เห็นเซียวเฉวียนรอค่อยไม่ยอมเริ่มกินอาหารเช้า สีหน้าของทาสคุนหลุนดูเคร่งเครียดขึ้นมา สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยถามขึ้นว่า “ใต้เท้าทุกท่าน เป็นเพราะว่าอาหารเช้าที่นี่ไม่ถูกปากพวกท่าน?”
“ถ้าใช่ พวกท่านสามารถบอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะไปทำให้ใหม่”
ดวงตาของเซียวเฉวียนเหลือบมองมานจงเฮ่อและพูดว่า “ลุงจง ท่านเข้าใจผิดแล้ว”
ทันใดนั้นสายตาของเซียวเฉวียนก็เป็นประกาย และพูดว่า “เพียงแค่ตามปกติที่พวกเรากินอาหารเช้า พวกเรากินข้าวต้ม จนกลายเป็นความเคยชินแล้ว”
“ตอนนี้มีของกินมากมาย ข้ากังวลว่ากระเพาะของพวกเราจะย่อยอาหารไม่ได้”
อื้ม การพูดแบบนี้ เซียวเฉวียนคิดว่าเป็นคำพูดที่ดูดี
ทั้งสามารถช่วยให้ทาสคุนหลุนประหยัดอาหาร และสามารถรักษาหน้าของพวกเขาไว้ได้ด้วย ไม่ทำให้พวกเขาต้องคิดมาก
ได้ยินดังนั้น มานจงเฮ่อและคนอื่นก็หันมองหน้าเขาทันที
ทันใดนั้นเซียวเฉวียนก็พูดขึ้น “รบกวนให้ลุงจงเก็บอาหารพวกนี้ออกไปด้วย เอาไปแบ่งให้ทุกคนกินเถอะ”
คำพูดของเซียวเฉวียน มานจงเฮ่อไม่ได้ลังเลสงสัย ดังนั้นจึงทำตาม เหลือเพียงข้าวต้มไว้ให้พวกของเซียวเฉวียน
รอหลังจากที่เซียวเฉวียนและคนอื่นกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เซียวเฉวียนก็ทิ้งไป๋ฉี่เอาไว้ที่นี่ เพื่อเป็นการป้องกันดูแลความปลอดภัยให้กับทาสคุนหลุน ถ้านักปราชญ์กล้ามา ไป๋ฉี่ก็สามารถส่งข่าวบอกเซียวเฉวียนได้ทันเวลา
เซียวเฉวียนพาเจี้ยนจงและคนอื่นๆไปด้วย ไปสืบหานักปราชญ์บริเวณรอบๆ
เมื่อวานนักปราชญ์มาปรากฏตัวบริเวณนี้ และยังปรากฏตัวออกมาเพียงคนเดียว แสดงว่าที่ที่นักปราชญ์อยู่ก็น่าจะเป็นที่รัฐหู
จากการที่เซียวเฉวียนคาดเดาไว้ ระยะทางน่าจะห่างจากที่นี้ไม่ไกลมาก
มิฉะนั้น ทำไมนักปราชญ์ถึงไม่พาเสวียนจิ้งมาด้วย?
ไม่พามาด้วยมีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นคือ เรื่องที่นักปราชญ์ออกไป เป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือออกมาเพียงเพื่อสืบข่าวเกี่ยวกับทาสคุนหลุน
บังเอิญว่าเขาได้พบกับทาสคุนหลุนระหว่างทางพอดี
ดังนั้น เซียวเฉวียนคิดว่า จะสืบหานักปราชญ์รอบๆบริเวณนี้ เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว
และเซียวเฉวียนกับคนอื่นๆเดินมุ่งหน้าไปตามทิศทางของปากถ้ำเพื่อตามหา
ในสถานการณ์ที่เร่งรีบเช่นนี้ ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว เกิดจากสัญชาตญาณล้วนๆ
ดังนั้น ทิศทางที่ตรงเข้าไปที่ปากถ้ำอาจเป็นทิศทางที่นักปราชญ์หลบหนีไป หรืออาจจะมีร่องรอยการหลบหนีของนักปราชญ์
มุ่งหน้าค้นหาไปยังทิศทางนี้ไม่ผิดแน่นอน
หลังจากที่เซียวเฉวียนและคนอื่นเริ่มเดินทาง เมื่อเห็นสถานที่ที่มีคน พวกเขาก็หยุดลง สอบถามว่าช่วงนี้มีคนแปลกหน้าจากที่อื่นเข้าออกในหมู่บ้านของพวกเขาบ้างหรือไม่
คนๆนั้นเป็นคนของหมู่บ้านจางพอดี เพราะที่บ้านของเขาเกลือหมดพอดี จึงออกมาซื้อเกลือ ก็เลยได้พบกับพวกของเซียวเฉวียน
คนๆนี้ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านนี่มาตลอด เขาออกไปจากบ้านไกลที่สุด ก็แค่ไปตลาด
พบเจอคนส่วนใหญ่ก็เป็นแค่คนที่เหมือนกันกับพวกเขา เป็นประชาชนธรรมดาทั่วไป ไม่เคยเจอคนอย่างเซียวเฉวียนที่ดูมีความสง่างามเปล่างประกายอย่างนี้?
เพียงแค่มองดู คนๆนั้นก็รู้ว่าเซียวเฉวียนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาตกใจตัวสั่นเหลือบมองเซียวเฉวียนและคนอื่นๆเล็กน้อย หลังจากนั้นน้ำเสียงสั่นเครือพูดอะไรก็ไม่รู้ ต้องการจะเดินอ้อมผ่านเซียวเฉวียนและคนอื่นไป
สำหรับประชาชนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้เคยได้พบเจอคนอื่นมานาน เขาไม่กล้าจะมองหน้าเซียวเฉวียนและพวกของเซียวเฉวียน
รีบออกไปให้ห่างๆจะดีที่สุด
ในตอนนั้น เซียวเฉวียนก็พูดขึ้นว่า “พี่ชาย ท่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิด พวกเราเพียงแค่ต้องการจะสอบถามก็เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดร้ายอะไร”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คนๆนั้นก็หยุดเดิน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดว่า “คนแปลกหน้าข้าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ”
สองวันที่ผ่านมานี้ เขาสังเกตเห็นว่าครอบครัวนั้นเก็บผักกลับไปเยอะกว่าปกติ และยังเห็นที่ลานบ้านของพวกเขา มีเสื้อผ้าตากไว้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก
ประชาชนธรรมดาสวมชุดเสื้อผ้าป่าน เสื้อผ้าที่ตากอยู่ที่ลานบ้านของครอบครัวนั้นเสื้อผ้าทำมาจากผ้าไหม
ดูท่าทางแล้วครอบครัวของพวกเขาน่าจะมีคนมา
แต่เป็นใคร ข้าก็ไม่เคยเห็น
ได้ยินดังนั้น เซียวเฉวียนก็รู้สึกมั่นใจว่านักปราชญ์และเสวียนจิ้งจะต้องอยู่ที่หมู่บ้านจาง
ดังนั้น หลังจากสอบถามข้อมูลของหมู่บ้านจางจากคนๆนั้นแล้ว เซียวเฉวียนก็ขอบคุณ และมุ่งหน้าเข้าไปในหมู่บ้านจาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...