อ่านสรุป ตอนที่1867 ต่อสู้ด้วยชีวิต จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ ตอนที่1867 ต่อสู้ด้วยชีวิต คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ในสายตาของคุณยาย นักบุญไม่เพียงแต่ยืนกรานในความคิดนี้เท่านั้น แต่เขายังรนหาที่ตาย
ช่างโง่เขลาเสียจริง!
เมื่อลองคิดดูแล้ว ในตอนนั้นเซียวเฉวียนก็ยังไม่มีพลัง แต่ทำไมหมิงเจ๋อทำอะไรเขาไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เทพเจ้าจงใจ แล้วนี่มันอะไรกัน
อย่างไรก็ตาม เหล่านักบุญมได้ยึดมั่นหลักความคิดที่ว่า “ต้องจำจัดเซียวเฉวียนสถานเดียว!” การที่ทำให้แบบนี้ ทำให้พวกเขาเปิดเผยตัวตนลำหายนะมาสู่นิกายคุ
หมิงเซียน
หากไม่ได้มากจากนิกายหมิงเซียนด้วยกัน ป่านนี้คุณยายเหยียนคงตีเขาจนตาย
นี่มันเกินความคาดหมายของเซียวเฉวียนเสียจริง เขาไม่คิดว่าคุณยายเหยียนจะดูถูกคนได้ถึงเพียงนี้
ขณะที่คุณยายเหยียนพูด เซียวเฉวียนก็ต้องกรแอบฟังความในใจของเธอเอง แต่ทว่าเขานั้นไม่สามารถฟังได้
นับว่าเป็นคนที่มีจิตใจแน่วแน่อยู่ตลอดเวลาเลยคนหนึ่ง
เมื่อแอบฟังมาถึงตรงนี้แล้ว เซียวเฉวียนก็อดใจไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า: “ท่านมาที่นี่มีจุดประสงค์อะไรกัน”
มันคงไม่ใช่การที่ท่านเดินมา ๆ แล้วมาโผล่ตรงนี้
ท่านจะต้องมีจุดอะไรซ่อนไว้อย่างแน่นอน
คุณยายเหยียนเหลือบมองเซียวเฉวียนด้วยสายตาที่จ้องจะเล่นงานเซียวเฉวียน และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า: “มาฆ่าเจ้ายังไงล่ะ”
อะไรนะ!
เมื่อกี้ยังกล่าวทอนักบุญอยู่เลย
ทำไมตอนนี้กลับพูดแต่ว่าจะฆ่าเซียวเฉวียนล่ะ
ไม่ใช่บอกไปแล้วหรอ ว่าเทพเจ้าต้องการให้หมิงเจ๋อสังหารเซียวเฉวียน
คำสั่งสั่งของเทพเจ้าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
คุณยายเหยียนมองไปที่เซียวเฉวียน: “แต่เจ้าทำลายหุบเขาหมิงเซียน”
มีสิ่งหนึ่งที่คุณยายเหยียนไม่สามารถบอกเซียวเฉวียนได้คือนิกายหมิงเซียนคือนิกายของตน
โดยเธอใช้ให้นักบุญในการปกปิดความจริงนี้
เรื่องนี้ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน
เซียวเฉวียนหรี่ตาและทำน้ำเสียงเย็นชาถามไปว่า: “ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ข้าขอถามคำถามท่านหนึ่งคำถาม หวังว่าท่านจะตอบมันด้วยความสัจจริง”
ตั้งแต่ที่พูดจบ เซียวเฉวียนก็รู้ทันทีว่าคุณยายเหยียนไม่ได้เห็นเซียวเฉวียนและเจี้ยนจงอยู่ในสายตา
ในความคิดของเธอ เธอคิดว่าการฆ่าเซียวเฉวียนจะทำให้มีความสุขมากขึ้น
ปล่อยให้คนตายได้รับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองก่อ
นี่คือสิ่งที่ผู้ชนะควรทำ
ดังนั้นคุณยายเหยียนจะบอกเขาอย่างแน่นอน
คุณยายเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก: “ถามมาเถอะ”
เซียวเฉวียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ท่านรู้ไหมว่าใครคือคนที่สังหารทหาตระกูลเซียวห้าหมื่นคน”
ในเมื่อเขาถามคำถามนี้
คุณยายเหยียนจึงตกใจ และไม่เคยคิดว่าก่อนว่าเขาจะถามคำถามนี้
ด้วยนิสัยของเซียวเฉวียน คุณยายเหยียนรู้เป็นอย่างงดี เขาเป็นแม่ทัพตั้งแต่ยังเล็ก ก็ย่อมอยากรู้เป็นธรรมดาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหล่าทหารของเขา
เขาจะต้องหาทางเพื่อที่จะรู้ความจริงให้ได้อย่างแน่นอน
หากวันนี้เขาไม่ตาย เธอก้ต้องตาย
เขายังคงสงสัยในเรื่องนี้อยู่
ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า เซียวเฉวียนไม่คิดเลยหรอว่าตัวเองจะต้องตาย หรือคิดว่าตัวเองจะไม่ตายกันแน่
ในเมื่อเขาถามมาแล้ว คุณยายเหยียนก็กล้าตอบไปว่า: “ข้ารู้”
“แต่ข้าไม่สามาถบอกเจ้าได้ว่าเขาคือใคร”
เมื่อพูดออกมาแบบนี้แล้ว แสดงว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเธอ
เซียวเฉวียนพยามพูดด้วยอารมณ์สงบ: “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านหรอ”
คุณยายเหยียนพูดโต้ไปว่า: “ข้าไม่อาจบอกได้”
คิดจะโกหกกัน?
เซียวเฉวียนก็ได้เข้ามาร่วมกับเจี้ยนจงต่อสู้ด้วย
เธอได้ใช้ความเร็วในการหลบหลีก ซึ่งมันทำให้คุณยายเหยียนรู้สึกถึงความเจ็บ
แต่ในไม่ช้าเธอก้สามารถที่จะผ่อนคลายได้และเผชิญกับการโจมตีของเซียวเฉวียนและเจี้ยนจงอย่างเต็มกำลัง
เดิมทีเธอคิดว่า ด้วยความสามารถของเธอแล้ว มันคงไม่ยากที่จะโจมตีเซียวเฉวียน ต่อให้เพิ่มเจี้ยนจงมา เธอก็ไม่กลัวอยู่ดี
เมื่อการโจมตีนี้เริ่มขึ้น เธอก็ได้รู้ว่าเธอนั้นได้ประเมินตัวเองสูงไป
ทั้งสองร่วมมือกันอย่างเต็มกำลังจนคุณยายเหยียนไม่มีทางสู้ เธอจึงหาทางหลีกหนีได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น
เมื่อดูทุกกระบวนท่าของเซียวเฉวียนแล้วนั้น ก็มีความคล้ายกับกระบวนท่านการต่อสู้ของคุนหลุน แต่มันกลับไม่ใช่ซะอย่างนั้น
คุณยายเหยียนมีชีวิตมาอย่างยาวนาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกระบวนท่าต่อสู้ที่รวดเร็ว แม่นยำ และโหดเหี้ยม!
คนส่วนใหญ่ก้ไม่สามารถที่จะสู้กับมันได้
ในตอนนี้ คุณยายเหยียนกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักบุญจะยอมตกอยู่ในกำมือของเซียวเฉวียน
และนี่แสดงให้เห็นว่านักบุญไม่ได้โง่อย่างที่เธอพูด
การเสียสติถือสิ่งที่ควรเหลียกเลี่ยงยามทะเลาะกัน
ในชั่วพริบตา คุณยายเหยียนเกือบถูกดาบที่เซียวเฉวียนถืออยู่แทงเข้า
โชคที่เธอมีสายตามที่เฉียบคม เธอรีบยกไม้เท้าของเธอขึ้นมาบังดาบเล่มนั้น
นี่อันตรายมาก!
เมื่อสถานการณ์เป้นแบบนี้ เจี้ยนจงรีบรีบสะบัดพัดออกจากมือ และลอยตัวไปหาคุณยายเหยียน
คุณยายเหยียนก็ได้รีบถอยออกมา
เธอรีบโอนถ่ายพลังของเธอทั้งหมดเขาไปในไม้เท้า และได้ใช้มือจับไม้เท้ากวาดลงไปบนพื้นอย่างแรง
ทันใดนั้น ใบได้ก็ได้ร่วงหล่นลงพื้น
จากนั้นคุณยายเหยียนได้ใช้ไม้เท้าตีกระทบลงกับพื้น ครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนกับครั้งก่อน
นอกจากใบไม้ที่ร่วงกระจายแล้ว ยังมีรอยแตกลึกบนพื้น ซึ่งรอยนี้มันได้ค่อย ๆ ลามไปหาเซียวเฉวียน
เหมือนกับงูเหลือมที่อ้าปากกว้างคอยกลืนกินเซียวเฉวียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...