ไม้เท้านี้ฟาดลงไป กิเลนส่งเสียง "อุ๊ย" แล้วร่วงล้มลงกับพื้น
เห็นได้ว่ายายเหยียนมีกำลังมากขนาดไหน มากจนตั้งใจที่จะปลิดชีพของกิเลนให้ได้
โชคดีที่กิเลนไม่มีตัวตนของร่างกาย มิฉะนั้น โดนไม้เท้านี้ ครึ่งค่อนชีวิตมันคงวายวอดไปแล้ว
แต่ถึงแม้จะไม่มีตัวตนร่างจริง ก็เจ็บตัวได้เพราะร่างลมญาณอันทรงพลังของยายเหยียน
กิเลนคงสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปชั่วระยะหนึ่ง
ด้วยเช่นนี้ ยายเหยียนก็หมดภัยคุกคามน้อยลงไปหนึ่งทาง
ยังเหลือพู่กันเฉียนคุนอีกอันที่ยังอิสระอยู่ เหลือมันอันเดียวที่จะสู้รบได้เพียงลำพัง
มันฉลาดและฉายแสงใส่ดวงตาของยายเหยียนอยู่ตลอดเวลา
แต่สำหรับยายเหลียนแล้ว ก็ไม่ยากที่จะหลบ
แค่อย่าไปเผชิญหน้ากับมันตรงๆ ก็พอ
สัตว์สงครามและพู่กันเฉียนคุนสองด้ามอาจกล่าวได้ว่าตกอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง
ยายเหยียนยิ่งได้ใจจนลืมตัว นางถือโอกาสเบียดตัวเข้าไปใกล้ม่านกำบัง อยู่บริเวณรอบม่านกำบังพลางหลบการโจมตีของพู่กันเฉียนคุน พลางพูดเยาะเย้ยเซียวเฉวียน "เซียวเฉวียน ดูสภาพของเจ้าสิ น่ากลัวจะอยู่ไม่รอดเกินวันนี้แล้วมั้งนี่”
"ฮ่า ๆ ๆ !"
”จะมาสู้กับเจ้าสำนักอย่างหรือ จุดจบก็จะเหมือนกับเขาคุนหลุนเมื่อพันปีก่อนนั่น !”
ในเมื่อเซียวหมิงชิวรู้เรื่องนี้แล้ว ทั้งเซียวหมิงชิวและเซียวเฉวียนก็พ่ายแพ้ต่อนาง ต่อหน้าคนสองคนที่กำลังจะตาย ยายเหยียนก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกแล้ว
คนตายพูดไม่ได้ ยายเหยียนก็ไม่ต้องกลัวว่าพ่อลูกคู่นี้จะเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผย
ลูกตาของเซียวเฉวียนกระดิก แต่ไม่ได้ลืมตา สีหน้าเขายังดูเจ็บปวด แต่ก็ค่อยๆ มีสีเลือดมากขึ้น ไม่ซีดเหมือนก่อนหน้านี้
เซียวหมิงชิวจ้องมองนาง ทำท่าจะกลืนกินยายเหยียนลงคอทั้งเป็นให้ได้
หญิงพิษสงร้ายกาจคนนี้ มาทำร้ายเซียวเฉวียนเจ็บหนัก ทั้งวางยาพิษร้ายขนาดนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นยากที่จะชดเชยความทุกข์ทรมานของเซียวเฉวียนถ้าไม่สับนางให้เป็นชิ้นๆ
เห็นสภาพ ยายเหยียนยิ้มเยาะ "ไม่ต้องมาจ้องข้าแบบนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นสัจธรรมตลอดกาล"
กำลังพวกเจ้าสู้ข้าไม่ได้ คิดไม่ทันข้า มาตกอยู่ในมือของข้า เพราะพวกเจ้าสู้เขาไม่ได้เอง จะมาโทษข้าไม่ได้
จะโทษ พวกเจ้าต้องไปโทษฟ้าโทษดิน เพราะพวกเขาได้สร้างกฎแห่งการอยู่รอดนี้ !
ช่างเป็นปากที่พล่อยเก่งอะไรขนาดนี้ ตามตรรกะของนาง ผู้คนใต้หล้านี้ นางคิดจะฆ่าใคร ใครถูกนางฆ่า ล้วนไม่ใช่ความผิดของนาง เป็นเพราะคนนั้นฝีมือสู้นางไม่ได้เองหรือ ?
พูดอย่างนี้ ถ้าไม่มีใครในโลกสามารถทำร้ายนางหรือสู้รบกับนางได้ นั่นไม่หมายถึงว่านางก็คือตัวเสมอเยี่ยงสัจธรรมหรือ ?
นางจะฆ่าคนหรือเผาบ้านใครล้วนถูกต้องงั้นหรือ ?
ตลกสิ้นดี !
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะลืมตาไม่ได้ แต่หูเขาได้ยิน คำพูดของยายเหยียนดังอยู่ในหูของเขา ซึ่งทำให้เซียวเฉวียนโกรธแค้นมาก
สมกับมีคนว่า คนที่น่าสังเวช คงต้องมีจุดใดชวนให้คนเกลียดชัง
เดิมทีเซียวเฉวียนยังรู้สึกว่า พันปีก่อนนั้น ยายเหยียนถูกชนในเผ่านางเองเยาะเย้ยเหยียดหยามในเขาคุนหลุน ยังเห็นใจนางบ้าง
แต่ตอนนี้ นางก็ยอมรับด้วยปากตัวเองว่านางเป็นคนที่ทำลายเขาคุนหลุน เพลิงครั้งนั้นนางเป็นผู้ก่อ จึงรู้สึกว่ายายเหยียนนี้ชั่วร้ายอำมหิตจริงๆ !
เหี้ยมโหดอำมหิต !
เพื่อจะระบายความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของตัวเอง ทำลายชนทั้งเผ่า
ให้ชาวคุนหลุนที่รอดชีวิตมาได้ มีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานมาหลายชั่วอายุคน
ถ้าชาวคุนหลุนในทุกวันนี้รู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาคงจะชิงชังนางชนิดเข้ากระดูก !
จิตใจของหญิงผู้นี้ผิดธรรมชาติเอามาก !
ในเวลาเดียวกัน มีลมหนาวเย็นอันแรงกล้ากระโชกไปมาในร่างกาย ทำให้เซียวเฉวียนรู้สึเหมือนกับว่ามีมือขนาดใหญ่กำลังใช้กำลังบีบอวัยวะภายในของเขาเล่น
ความรู้สึกนี้แย่มากและทนรับไม่ได้จริงๆ
ใบหน้าของเขาเกือบจะบิดเบี้ยว
แต่นอกเหนือจากนั้น เขารู้สึกมีบางอย่างที่ละเอียดอ่อน ราวกับว่ามีพลังน้อยๆ แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างช้าๆ ทำให้เขาผ่อนคลายได้เล็กน้อยและประคองสติไว้ได้บ้าง
ดี คนเหลิงจนลืมตัว มักจะบอกความลับในใจออกมาได้ง่ายที่สุด
โดยเฉพาะเมื่อยายเหยียนรู้สึกว่าทั้งเซียวเฉวียนและเซียวหมิงชิวจะต้องตายอยู่แล้ว นางคิดว่าไม่มีอะไรขัดข้องที่จะบอกพวกเขา ถึงอย่างไรเมื่อพวกเขาตายไปแล้ว ความลับนี้ก็ไม่มีใครอื่นรู้อยู่ดี
ในเวลาเดียวกัน ยังสามารถกระเทือนใจเซียวเฉวียน ทำให้เขาตายเพราะอารมณ์เกลียดชังได้
ยายเหยียนคงคิดไว้อย่างนั้นอย่างแน่นอน
ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงรู้สึกว่าบางที ยายเหยียนอาจจะบอกเรื่องกองทัพตระกูลเซียวออกมาก็ได้
ถึงแม้ไม่เห็นสีหน้าของเซียวหมิงชิวในขณะนี้ แต่เซียวเฉวียนมีความสามารถในการรับรู้ที่ค่อยๆ ฟื้นกลับคืนมา รู้สึกได้ว่าเซียวหมิงชิวโกรธแค้นมากในเวลานี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกังวลว่าเซียวเฉวียนจะตายไปเช่นนี้ เธอคงไปสู้รบอยู่กับยายเหยียนให้ถึงที่สุด
และยังดีที่ยายเหยียนบอกเซียวหมิงชิวว่านางไม่มียาแก้พิษ กล่อมเซียวหมิงชิวให้กลับมา มิฉะนั้น เซียวหมิงชิวอาจถูกยายเหยียนเล่นอุบายทำร้ายจนเจ็บขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้
นี่ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย
เซียวหมิงชิวพูดอย่างเย็นชา "อย่าเพิ่งเหลิง !"
แน่นอน เธอจะไม่บอกเซียวเฉวียนว่าพู่กันเฉียนคุนตกอยู่ในมือของยายเหยียน ให้เซียวเฉวียนกังวลเสียเปล่า
กระเทือนใจเซียวเฉวียน ไม่ส่งผลดีต่อเซียวเฉวียนสักนิด
แต่ว่า พู่กันเฉียนคุนเป็นเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ของเซียวเฉวียน เซียวหมิงชิวควรช่วยเซียวเฉวียนนำมันกลับมาให้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...