ย่าเหยียนผู้นี้ ชิงหลงพอจะเข้าใจและรู้จักอยู่บ้าง
นางเก็บซ่อนความแข็งแกร่งมาโดยตลอด ความแข็งแกร่งของนางนั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้ แม้ว่าเซียวเฉวียนจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่เขาก็เคยถูกย่าเหยียนเล่นงานมาก่อน นั่นมันแสดงว่าความแข็งแกร่งของเซียวเฉวียนนั้นยังด้อยกว่าย่าเหยียนอยู่ไม่น้อย
ความแข็งแกร่งที่ต่างกันนี้ เป็นเพียงการคาดเดาของชิงหลงเท่านั้น
เขาไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะกลัวว่าเซียวเฉวียนจะเสียหน้า
นี่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน แต่เซียวเฉวียนกำลังสู้กับย่าเหยียนอีกแล้วงั้นหรือ?
แผลเก่ายังไม่ทันหาย แต่กลับมาซ้ำรอยเดิม!
ชิงหลงกล่าวออกมาด้วยความร้อนรน “ใต้เท้าเซียว เวลานี้ท่านอยู่ที่ใด?”
สิ่งที่เขาต้องการจะสื่อคือ ข้าจะไปร่วมต่อสู้กับท่าน
บ้าที่สุด การต่อสู้กับย่าเหยียนถือเป็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ จะขาดคนอย่างเขาชิงหลงไปได้อย่างไร?
ความหวังดีของชิงหลง เซียวเฉวียนได้รับมันไว้แล้ว แต่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาจริงๆ นี่เป็นสิ่งที่เซียวเฉวียนมั่นใจ
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการตามหาที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
แม้จะพูดออกไปเช่นนั้น แต่ชิงหลงก็ยังเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับเซียวเฉวียน ที่อยู่ของกองกำลังชาวยุทธ์แท้นั้นหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ชีวิตของเซียวเฉวียนนั้นมันต่างออกไป
แม้ว่าชิงหลงจะไม่เคยสัมผัสความเก่งกาจของย่าเหยียน แต่เมื่อได้ยินว่านางสามารถสร้างบาดแผลให้กับเซียวเฉวียนได้ ชิงหลงก็รู้สึกว่านางนั้นไม่ธรรมดา
หากเซียวเฉวียนตกไปอยู่ในมือของนางอีกครั้ง เซียวเฉวียนจะทนต่อความทรมานครั้งนี้ได้อย่างไร?
อีกอย่าง ไม่ง่ายเลยกว่าที่ย่าเหยียนจะตามหาเซียวเฉวียนจนเจอ แน่นอนว่านางไม่มีทางปล่อยให้เซียวเฉวียนหนีไปง่ายๆ
ย่าเหยียนเคยมีประสบการณ์มาก่อน การที่เซียวเฉวียนคิดจะหนีไปจากเนื้อมือของนาง เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องง่าย
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ชิงหลงรู้สึกว่าเขาควรจะอยู่ต่อเพื่อช่วยเซียวเฉวียนต่อสู้
การที่มีคนเพิ่มเข้ามาหนึ่งคน อย่างน้อยโอกาสชนะก็เพิ่มขึ้น
เซียวเฉวียนกล่าวออกไปว่า “ไม่จำเป็น ตอนนี้นางทำอะไรข้าไม่ได้”
หากลดความมั่นใจลงสักเล็กน้อย ต่อให้เซียวเฉวียนไม่สามารถสังหารย่าเหยียนได้ แต่เซียวเฉวียนก็ไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน
ความหมายของมันก็คือ ความแข็งแกร่งของเซียวเฉวียนนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปแล้ว
แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถเทียบเคียงกับคนอย่างย่าเหยียนได้เลย
สิ่งนี้ทำให้ชิงหลงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เหตุใดเซียวเฉวียนจึงสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดดได้ในระยะเวลาเพียงแค่นี้?
เพราะเหตุใด?
การพัฒนาเช่นนี้ ชิงหลงเองก็ต้องการเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ติดตามข้างกายของเซียวเฉวียนมานานถึงเพียงนี้แล้ว ชิงหลงรู้ดีว่าเซียวเฉวียนสามารถหลอกผู้อื่นได้โดยง่ายดาย
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเซียวเฉวียนไม่อยากให้ชิงหลงเข้าร่วมการต่อสู้ กังวลว่าชิงหลงจะได้รับบาดเจ็บ เซียวเฉวียนจึงจงใจหลอกลวงชิงหลงเช่นนี้?
เมื่อคิดเช่นนี้ ความรู้สึกขอบคุณก็เอ่อล้นอยู่ในใจของชิงหลง
แต่ความรู้สึกขอบคุณก็คือความรู้สึกขอบคุณ การที่เซียวเฉวียนเป็นห่วงเขาเช่นนี้ เขายิ่งควรไปช่วยเซียวเฉวียนต่อสู้กับย่าเหยียนไม่ใช่หรือ
เขากล่าวออกมาอย่างกระตือรือร้น “ใต้เท้าเซียว ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าท่านอยู่ที่ใด?”
ไม่อย่างนั้นข้าจะอยู่ที่รัฐมู่อวิ๋น และจะไม่ไปไหนทั้งนั้น
เซียวเฉวียนหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา เจ้าคนตงฉินชิงหลง เจ้ากลายเป็นคนดื้อด้านและไม่เชื่อฟังเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?
แต่เซียวเฉวียนเป็นคนที่มาจากฮวาเซี่ยในยุคสมัยใหม่ การที่จะหลอกคนโบราณสักคน เขายังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เซียวเฉวียนกล่าวออกไปว่า “ข้าไม่เป็นไรจริงๆ หากข้าไม่มีพลังทัดเทียมกับย่าเหยียนจริงๆ เช่นนั้นข้าจะพูดคุยกับเจ้าได้อย่างสบายใจเช่นนี้หรือ?”
อยู่ต่อหน้าศัตรู เวลานี้เขาควรใจจดใจจ่อกับการสู้กับย่าเหยียน!
ได้ยินเซียวเฉวียนกล่าวออกมาเช่นนี้ ชิงหลงก็รู้สึกว่ามีเหตุผล หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบรับกลับมาว่า “ตกลง ข้าจะเดินทางไปทะเลทราย”
เซียวเฉวียนตอบรับด้วยความพอใจ “อ่า รบกวนเจ้าด้วย”
ชิงหลงตอบกลับไป “พูดอะไรของท่าน ไม่ต้องเกรงใจ”
จากนั้นเซียวเฉวียนก็กล่าวออกมาว่า “เจ้าต้องระวังตัวให้มากและอย่าลืมน้ำเสบียงติดตัวไปด้วย”
สถานที่เฉกเช่นทะเลทราย การหาอาหารและน้ำนั้นยากเสียยิ่งกว่าปีนขึ้นไปบนท้องฟ้าเสียอีก
คิดจะสู้กับเจตจำนงของสวรรค์งั้นหรือ?
สำนักหมิงเซียนที่สง่างามของพวกเจ้า คิดว่าตนเองเป็นตัวแทนแห่งเทียนเต๋า เวลานี้แม้แต่สวรรค์ยังไม่เมตตา ไม่ช่วยเหลือพวกเจ้า พวกเจ้ายังไม่รู้ตัวว่าตนเองทำผิดอะไร ยังคิดจะฟื้นฟูสำนักหมิงเซียนขึ้นมาใหม่ แบบนั้นมันจะไม่ทำให้สวรรค์โกรธมากกว่าเดิมงั้นหรือ!
ย่าเหยียน เจ้ามีชีวิตอยู่มานานกว่าพันปี เหตุใดเหตุผลง่ายๆ แค่นี้ถึงไม่เข้าใจ แถมยังคิดจะต่อต้านลิขิตสวรรค์?
ได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน สีหน้าของย่าเหยียนก็เปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้ นางจ้องมองมาที่เซียวเฉวียนด้วยความโกรธแค้น หากไม่ใช่เพราะมีพายุหิมะและพู่กันเฉียนคุนพัวพันกับนางอยู่ นางจะต้องพุ่งเข้าไปตบปากสั่งสอนเซียวเฉวียนเป็นแน่!
กล้าเอาสวรรค์มาข่มขู่นางงั้นหรือ?
นางมีชีวิตอยู่มามากกว่าพันปี เหยียบย่ำทวยเทพทั้งหมดในยุคเทพเจ้า ทำลายเทือกเขาคุนหลุน มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายจนถึงทุกวันนี้ ทั้งหมดก็เพราะพระเจ้านั้นช่วยปกป้องนาง
นางไม่ได้ผิด!
ชาวคุนหลุนที่หัวเราะเยาะนางเหล่านั้นสมควรตาย!
กองทัพตระกูลเซียวไม่ยอมสังหารนาง นางจึงนำเลือดบริสุทธิ์ระหว่างคิ้วของกองทัพตระกูลเซียวออกมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดกับพวกเขา เช่นนั้นนางผิดอะไร?
หากนางทำผิดจริงๆ เช่นนั้นพระเจ้าก็คงลงโทษนางไปตั้งนานแล้ว พิพากษานาง เหตุใดจะต้องรอจนมาถึงตอนนี้?
เซียวเฉวียนพูดออกมามากมาย ทั้งหมดก็เพื่อต้องการเอาพระเจ้ามาทำให้จิตใจของย่าเหยียนปั่นป่วน ทำให้นางสูญเสียสมาธิ
เขาคิดว่านางจะติดกับง่ายๆ แบบนั้นเลยงั้นหรือ?
เขาดูถูกย่าเหยียนอย่างนางเกินไปหรือเปล่า!
ย่าเหยียนยิ้มอย่างเยือกเย็น “เซียวเฉวียน เลิกพูดถึงเทียนเต๋าได้แล้ว หากเจ้าเอาเรื่องพวกนี้ไปหลอกคนอื่นอาจจะพอมีทางเป็นไปได้ แต่หากคิดจะหลอกข้า มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
หากตกหลุมพรางเช่นนี้ของเจ้า แบบนั้นข้าก็ไม่ตื้นเขินเกินไปงั้นหรือ?
หากจะเอ่ยถึงเทียนเต๋า กองทัพตระกูลเซียวถูกคนของตนเองสังหาร กองทัพถูกทำลายล้าง แบบนี้ก็เป็นเทียนเต๋าด้วยงั้นหรือ?
กองทัพตระกูลเซียวกล้าหาญและมีเมตตา เก่งกาจเรื่องการสู้รบ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสังหารผู้คนมานับไม่ถ้วน สวรรค์ต้องการลงโทษพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตายไปอย่างเปล่าประโยชน์ด้วยเนื้อมือคนของตัวเอง
แบบนี้เรียกว่าสมควรหรือเปล่า?
พูดจบย่าเหยียนก็หัวเราะออกมาดังลั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...