ไฟไหม้รุนแรงกว่าที่ทั้งสองคนคาดไว้มาก
ไฟลุกลามไปทั่วทั้งโรงน้ำชา
จากตอนเริ่มไฟไหม้จนถึงตอนนี้ เพียงครึ่งกำมือธูป ไฟก็ลุกลามขนาดนี้ คงเดาได้ว่า คนที่วางเพลิงนั้นทุ่มเททุนสร้าง ต้องการเผาหอปี๋เซิ่งให้วอดวาย
แม้จะดับไฟได้ แต่ก็ต้องสร้างโรงน้ำชาใหม่
อย่างที่เซียวเฉวียนพูด ไฟไม่ได้เผาแค่ตัวอาคาร แต่เผาเงินทอง!
สรุปแล้ว ถ้าโรงน้ำชาถูกไฟไหม้ เซียวเฉวียนก็ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว หรือไม่ก็อี้กุยต้องกลายเป็นคนที่ถูกหลอกง่าย
จากที่เจี้ยนจงรู้จักเซียวเฉวียน มีโอกาสถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ที่อี้กุยจะเป็นคนที่ถูกหลอกง่าย
เซียวเฉวียนรักเงินก็จริง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ อี้กุยทุ่มเทให้เซียวเฉวียนสุดหัวใจ
ในสายตาอี้กุย ตราบใดที่ช่วยเซียวเฉวียนแบ่งเบาภาระและคลายความกังวลได้ แม้จะต้องใช้เงินทองมากมาย อี้กุยก็ไม่ลังเล
ก็ใครทำให้อี้กุยมีแต่เงินเหลือล้น แต่ไร้สิ่งอื่นใดล่ะ!
โชคดีของเซียวเฉวียนจริง ๆ ที่มีหลานชายที่ร่ำรวยล้นฟ้าและทุ่มเทให้เขาขนาดนี้
สำนักดาบพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เสี่ยวเซียนชิวเจ้าไปดูที่บ่อนพนันหน่อย ที่นี่ให้บรรพชนจัดการเอง”
หากเจี้ยนจงเดาไม่ผิด ตอนนี้บ่อนพนันก็น่าจะไฟลุกโชนเช่นกัน
การที่มนุษย์ธรรมดาจะเข้าไปดับไฟนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะถึงขั้นเอาชีวิตไม่รอด
เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยวเซียนชิวตอบอย่างร่าเริงว่า “ข้ารับคำท่านบรรพชน”
เสี่ยวเซียนชิวตอบรับอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ร่างของเขาก็หายไป
“ยังมีคนอยู่ข้างในอีกไหม?”
เจี้ยนจงถามเสียงเย็น
พนักงานที่หนีออกมาจากหอปี๋เซิ่งตอบว่า “ทุกคนหนีออกมาหมดแล้ว”
ดีแล้ว ข้างในไม่มีคน เจี้ยนจงก็สามารถโชว์ฝีมือได้
เจี้ยนจงหรี่ตาลง ดวงตาของเขาฉายแววเย็นชา เขาพลิกข้อมือ “ป๊าบ” พัดในมือของเขาถูกเปิดออก
ทันใดนั้น เขาก็โบกพัดไปทางหอปี๋เซิ่ง ลมแรงพัดมา อุณหภูมิรอบข้างลดลงสิบกว่าองศาในทันที ทำให้ชาวบ้านที่ยืนดูอยู่ตัวสั่น
หนาวจริง ๆ
ลมพัดครั้งนี้ทำให้ไฟอ่อนลง
แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไฟก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เปลวไฟลุกโชน
การดับไฟต้องใช้น้ำ
เจี้ยนจงมองไปที่ถังน้ำในมือของคนข้าง ๆ
เขาสั่งเสียงดัง “ทุกคนรีบไปหาบน้ำมาให้เยอะ ๆ”
เมื่อมีน้ำเพียงพอ บวกกับลมหนาวของสำนักดาบ การดับไฟครั้งนี้จึงเป็นไปได้
เมื่อได้ยินคำสั่ง ทุกคนก็รีบไปหาบน้ำ
เมื่อน้ำมาถึง เจี้ยนจงก็ใช้พลังภายในขับเคลื่อนน้ำในถัง ทำให้ลอยขึ้นกลางอากาศ
ชาวบ้านเห็นน้ำเป็นก้อนลอยอยู่กลางอากาศ ต่างก็ตกตะลึง
ว้าว!
เจ๋งสุดๆ ไปเลย!
น้ำยังเล่นแบบนี้ได้อีกเหรอ?
สุดยอดจริงๆ!
ทันใดนั้น ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องของผู้คน ศิษย์เจี้ยนจงก็ยกมือที่ถือพัดขึ้น พัดเบาๆ
ลูกน้ำกระจายออกไปเผชิญหน้ากับพลังอำนาจเย็นยะเยือก ก่อนที่จะกลายเป็นลูกเห็บเล็กๆ ตกลงสู่ทะเลเพลิงอย่างต่อเนื่อง
โชคดีที่ผู้คนตักน้ำมาเติมได้ทัน ศิษย์เจี้ยนจงจึงเริ่มใช้ทักษะการโยนลูกปัดน้ำแข็งรอบที่สอง
ด้วยเหตุนี้ เพลิงไฟในหอปี๋เซิ่งจึงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด และยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนลงไปอีก
ส่วนชาวเมืองที่มุงดู ต่างก็ลืมจุดประสงค์แรกที่ตนเองมาดูด้วยความตื่นตาตื่นใจกับการแสดงอันน่าทึ่งของเจี้ยนจง
ลูกปัดน้ำแข็งลูกเล็กนับไม่ถ้วนพุ่งลงใส่ทะเลเพลิง ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
ประชาชนต่างพากันสรรเสริญเจี้ยนจง
เพลิงไฟก็อ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัดด้วยการโจมตีของลูกปัดน้ำแข็งลูกเล็ก ๆ เหล่านี้
เสี่ยวเซียนชิวเดินทางไปยังบ่อนพนันตามคำสั่ง แต่เมื่อเห็นสภาพบ่อนพนันของพ่อที่ถูกไฟไหม้จนวอดวาย ถึงกับโกรธแค้นจนตัวสั่น
ช่างเป็นเรื่องที่โจ่งแจ้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...