ย่าเหยียนยังมีเรื่องอะไรใหญ่ๆ ที่ให้เซียวหมิงชิวทำลายได้อีก?
เซียวหมิงชิวพูดด้วยน้ำเสียงใสๆ ว่า “บรรพชนไม่รู้หรอก เมื่อกี้นี้หมิงชิวฆ่าผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของนางอีกสองคน”
ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังทำให้แผนการของย่าเหยียนที่จะพัฒนาหน้าผาให้เป็นฐานที่มั่นใหม่ของสำนักหมิงเซียนพังทลาย
บาเรียที่ย่าเหยียนสร้างไว้ที่หน้าผาถูกฮทำลาย
เธอช่วยให้ชาวบ้านที่หน้าผาหนีออกจากหน้าผา
นังปีศาจร้ายนี้ช่างน่ารังเกียจจริงๆ ชาวบ้านที่หน้าผาไม่ยอมเข้าร่วมสำนักหมิงเซียนก็ขู่ฆ่าพวกเขาเพื่อบังคับให้พวกเขายอมจำนน
โชคดีที่ชาวบ้านที่นี่รู้จักการเสียสละ ชีวิตของตัวเองสำคัญกว่า จึงยอมจำนนต่อย่าเหยียนชั่วคราว
มิฉะนั้น คนที่นี่คงถูกฆ่าตายหมดแล้ว
ที่นี่มีคนมากกว่า 400 คน!
เมื่อเซียวหมิงชิวมาถึงหน้าผา เธอก็พบว่ามีที่ที่มีบาเรียอยู่ เธอจึงทำลายบาเรียนั้นก่อน
บอกชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงว่าถ้าพวกเขาต้องการออกไป พวกเขาต้องรีบออกไป เผื่อย่าเหยียนกลับมาจะสายเกินไป
เมื่อมีโอกาสหนี ชาวบ้านย่อมคว้าไว้ แต่พวกเขาไม่สามารถไปตัวเปล่าได้
ในขณะที่ชาวบ้านยังคิดจะกลับไปเก็บของสำคัญเพื่อนำติดตัวไป เซียวหมิงชิวก็ห้ามไว้ว่า “ไม่ทันแล้ว ขอแค่ท่านรอดชีวิต วันหลังท่านกลับมาเอาก็ได้”
เมื่อชาวบ้านออกไปแล้ว หน้าผาก็ไม่ใช่ดินแดนลับอีกต่อไป ย่าเหยียนก็ไม่มีประโยชน์กับที่นี่อีกต่อไป เธอก็คงไม่จ้องมองที่นี่อีก
เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ ชาวบ้านสามารถกลับมาเอากลับมาได้เหมือนเดิม
อีกอย่างตอนนี้เป็นเวลาหนีเอาชีวิตรอด การเดินทางโดยไม่ต้องพกอะไรเลยย่อมคล่องตัวกว่าและเร็วกว่า
ยิ่งช้าลงเพียงวินาทีเดียว อันตรายของพวกเขาก็ยิ่งมากขึ้น
ชาวบ้านก็เคยเห็นความโหดเหี้ยมของย่าเหยียน เมื่อได้ยินเซียวหมิงชิวพูดแบบนี้ พวกเขาก็รีบออกเดินทาง
นั่นหมายความว่าเซียวหมิงชิวช่วยเจี้ยนจงไว้
เจี้ยนจงพูดว่า “เสี่ยวหมิงชิว เจ้าต้องระวังให้มาก ย่าเหยียนเพิ่งออกจากหอปี๋เซิ่ง คงจะไปหาเจ้าแล้ว”
ด้วยความเร็วของเธอ คงใช้เวลาไม่นานก็จะไปถึงหน้าผา
เซียวหมิงชิวยิ้มคิกคัก พูดว่า “บรรพชนไม่ต้องกังวล หมิงชิวจะระวัง”
เมื่อกี้นี้อาเล่อผลอ เซียวหมิงชิวฆ่าอาเล่อได้อย่างง่ายดาย
เพราะการตายของอาเล่อ ทำให้อาเผิงตกใจ เขายิงพลุสัญญาณให้ย่าเหยียนทันที
แต่เขาก็สู้เซียวหมิงชิวไม่ได้ และตายในมือของเธอ
แต่มีคนมากมายในหมู่บ้าน ทางลับก็แคบ ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่สามารถอพยพคนออกไปได้หมด
ดังนั้น เซียวหมิงชิวจึงใช้การวาร์ปส่งชาวบ้านบางส่วนขึ้นไปบนหน้าผา ให้พวกเขาหาที่ลงเอง
ทุกคนรู้ว่าเวลาเร่งด่วน จึงให้ความร่วมมือ
ดังนั้น จนถึงตอนนี้ ชาวบ้านก็อพยพออกไปเกือบหมดแล้ว
แม้แต่ย่าเหยียนจะมา มีเพียงเซียวหมิงชิวสามารถยื้อเวลาไว้ให้พวกชาวบ้าน ชาวบ้านก็สามารถอพยพออกไปได้สำเร็จ
ในตอนนี้ ชาวบ้านคนหนึ่งถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านคือ...”
เซียวหมิงชิวจ้องมองชายคนนั้นด้วยสายตาเฉยเมย เธอเลียนแบบน้ำเสียงที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของเซียวเฉวียนและพูดว่า “พวกเจ้าจำไว้แค่ว่า ข้าคือคนที่ท่านใต้เท้าเซียวส่งมา”
“รีบไปเถอะ! รีบไปเร็วๆ!”
อย่ามัวอ้ำอึ้งอีก ถ้ายังลีลาย่าเหยียนจะมาทัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...