ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1665

เหล่าเจ้าครองนครค่อย ๆ มองมาที่เซียวเฉวียน

สีหน้าที่ดูประหลาดใจนั้นไม่น้อยไปกว่าช่วงเวลาที่ได้ยินเสียงปืนเมื่อครู่สักนิด

เพราะเซียวเฉวียนยืนอยู่หน้าพวกเขาแล้ว ด้านนอกจึงไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

เห็นได้ชัดว่าทหารที่ยืนประจำการด้านนอกไม่เห็นเงาของเซียวเฉวียน

หากเป็นยามราตรีคงช่างมันไปแล้ว แต่ตอนนี้เป็นช่วงกลางวันแสก ๆ คนตัวตั้งใหญ่เข้ามาถึงที่กลับไม่ถูกจับได้ เห็นได้ชัดว่าศักยภาพของเซียวเฉวียนนั้นน่าทึ่งมาก

เมื่อวานเซียวเฉวียนไม่ฉวยโอกาสฆ่าเว่ยหง เซียวเฉวียนตั้งใจออมมือ

แม้แต่เว่ยหงยังคิดเช่นนี้

ซึ่งในตอนนี้ เว่ยหยานเข้าใจความหมายที่เว่ยหยานกล่าวไว้เมื่อวาน ไม่ผิด ไม่ใช่เพราะเว่ยหงไม่อยากปล่อยเซียวเฉวียนหรือปล่อยเซียวเฉวียนไม่ได้ เดิมทีศักยภาพของเซียวเฉวียนไม่ธรรมดา ยากจะรับมือ

พูดตามตรง เขาเหมือนลมที่พัดผ่านไป

นั่นนะสิ กลางวันแสก ๆ เช่นนี้ ค่ายทหารของเจ้าครองนครหูตาเป็นสับปะรด เขานึกจะมาก็มา ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

เว่ยหงที่เคยรับมือกับเซียวเฉวียนมาก่อน พอจะเดาศักยภาพของเซียวเฉวียนได้

ดังนั้นเขาไม่ได้ตื่นตระหนกกับการมาถึงของเซียวเฉวียนนัก ความสนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่การบุกเข้ามาในค่ายโดยที่ไม่มีใครรู้ของเซียวเฉวียน แต่อยู่ที่ปืน

เซียวเฉวียนเรียกสิ่งนี้ว่าปืน

เว่ยหงประหลาดใจมาก ที่มาของปืนกระบอกนี้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มองเซียวเฉวียนบุคคลที่ ‘นอกเหนือการควบคุม’ คนนี้อย่างตั้งใจ?

เซียวเฉวียนส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ สหายที่ข้ารู้จักเป็นคนทำให้ เมื่อครั้งที่ข้าไปฝึกฝนวิทยายุทธ์ที่ซินเจียง”

จะบอกว่าเซียวเฉวียนทำเองไม่ได้ มากสุดก็ได้แค่เซียวเฉวียนหามาได้

ประโยคนี้ทำให้เว่ยหงจมอยู่ในความคิดครู่หนึ่ง การฝึกวิทยายุทธ์ของเซียวเฉวียนเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วเมื่อสองสามเดือนก่อน เรื่องนานเช่นนี้ กลับไม่มีข่าวลือ ไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนเก็บความลับเก่งหรือสายลับที่เหล่าเจ้าครองนครส่งเข้าไปไร้ประโยชน์กันแน่?

เมื่อวิเคราะห์จากประสบการณ์และตรรกะของเว่ยหงแล้ว ต่อให้เซียวเฉวียนจะเก็บความลับเก่งเพียงใด คงปกปิดโดยไม่รั่วไหลเลยสักนิดก็ไม่ได้!

เรื่องนี้เว่ยหงยิ่งคิดก็ยิ่งประหลาดใจ แต่น่าแปลกที่เขาพูดไม่ออก

คงพูดไม่ได้ว่าสหายของเซียวเฉวียนที่อยู่ดี ๆ ก็ผลิตปืนออกมามากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?

ในเมื่อทำได้ ไม่แปลกที่บางคนจะเก็บไว้ บางคนส่งไปให้ตระกูลฉินและบางคนก็สอนวิธีการใช้กับกองทัพฉิน

ผู้คนมากหน้าหลายตา มักจะมีคนโพล่งออกมาอย่างไม่ทันระวังตัว

แต่ความจริงมันก็ไม่สมเหตุสมผล เซียวเฉวียนกลับทำมันออกมาโดยไม่มีใครรู้

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก

เวลานี้เว่ยหยานยกปากกระบอกปืนจ่อหน้าเซียวเฉวียน นัยน์ตาของเข้าแฝงไปด้วยแววตาแห่งความลำพองใจ เหมือนกำลังคิดว่าเขาใช้ปืนกระบอกนี้ฆ่าเซียวเฉวียนได้

เซียวเฉวียนชำเลืองมองเว่ยหยานด้วยแววตาเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า “ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล ที่ข้ามาในวันนี้มีแค่เป้าหมายเดียว ไม่ได้จะมาทำร้ายพวกเจ้า”

“ข้าแค่อยากมาถามพวกเจ้าว่าพวกเจ้าสู้กับศึกครานี้ได้หรือไม่”

พอได้ยิน สีหน้าของเว่ยหยานก็เปลี่ยนเป็นสับสนขึ้นมา

เขาคิดว่าเซียวเฉวียนอวดดี และเพราะประโยคที่ว่านั้นของเขา “ไม่ได้จะมาทำร้ายพวกเจ้า” ทำให้สบายใจขึ้น

คิดว่าที่เซียวเฉวียนอวดดี ขนาดปืนจ่อหน้าขนาดนี้เขาก็ยังทำตัวสบายใจเช่นนี้ได้ ราวกับว่าที่จ่ออยู่ตรงหน้านั้นเป็นแค่นิ้วของเว่ยหยาน ไม่ได้อยู่ในสายตาของเซียวเฉวียน

ปืนกระบอกนั้นเป็นปืนที่เขาหามาได้ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความร้ายกาจของปืนที่สุด ปืนจ่ออยู่ตรงหน้าเขา ทำไมเขาถึงยังทำตัวสบายใจเช่นนี้ได้อีก?

เว่ยหยานแปลกใจมาก เซียวเฉวียนไม่กลัวตาย ทั้งยังคิดว่าตัวเองจะหลบกระสุนปืนกระบอกนี้ได้อย่างนั้นหรือ?

“เซียวเฉวียน เพียงแค่ข้ากระดิกนิ้วนิดเดียว เจ้าไม่กลัวว่าตัวเองจะหลบไม่ทันอย่างนั้นหรือ?” เว่ยหยานอดถามออกไปไม่ได้

กล้าอวดดีกับเว่ยหยานรึ?

ไม่อยากมีชีวิตยืนยาวใช่ไหม?

แน่นอนว่านี่คือเงื่อนไขที่เซียวเฉวียนใช่ขู่เพื่อให้เหล่าเจ้าครองนครยอมจำนนเท่านั้น ความจริงแล้วต่อให้พวกเขาไม่ยอมจำนน ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางฆ่าเจ้าครองนคร

ได้รับผลกระทบจากเซียวเฉวียน ฮ่องเต้เริ่มนำเหตุผลการฆ่าผู้บริสุทธิ์และครอบครัวผู้โชคร้ายมาลงโทศขุนนาง

จากคำกล่าวของเซียวเฉวียน ระบบนี้ไม่เพียงแต่จะโหดร้ายแล้วทั้งยังไม่ยุติธรรมอีกด้วย

จะฆ่าทั้งครอบครัวเพียงเพราะมีคนทำพลาดแค่คนเดียวไม่ได้

ปลาเน่าตัวเดียว ไม่ได้หมายความว่าจะเหม็นไปทั้งเข่ง

จะฆ่าทุกคนเพียงครั้งเดียวไม่ได้

เซียวเฉวียนปกป้องคนบริสุทธิ์ แต่การจะสมคบคิดกับเจ้าครองนคร เซียวเฉวียนไม่ยอมแน่ คนช่วยควรได้รับการลงโทษ

สาเหตุที่เซียวเฉวียนมาชักจูงพวกเขา นั้นเป็นเพราะเขาเห็นว่าเมื่อวานเว่ยหงให้ความสำคัญกับครอบครัว

ประกอบกับสถานการณ์ของเหล่าเจ้าครองนครไม่เอื้ออำนวย ความเป็นไปได้ที่จะชนะศึกครานี้เท่ากับศูนย์

เชื่อว่าพวกเขาต้องมีความตระหนักในตนเอง

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงขอเดิมพัน ดูสิว่าเว่ยหงจะยอมปล่อยเพื่อครอวครัวไหม

เมื่อโพล่งออกไป นัยน์ตาของเว่ยหงก็เกิดความลังเล

เวลานี้ เว่ยอี้หรานได้ส่งเสียงเย็นชา “เซียวเฉวียน เจ้าใจดีจริง ๆ นะ?”

แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมารมาตลอด หากพวกเขายอมจำนนเช่นนี้ เปลี่ยนข้างแล้วฆ่าพวกเขาสิ้นโครตเสีย จะยอมไว้ชีวิตครอบครัวของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?

ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน กบฏคนไหนไม่ถูกขับไล่หรือฆ่าทิ้งบ้าง?

จักรพรรดิองค์ใดไม่กลัวไฟป่าที่กำลังจะดับมอด ลมฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะหวนกลับมาอีกครั้งบ้าง?

เซียวเฉวียนใจดีเช่นนี้เชียวหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย