ไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ กลัวว่าจะมารบกวนเวลาพักผ่อนของท่านแม่ทัพ จึงไม่ได้มาตรวจสอบ”
มาตอนนี้คงอยากถามว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นสินะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...