ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1964

สรุปบท บทที่1964 ยายผู้เฒ่ามาตัดสิน: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่1964 ยายผู้เฒ่ามาตัดสิน จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่1964 ยายผู้เฒ่ามาตัดสิน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ไม่!

เขาไม่ผิด!

เขาเป็นตัวแทนของเทียนเต๋า และทักษะการพยากรณ์ของเขานั้นยอดเยี่ยมมากเขาจะไม่ทำผิดพลาดเช่นนั้นเด็ดขาด!

ในสายตาของนักปราชญ์ เหตุผลที่เขาอยู่ในสถานการณ์แย่ๆเช่นนี้ ก็เป็นเพราะเขาประเมินศัตรูต่ำเกินไป และทำให้เซียวเฉวียนมีโอกาสในการเติบโตขึ้น!

เขาบอกว่าเซียวเฉวียนคือเหนือมนุษย์ เซียวเฉวียนก็เป็นเหนือมนุษย์ เขาต้องการทำความยุติธรรมเพื่อสวรรค์และฆ่าเซียวเฉวียน!

เมื่อคิดถึงจุดนี้ แม้ว่าเซียวเฉวียนไม่ได้อยู่ตรงหน้าของเขาในระหว่างการเดินทางก็ตาม แต่ดวงตาของนักปราชญ์ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางที่น่ากลัว

เขาหลับตาลงครึ่งหนึ่ง และแอบสาบานในใจว่าเขาจะฆ่าเซียวเฉวียนให้ได้!

ความโกรธทำให้นักปราชญ์เคลื่อนไหวเร็วขึ้น เดินทางอีกเพียงครึ่งวัน เขาก็สามารถไปถึงกองทัพของกองทหารแล้ว

เมื่อดูจากท้องฟ้าแล้ว ถึงตอนนั้นควรจะเป็นเวลาค่ำแล้ว ไม่แน่กองทัพอาจจะทานข้าวแล้ว

แต่นักปราชญ์เดินทางมานานและเปลืองแรงมาก ตอนนี้มีความรู้สึกหิวแล้ว หากยังต้องเดินทางอีกครึ่งวันก็จะหิวมาก แต่กองทัพไม่รู้ว่าเขาจะกลับมา ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาไม่ทำอาหารของเขาไว้

ดังนั้น แล้วเขาจะกินอะไรเมื่อเขากลับไป?

เพื่อที่จะกลับไปทันกินอาหาร นักปราชญ์ก็อดไม่ได้ที่จะเร่งความเร็วให้เร็วขึ้น

หากไม่ใช่เป็นเพราะลมแรงที่ทำให้นักปราชญ์ล่าช้าเป็นเวลานาน ไม่เช่นนั้นนักปราชญ์ก็คงจะกลับไปถึงที่ค่ายทหารในเวลานี้แล้ว

สภาพอากาศไม่ดี ช่างเสียเวลามากจริงๆ

แต่ทางฝั่งรัฐมู่อวิ๋น ทันทีที่อาจั้นและอาเผิงออกจากถนนชางเฉิง ย่าเหยียนก็ตามมาทีหลัง

ทันทีที่เท้าของเธอถึงพื้น เธอก็ได้ยินเสียงคนนินทา

“ข้าเพิ่งกลับมาจากหมู่บ้านข้างๆมา ได้ยินต้าจู้ที่เพิ่งกลับมาจากหูโจวว่า ไม่เพียงแค่หูโจวเท่านั้น แต่ยังมีรัฐชิงโจวและยังมีคนอื่นอีกที่เห็นเงาของเสือตัวใหญ่ตัวนั้น”

มีคนทำเสียง“เชอะ”และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามว่า“ข้าว่าต้าจู้เป็นคนขี้โม้ เมื่อวานนี้เสือตัวใหญ่ตั้วนั้นยังมาปรากฏตัวที่นี่อยู่เลย มันจะไปถึงรัฐชิงโจวได้อย่างรภายในคืนเดียว พูดออกไปใครจะเชื่อ?”

ในความรู้ของกลุ่มพลเรือน พวกเขารู้สึกว่าความสามารถของเซี่ยวเฟิงที่สามารถจากถนนชางเฉิงไปยังชายแดนของหูโจวภายในคืนเดียวนั้น คือสุดยอดที่สุดแล้ว เขาจะปรากฏตัวที่รัฐชิงโจวได้อย่างไร?

ชายแดนระหว่างหูโจวและรัฐมู่อวิ๋น และไปที่รัฐชิงโจวนั้นอยู่ห่างกันมาก เว้นแต่ว่าเซี่ยวเฟิงสามารถบินได้ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะไปถึงรัฐชิงโจวในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้

จะว่าไปแล้ว แม้ว่ามันจะบินได้จริงๆ แต่ก็ต้องใช้เวลาในการส่งข่าวสารกลับมาจากรัฐชิงโจว

รวมกันแล้วภายในระยะเวลาไม่ถึงสองวัน เรื่องนินทาของรัฐชิงโจวจะแพร่กระจายไปยังหูโจวและไปยังรัฐมู่อวิ๋นอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?

พวกเราทุกคนก็เป็นประชาชนทั่วไปและไม่มีความสามารถขนาดนั้นได้ แล้วทำไมถึงได้รับข่าวสารเร็วขนาดนี้?

ถ้ามันเร็วขนาดนี้ ความวุ่นวายครั้งก่อนก็คงไม่แตกสลาย

ทันทีที่มันปรากฏตัวครั้งแรก ก็ควรจะแพร่กระจายไปยังราชสำนักแล้ว และถูกราชสำนักฆ่าตาย

โดยสรุปแล้ว คนที่นั่งฟังนินทานี้ไม่เชื่อ

ผู้นินทานี้เน้นย้ำว่า“เพียงเพราะเจ้าไม่มีความสามารถความเร็วนี้ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นก็จะไม่มีความสารถนี้ โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ มีคนเก่งและคนแปลกหน้ามากมาย และมีคนมากมายที่เดินทางไปมาหลายพันไมล์ต่อวัน การนินทาหรือการส่งข่าวมันจะยากอะไรกัน”

คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้มักชอบวัดสิ่งต่างๆตามการรับรู้ของตนเอง โดยไม่มีแบบแผนทางจิตใดๆ

คำพูดนี้พูดไม่ผิด แต่ในหูของคนที่ฟังเรื่องนินทานี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความสุข

แต่ก็แค่ฟังนินทาและแสดงความคิดเห็นของตนเองเท่านั้น ทำไมกลับกลายเป็นคนไม่มีความรู้ และไม่มีแบบแผนทางจิตได้อย่างไร?

ผิดหรือที่พูดในสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมา?

สีหน้าของแต่ละคนก็ลดลงมา

เรียกได้ว่าคำพูดของคนนินทาคนนี้ทำให้หลายคนขุ่นเคือง

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ย่าเหยียนสนใจ แม้ว่าพวกเขาจะทะเลาะกันหรือตบตีกันย่าเหยียนก็จะไม่สนใจเลย

เผอิญเรื่องที่เซี่ยวเฟิงไป"รบกวน"ผู้อื่น เซียวเฉวียนก็จะถูกเกี่ยวข้องไปด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องพลเรือนพวกนี้จะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเซียวเฉวียนหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าเซียวเฉวียนมีน้ำหนักอยู่ในใจของพวกเขามากแค่ไหน

หลังจากพูดจบ ย่าเหยียนก็ถือไม้ค้ำเดินจากไป ปล่อยให้พลเรือนจมอยู่ในกลางสายลม

ข่าวนี้สำหรับคนเหล่านี้แล้ว นอกจากตกใจแล้วยังตกใจอีกด้วย

หลังจากทะเลาะกันอยู่นานครึ่งวัน เสือตัวใหญ่ที่พวกเขาพูดถึงนั้นคือสัตว์สงครามของเซียวเฉวียนนี่เอง?

ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันไม่ไปทำร้ายใครตอนที่ปรากฏตัวในที่ถนนชางเฉิง ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันรู้เหตุรู้ผลมาก

ที่แท้เขาถูกสอนโดยเซียวเฉวียนนี่เอง!

เซียวเฉวียนเก่งมากจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาสามารถระงับความวุ่นวายได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถฝึกฝนเสือตัวใหญ่ให้เชื่องได้อีกด้วย และเขายังสามารถทำให้เชื่องได้อย่างมีมนุษยธรรมอีกด้วย

ความชื่นชมของพลเรือนที่มีต่อเซียวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะสูงขึ้นไปอีกสองชั้น“แต๊ะแต๊ะ”

อืม!เซียวเฉวียนสมแล้วที่เป็นวีรบุรุษและแบบอย่างของพวกเขา!

คนที่นินทาก็โกรธมากในทันที"ข้าว่าแล้ว นั่นเป็นเพราะพวกเจ้ามีความรู้น้อย และมีแบบแผนทางจิตน้อย ยังไม่เชื่ออีก!ฮื้อ!"

คนที่โต้แย้งกับเขาไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว และมีสีหน้าที่แบบว่า‘ความรู้น้อยก็ความรู้น้อย ไม่มีแบบแผนทางจิตก็ไม่มีแบบแผนทางจิต’

ก็ความจริงมันเป็นเช่นนี้?

เพียงแต่ว่าพวกเขาตกใจและสงสัยว่า เซียวเฉวียนประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร?

พวกเขาทั้งหมดคิดเพียงแต่เมื่อพวกเขาได้พบกับเซียวเฉวียน พวกเขาจะต้องเรียนรู้จากเซียวเฉวียน แต่พวกเขาไม่มีใครรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติทำไมเซี่ยวเฟิงจู่ๆถึงมาปรากฏตัวในตลาดแห่งนี้

พวกเขาไม่เคยคิดฝันว่าวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในใจของพวกเขา ถูกผู้เฒ่าผมขาวผู้นี้ทำร้าย

และพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำวีรบุรุษที่พวกเขาใฝ่ฝันนั้นตอนนี้อยู่ในรัฐมู่อวิ๋น เพื่อหลีกเลี่ยงย่าเหยียน และตอนนี้กำลังเดินทางกลับไปยังเมืองหลวง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย