ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 20

เซียวเฉวียนหันศีรษะกลับมา นี่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ในรถเทียมม้าสี่ตัวนั่นหรือ ที่มองค้อนเขาเมื่อตะกี้

เฉาสิงจือเป็นรัฐมนตรีผู้ซื่อสัตย์และเป็นคนของจักรพรรดิ ไม่ถูกกับทั้งฝ่ายเครือญาติของตระกูลจูเช่นน้ำกับไฟ ต่างมองหน้ากันไม่ติด แม้ผิวเผินดูจะสงบเงียบดี แต่ใจลึกๆ นั้นก็แอบต่อกรกันอยู่

“ซ่งถิงเว่ย (เรียกตำแหน่งขุนนางฝ่ายพิจารณาคดี) มีอะไรมิทราบ?”

ทันทีที่เฉาสิงจือเอ่ยปากออกเช่นนี้ เซียวเฉวียนรู้เลยว่านั่นเป็นซ่งจือ ไม่แปลกใจเลยที่เขาดูถูกดูแคลนเขาขนาดนั้นตอนเจอกันที่ประตู

ถิงเว่ย หนึ่งในตำแหน่งของเก้ารัฐมนตรี เป็นหัวหน้าของสถาบันตุลาการสูงสุด มีหน้าที่แก้ไขกฎหมายตามพระประสงค์ของจักรพรรดิ รวบรวมจำนวนคดีจองจำทั่วทั้งประเทศ รับผิดชอบในการสั่งการเรือนจำ รัฐมนตรีทำความผิด จะถูกพิจารณาและตัดสินจองจำโดยตรง ทั้งรับผิดชอบตรวจสอบคำตัดสินระดับตำบลจังหวัดที่มีข้อสงสัยแล้วรายงานยังจักรพรรดิ บางครั้งอาจส่งบุคลากรไปยังตำบลและจังหวัดเพื่อช่วยในการพิจารณาคดีสำคัญ

เวลาจัดการกับคดีสำคัญ ถิงเว่ยสามารถปฏิเสธข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจการได้

ในสายตาของถิงเว่ย รัฐมนตรีคนสำคัญทำผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษเช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไป ซ่งจือกล่าวคำเดียว ไม่ว่าข้าราชการตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน เขาก็ต้องจำคุกเช่นกัน

ซ่งจือมีรูปลักษณ์ที่สง่างาม ดูมีคุณธรรม และเป็นคนเที่ยงธรรม

แต่ในความเป็นจริง เขาและหยางเล่อจากสำนักมนตรีพิธีการ แอบทำตัวเป็นลูกสมุนรับใช้ของเว่ยเจียนกั๋วมานานนมแล้ว

ลุงของจักรพรรดิ เว่ยเจียนกั๋ว ไม่มีความสามารถอื่นใด แต่เรื่องซื้อใจคนนี่เขาเก่งเป็นอันดับหนึ่ง ซ่งจือเป็นผู้ควบคุมเรือนจำ มีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมอย่างโดดเด่น ซึ่งหาคนเทียบตัวได้ยาก

เซียวเฉวียนเคยได้อ่านบทกวีของเขา ชายผู้นี้สมกับคำว่า "ฉลาดหลักแหลม" และเขาก็เป็นผู้นำของเหล่านักวิชาการด้านวรรณกรรม

ไม่น่าแปลกใจที่เฉาสิงจือไม่ชอบซ่งจือ แม้ว่าซ่งจือจะมีความสามารถ แต่สำหรบคนที่รู้กฎหมายและกลับชอบฝ่าฝืนกฎหมายเอง จะชนะใจผู้อื่นและรับความเคารพได้อย่างไร

“ไม่มีอะไร ฉันไม่เห็นท่านเฉาที่โต๊ะงานเลี้ยง เลยออกมาหาดู คิดจะคุยปรึกษาอะไรกับท่านหน่อย”

"มีเรื่องอะไรไว้ไปคุยกันที่ศาล ไม่คุยในวันนี้" เฉาสิงจือไม่สนใจที่จะคุยกับเขา และสบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลังจากคำนับเบาๆ ไม่สนใจว่าใบหน้าของซ่งจือจะน่าเกลียดแค่ไหน

ซ่งจือปล่อย เฮ่อ เบาๆ แล้วก็สะบัดแขนเสื้อจากไปเช่นกัน และเริ่มสุภาพทักทายกับผู้อื่น

เซียวเฉวียนกลับมานั่งลงบนที่นั่งของเขาเอง วันนี้ทุกคนล้วนห้อมล้อมอยู่กับฉินหนานและฉินเป่ย ไม่มีใครมาคุยกับเซียวเฉวียนยกเว้นเฉาสิงจือ นอกนั้นมีความสนใจเล็งไปที่คนของตระกูลฉิน คำสรรเสริญและคำเยินยอทั้งหลายถูกทุ่มเทไปลงทั้งที่ฉินหนานและฉินเป่ย ซึ่งเป็นตัวละครหลักในวันนี้

ทั้งหมดนี้ก็อยู่ในความคาดหมายของเซียวเฉวียนอยู่แล้ว หากเซียวเฉวียนไม่ได้สอบติดตำแหน่งอันดับสูงสุดที่เป็นที่รู้จักของทุกคน ฉินเฟิงคงจะไม่พาเขามาเอื้อมยังงานเลี้ยงนี่หรอก

เซียวเจี่ยเหยียนคนเดียวยังไม่สู้เท่าฉินหนานและฉินเป่ยที่สอบได้อันดับ 7-8 โน่น ในสายตาของทุกคน ฉินหนานและฉินเป่ย มีอนาคตไกลและมีอาชีพรับราชการที่สดใส แต่อนาคตของเซียวเฉวียนนั้นมืดมัวไม่แน่นอนไม่มีอะไรที่จะให้คาดหวังได้

ในขณะที่กำลังขบคิดเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงคุณภาพของสุรา เซียวเฉวียนอดใจรอที่จะให้งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรดนี้จบสิ้นลงไปโดยเร็ว คราวหน้าเขาจะไม่ขอเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้อีกเป็นอันขาด

ในยุคปัจจุบัน การกลั่นสุรานั้นได้พัฒนาอย่างเต็มที่แล้ว สมัยนี้เทคนิกการหมากหล้าวขาวมีการวิจัยกันอย่างมากมาย การปฏิรูปที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือวิธี "กระบวนการเอียนไถ" วิธีการนี้สามารถสรุปได้ว่าเป็นแม่แบบของโรงกลั่น มีบทท่องด้วย 16 คำอักษร ยีสต์รำข้าวเหนียว สัดส่วนเหมาะสม เก็บอุณหภูมิต่ำ นึ่งอุ่นคงที่

ด้วยเครื่องมือที่มีในยุคต้าเว่ยปัจจุบันนี้ ควรสามารถดำเนินการตามกระบวนการนี้ได้ ถึงตอนนั้น คนพวกนั้นจะต้องเมาหัวราน้ำด้วยกลิ่นหอมของยอดสุรานี้อย่างแน่นอน...

เซียวเฉวียนดูเหมือนจะมองเห็นเงินสีขาวเงาๆ กำลังกวักมือเรียกเขาอยู่ ผู้รู้หนังสืออันสูงศักดิ์ในปัจจุบัน มักเรียกตัวเองว่าเป็นบุคคลโรแมนติก สูงศักดิ์เพราะไม่สัมผัสเงินทองแม้เพียงเล็กน้อย อาศัยพื้นฐานทางบ้านอันล่ำซำ ดูถูกดูแคลนชาวบ้านธรรมดาที่ดิ้นรนเพื่อเสร็จเงินไม่กี่ตำลึง

แต่เซียวเฉวียนนั้นไม่เหมือนคนอื่น การเลื่อนตำแหน่งเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญคือความร่ำรวย มิฉะนั้น ทักษะทั้งหมดในตัวเขาจะไม่สูญเปล่าน่าเสียดายหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย