ความจริงอยากจะตะโกนเรียกว่านายท่านเซียวเฉวียน แต่จู่ ๆ เหมิงเอ้าก็นึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่ไป๋ฉี่เป็นแม่ทัพ เขายืนกรานให้ไป๋ฉี่เรียกเขาว่าใต้เท้าเซียว
ดังนั้นเหมิงเอ้าจึงเปลี่ยนคำเรียก
ยามอยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียนจะต้องฉลาด อย่าทำให้เขาไม่พอใจ
เซียวเฉวียนที่ยืนอยู่ห่างไกลเป็นหมื่นหลี้ จู่ ๆ ก็ได้รับการคุยผ่านกระแสจิตจากเหมิงเอ้า เรียกตนเองว่าใต้เท้าเซียว และคาดว่าฮ่องเต้แต่งตั้งเหมิงเอ้าเป็นข้าราชการ
เพียงแต่ไม่รู้ว่าฮ่องเต้พระราชทานตำแหน่งอะไรให้กับเหมิงเอ้า
เซียวเฉวียนตอบกลับผ่านกระแสจิต “เหมิงเอ้า เจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการแล้วหรือ?”
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เหมิงเอ้าจะเรียกเซียวเฉวียนเช่นนี้ได้อย่างไร?
โดยปกติแล้วจะเรียกขานว่านายท่าน
ซึ่งเขาควรจะเรียกเช่นนี้ แต่เป็นเพราะได้บทเรียนจากไป๋ฉี่
จะว่าไปแล้ว เจ้าเหมิงเอ้าเองค่อนข้างมีความฉลาดหลักแหลมในบางครั้ง
เหมิงเอ้าจึงตอบกลับ “อืม ข้าปกปิดอะไรจากใต้เท้าเซียวไม่ได้เลย”
“ฝ่าบาทแต่งตั้งให้ข้าเป็นเจิ้นซีเจียงจวิน ขุนพลพิทักษ์ประจิม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวังหลวงในอดีต”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เจ้าสูญเสียข้าไปแล้ว และข้าไม่สามารถอยู่กับเจ้าได้อีกต่อไป
วังหลวงจึงเปลี่ยนมาเป็นซินตู อืม มันจำเป็นต้องเปลี่ยนจริงๆ
เซียวเฉวียนพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ “ข้าขอแสดงความยินดีด้วย ในที่สุดเจ้าก็มาถึงวันนี้แล้ว!”
ซินตูเป็นสถานที่ที่สำคัญในอดีต เพราะมีฐานะเป็นวังหลวงแห่งซินเจียง
ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งให้เหมิงเอ้าดำรงตำแหน่งเจิ้นซีเจียงจวิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฮ่องเต้ทรงไว้วางใจเหมิงเอ้ามาก
“ดังนั้น ใต้เท้าเหมิงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ให้ดี อย่าทำให้ฝ่าบาททรงผิดหวัง”
และมันควรจะเป็นเช่นนี้
ประเด็นสำคัญคือเหมิงเอ้าเป็นข้าราชการครั้งแรก เขาไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร
เซียวเฉวียนกล่าวต่อ “ไม่ว่าเวลาใดหรือเรื่องใดๆก็ตาม ขอเพียงแค่เจ้าไม่ทำสิ่งที่ต้องละอายแก่ใจตนเอง เจ้าก็จะประสบความสำเร็จ”
การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ จัดการกับสิ่งต่าง ๆ เจ้าจะต้องมีมโนธรรม
มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งมากแล้ว
คำพูดดังกล่าว ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนเคยบอกไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าอยู่หลายครั้ง ทั้งสองคนฟังจนสามารถเล่าได้อย่างละเอียด และทั้งคู่ก็ประพฤติตามอีกด้วย
เพียงแต่เหมิงเอ้าไม่คิดว่า เป็นข้าราชการแล้วจะทำเช่นเดิมได้
เมื่อได้ยินเซียวเฉวียนพูดดั่งนี้ เหมิงเอ้าก็มีความมั่นใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าตนเองสามารถเป็นเจียงจวินที่บริหารจัดการซินตูได้ดี และที่สำคัญจะไม่ทำให้ฮ่องเต้ผิดหวังหรือต้องทำให้เซียวเฉวียนเสียหน้า
เพราะเขาเป็นราชองครักษ์ที่เซียวเฉวียนพาออกมา
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเจิ้นซีเจียงจวินแล้ว แต่ก็ยังเป็นผู้อารักขาของเซียวเฉวียนอยู่
เหมิงเอ้ากล่าวอย่างมั่นใจ “ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”
“ขอบพระคุณใต้เท้าเซียวสำหรับคำแนะนำ!”
เซียวเฉวียนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่เป็นไร ข้าและเจ้าเป็นสหายกัน ก็ควรที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน”
ทั้งสองพูดคุยกันครู่หนึ่ง ก่อนที่การคุยผ่านกระแสจิตจะจบลง
เรื่องที่เหมิงเอ้าได้เป็นเจิ้นซีเจียงจวิน พูดด้วยความสัตย์จริง มันเป็นสิ่งเหนือความคาดหมายของเซียวเฉวียน
เพราะในช่วงเวลานี้ตนเองมัวยุ่งอยู่กับการจับกุมนักปราชญ์ ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องในศาลเฉา ฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าฮ่องเต้วางแผนเช่นนี้
ซินตูเป็นสถานที่สำคัญในซินเจียง เซียวเฉวียนคิดว่าฮ่องเต้คงไม่ปล่อยให้เหมิงเอ้าผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มาบริหารจัดการ เขานึกว่าฮ่องเต้จะแต่งตั้งให้เหมิงเอ้าประจำตำแหน่งรองแม่ทัพหรืออะไรสักอย่าง เพื่อให้เหมิงเอ้าฝึกฝนและเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์
แต่เซียวเฉวียนไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า ฮ่องเต้จะกระทำการที่ยิ่งใหญ่ฉันนี้ ยอมมอบตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ให้แก่เหมิงเอ้า
เพื่อสิ่งนี้ ฮ่องเต้จึงโต้เถียงกับเหล่าเสนาบดีในศาลเฉาใช่หรือไม่?
ทำให้ฮ่องเต้น้อยลำบากใจเสียจริง
อย่างไรก็ตาม สามารถอธิบายในอีกแง่มุมหนึ่งคือ ฮ่องเต้ทรงใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เพื่อพัฒนาและการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของต้าเว่ย
ทว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม การที่ฮ่องเต้แต่งตั้งให้เหมิงเอ้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี!
ณ บัดนี้เซียวเฉวียนและเจี้ยนจงกำลังย่างมันเทศรอบกองไฟ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...