ฮ่องเต้เป็นคนที่ฉลาดกว่าคนอื่นตั้งแต่เด็กๆ อะไรที่ควรเข้าใจหรืออยากเข้าใจ เขาเข้าใจทุกอย่าง
ด้วยเหตุผลนี้เสนาบดีก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว
ต่อให้พูดถึงอีกแต่มันก็ผ่านไปแล้ว
ทำอะไรก็ตามต้องทำให้พอดี มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดีทั้งสิ้น!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฮ่องเต้ก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิดและพูดว่า “อืม ที่อ้ายชิงพูดก็มีเหตุผลผล นอกจากอ้ายชิงแล้ว คนอื่นคิดว่าอย่างไรกันบ้าง?”
จางจิ่นก้าวออกมาและพูดด้วยความเคารพว่า “ด้วยความเคารพฝ่าบาท เรื่องนี้สําคัญและน่าสงสัยอย่างมาก ยังไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างแน่ชัดจึงยากที่จะสรุปขอรับ”
ใครก็ตามที่เข้าใจเรื่องนี้จะรู้ดีว่าเรื่องนี้มุ่งเป้าไปที่เซียวเฉวียน จิ้งจอกเฒ่าอย่างจางจิ่นจะไม่รู้ความหมายอันลึกซึ้งได้อย่างไร?
เรื่องนี้ยังไม่ได้ถูกตรวจสอบเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดที่จะทำให้เสนาบดีของขุนนางสำนักราชหยุดคาดเดา และใช้โอกาสนี้พูดจาใส่ร้ายเซียวเฉวียน
ความหมายของจางจิ่นนั้นชัดเจน พวกเจ้าควรฟังตัวข้าอัครเสนาบดี ว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจนเพราะฉะนั้นพวกเจ้าไม่ควรมาจู้จี้ที่นี่
น้องฉินหนานและจ้าวหลาน แฟนๆเซียวเฉวียนทั้งสามคนพูดพร้อมกันว่า “ข้าคิดว่าสิ่งที่อัครเสนาบดีพูดนั้นสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง”
ความหมายคือพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้สนับสนุนคนที่พูดความจริง
เมื่อจางจิ่นและคนอื่นๆพูดเช่นนี้ เสนาบดีคนอื่นๆก็เงียบด้วยความกังวลในใจ
เมื่อเห็นว่าศาลเฉาเงียบลง ดูเหมือนว่าเสนาบดีจะพูดไม่ออกเพราะคำพูดของจางจิ่นและคนอื่นๆ ในที่สุดหวังซวนก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “ฝ่าบาทเท่าที่ข้ารู้ คนที่ถูกฆ่าพวกนั้นก่อนที่พวกเขาจะตายได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อหน้าสาธารณชนคนอื่น”
“ถึงยังไงก็ช่าง แต่กุญแจที่สําคัญคือคนที่ทําร้ายพวกเขา มีคนจำนวนมากอยู่ในสถานการณ์ตอนนั้น แต่ไม่มีใครเห็นว่าคนที่ทําร้ายพวกเขาคือใคร?”
“และเรื่องบังเอิญกว่านั้นคือไม่มีใครเห็นสักคนว่าใครเป็นคนฆ่าพวกเขา”
“จะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้อยู่บนโลกได้อย่างไร?”
“ในมุมมองของกระม่อม เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของคนที่ทําร้ายและฆ่าคนพวกนั้นคือคนคนเดียวกัน”
เมื่อพูดไปช่วงหนึ่งหวังซวนก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ฮ่องเต้ โดยไม่คาดคิดก็ได้บังเอิญสบตากับฮ่องเต้ เขาจึงรีบหลบสายตาและพูดอึกๆอักๆ
ฮ่องเต้อาจจะเดาได้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไรต่อไป มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการพูดใส่ร้ายเซียวเฉวียน
แต่เสนาบดีทุกคนอยู่ที่นี่ ฮ่องเต้จึงไม่สามารถให้โอกาสหวังซวนได้พูดต่อ
เซียวเฉวียนเคยพูดว่าพระมหากษัตริย์ที่มีความเป็นมืออาชีพมาก อาจจะต่อต้าน
หากฮ่องเต้ต้องการปกครองต้าเว่ย เขาต้องให้โอกาสเสนาบดีได้พูดและฟังคำพูดของเสนาบดี แล้วก็วิเคราะห์เองว่าสิ่งไหนควรฟังสิ่งไหนไม่ควรฟัง
สิ่งที่หวังซวนพูดก็เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ ฮ่องเต้จึงพูดว่า “หวังอ้ายชิงพูดต่อสิ”
ด้วยคําพูดของฮ่องเต้ หวังซวนจึงพูดต่อว่า “ด้วยความเคารพฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมรู้ พวกคนที่ถูกฆ่าล้วนแต่เป็นพวกที่เคยสร้างปัญหาในหอปี๋เซิ่ง”
ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นคนที่เก่งที่สุดในหมู่ประชาชน เมื่อหวังซวนพูดถึงเรื่องนี้ ไม่จําเป็นต้องพูดต่อทุกคนก็สามารถเข้าใจความหมายที่หวังซวนจะสื่อ
ที่เหลือเขาขาดแค่พูดตรงๆว่าเขาสงสัยว่าการฆาตกรรมครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนเป็นคนส่งคนไปแก้แค้นและฆ่าพวกเขา
ฮ่องเต้แสร้งทําเป็นไม่เข้าใจสิ่งที่หวังซวนจะสื่อ และพูดขึ้นมาว่า “โอ้?มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นรึ?”
“ยังมีใครในเมืองหลวงที่ไม่รู้ว่าหอปี๋เซิ่งเป็นอาณาเขตของราชครูด้วยงั้นรึ?”
ในเวลานี้ที่มีการพูดชื่อราชครูความหมายที่ฮ่องเต้พูดนั้นก็ฮ่องเต้ชัดเจนอยู่แล้วว่าหอปี๋เซิ่งเป็นอาณาเขตของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนเป็นราชครู และยังเป็นครูฝึกของฮ่องเต้
ดังคํากล่าวที่ว่าเห็นแก่หน้าผู้หลักผู้ใหญ่ ถ้าไม่เห็นว่าหอปี๋เซิ่งเป็นอาณาเขตของเซียวเฉวียนแล้วพวกเขายังกล้าที่จะไปสร้างปัญหา มันก็ชัดแล้วว่าพวกเขาไม่ได้เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา
ฮ่องเต้ไม่ได้พูดอย่างจริงจังนักเพราะเขาไม่ได้ต้องการที่จะปกป้องเซียวเฉวียนมากเกินไปต่อหน้าขุนนางราชสำนักสำนัก
และสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ได้มีอะไรผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...