ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 226

คืนส่งท้ายปีเก่า หิมะในเมืองหลวงของต้าเว่ยตกลงมาไม่ลืมหูลืมตา ตกแบบเอาจริงเอาจัง

ทุกครัวเรือนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ดื่มกินหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ลมหนาว หวืด ๆ พัดพาหิมะอย่างโหมกระหน่ำ ยิ่งทำให้ทุกคนในบ้านสนุกสนานมากขึ้น

ไป๋ฉีเดินเตร็ดเตร่อยู่ในจวนฉินรอบแล้วรอบเล่า ตามหาเซียวเฉวียนครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเจาตัว

คนในจวนฉินเตรียมฉลองปีใหม่อย่างคึกคัก เมินเฉยอย่างเช่นเคย

ไป๋ฉีจนปัญญา เริ่มออกไปตามหาข้างนอกอย่างลนลาน

แต่อย่าว่าเลย เซียวเฉวียนเองก็เคยเจอไป๋ฉีมาแล้ว น่าเสียดายที่เขาอยู่ในคูน้ำ แม้แต่ปากก็ยังรู้สึกชาไปหมด ไป๋ฉีรีบออกตามหา น้ำเสียงของเซียวเฉวียนอ่อนแอมาก ไป๋ฉีจึงไม่ได้ยิน

ไม่เพียงแต่ไม่ได้ยิน ในตอนที่ไป๋ฉีออกเดินทางนั้น จู่ ๆ หิมะก็ตกหนักยิ่งกว่าเดิม บดบังสายตาของไป๋ฉีไปโดยปริยาย

ระหว่างที่เซียวเฉวียนนอนอยู่ในคูน้ำ มีแค่ดวงตาสองข้างที่โผล่ออกมา ไป๋ฉีมองเห็นเซียวเฉวียนก็คงแปลก

แบบนี้จึงทำให้ไป๋ฉีเดินผ่านเจ้านายที่ไป ดวงตาของเซียวเฉวียนกลอกไปมา อ๊าก เสี่ยวไป๋! ข้าอยู่นี่! ตรงนี้!

เซียวเฉวียนก่นด่าในใจ ลูกศิษย์อย่างเขาไม่มีทางยอมตายแน่ ๆ !

เขาถูกแช่แข็งมาห้าวันแล้ว

อาจารย์บอกว่าต้องท่องกวีที่เหมาะสมหนึ่งบน ถึงจะคลายสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้

ส่วนอะไรที่เรียกว่ากวีที่เหมาะสมนั้น เซียวเฉวียนที่ท่องกาพย์กลอนไม่ต่ำกว่าห้าปี แม้แต่กลอนที่ยากที่สุดเขาก็ท่องมาแล้ว ก็ยังคงถูกขังอยู่ที่เดิม!

มันน่าโมโหยิ่งนัก แต่เรื่องที่น่าแปลกใจที่สุดคือเซียวเฉวียนหนาวสะท้านทั้งตัว มีแค่แผ่นหลังที่ยังรู้นึกอบอุ่น เหมือนมีไอร้อนพ่นใส่แผ่นหลังของเขาตลอดเวลา สิ่งนี้ทำให้เซียวเฉวียนไม่หนาวตาย

“ท่องกวี ท่องกวี...”

เซียวเฉวียนกระหายก็ต้องกินหิมะ หิวก็ต้องกินหิมะ เพื่อท่องกวีต่อไป

“สุนัขเห่าหอนอยู่นอกบ้าน ท่ามกลางม่านหิมะปรากฏคน...”

“รู้ว่านั่นมิใช่เกล็ดหิมะ กลิ่นหอมเย็นพัดโชยระเรื่อยจากนั่นมา...”

บนถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนขวักไขว่ เซียวเฉวียนยังคงท่องกวีอยู่ในกองหิมะเพียงลำพัง ท่ามกลางความเหน็บหนาว ตอนนี้เขาละทิ้งความคิดสมัยใหม่จนหมดสิ้น พยายามเข้าถึงพลังที่แฝงอยู่ในบทกวีให้ได้มากที่สุด

เขาจึงหลับตาลง...

จวนฉิน

เซียวเฉวียนหายตัวไปหลายวันแล้ว แม้ว่าฉินเฟิงจะแกล้งทำว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจกลับว้าวุ่นไม่น้อย

เขาแค่อยากจะแช่เซียวเฉวียนไว้ข้างนอก แต่ในตอนที่เขาไปหาอีกฝ่ายในเช้าวันที่สอง ปรากฏว่าอีกฝ่ายหายตัวไปแล้ว

เขาเดินไม่ได้ นอกจากอยู่ที่เดิมแล้วจะไปไหนได้อีก?

งานเฉลิมฉลองในราชสำนักที่ต้องจัดทุกปี ครอบครัวตระกูลฉินจะเข้าวังกันทุกคน เพื่อรับประทานอาหารกับจักนพรรดิ นี่คือเกียรติยศของตระกูลฉินมาโดยตลอด ซึ่งปีนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

จักรพรรดิและเซียวเฉวียนร่วมมือกันตั้งเท่าไหร่ แม้ว่าเซียวเฉวียนจะอัมพาตทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ตัดเขาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด งานเฉลิมฉลองครั้งนี้เซียวเฉวียนไม่อยู่ เกรงว่าจะปิดไม่มิด

ฉินเฟิงรู้สึกผิดจึงส่งคนออกไปตามหาอย่างลับ ๆ แต่กลับไม่เจอแม้แต่เงา

แย่แล้ว ๆ หรือว่าเซียวเฉวียนจะแข็งตายไปแล้ว ศพถูกคนนำไปทิ้งแล้ว?

ในตอนนี้เองขันทีหม่าได้ประกาศพระราชโองการ ขันทีหม่าดูดีใจจนออกนอกหน้าใบหน้าแย้มยิ้มตลอดเวลา

เขาอ่านพระราชโองการเสียงดังฟังชัด

ก่อนจะเฉลิมฉลองปีใหม่ในทุกปี ตระกูลฉินจะได้รับรางวัลพระราชทานเป็นแก้วแหวนเงินทอง รูปภาพอันล่ำค่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ตระกูลฉินชื่นชอบอย่างยิ่ง

รางวัลพระราชทานในวันนี้ไม่ได้แตกต่างจากในอดีตสักเท่าไหร่

เพราะเหตุนี้ แม่ฉินจึงรู้สึกปวดใจอยู่ภายใน ให้ตายเถอะ สิ่งของมีค่าที่จักรพรรดิพระราชทานให้ในอดีตล้วนแต่ถูกเซียวเฉวียนทำลายไม่เหลือชิ้นดี พังพินาศย่อยยับ กระทั่งตอนนี้เซียวเฉวียนก็ยังไม่ได้ชดใช้ให้!

ฟ้ามีตา ให้ไอ้ชั่วอัมพาตทั้งตัว!ไม่อย่างนั้นเขาคงเสียใจ และพาลทุบสิ่งของมีค่าตรงหน้าไม่เหลือ !สมบัติล่ำค่าในครั้งนี้ต้องเก็บไว้ให้ดีที่สุด

ขันทีหม่าอ่านพระราชโองการเสร็จก็หยิบกริชอีกด้ามออกมา

ตระกูลฉินยืนเข้าแถว ขันทีหม่ามองซ้ายแลขวา “ใต้เท้าเซียวไม่อยู่หรือ?”

เซียวเฉวียน?

ทำไมมีพระราชโองการให้แค่เซียวเฉวียนผู้เดียวล่ะ?

“ฉินเฟิง เขาล่ะ?” พ่อฉินเอ่ยถาม “นี่คือการตอบแทนบุญคุณจากสรวงสวรรค์ ตระกูลฉินจะต้องรับพระราชโองการด้วยกัน เซียวเฉวียนไปไหน?”

“ท่านปู่ ข้าไม่รู้...”

“เจ้าไม่รู้? เจ้าอยู่ในลานของเขาตลอด เข้าออกเป็นว่าเล่นจะไม่รู้ได้อย่างไร?”

ฉินเฟิงก้มหน้าต่ำกว่าเดิม “เขายิ่งชอบหนีอยู่ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร”

พ่อฉินส่งเสียงฮึดฮัด ไม่พอใจลูกชายมาก

ขันทีหม่ายิ้มบาง ๆ “ช่วยไม่ได้ กริชด้ามนี้แม่ทัพฉินก็เป็นตัวแทนได้เหมือนกัน”

“ขอรับ”

คนในตระกูลฉินทำได้แค่คุกเข่าต่อไป พ่อฉินก้มศีรษะ รอให้พระราชโองการถูกถ่ายทอดจนเสร็จด้วยความเคารพ

คาดไม่ถึงว่าขันทีหม่าจะนำพระราชโองการใส่มือของเขา และพูดอย่างปลาบปลื้มว่า “ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ไม่ต้องอ่านพระราชโองการนี้ แต่ฝ่าบาทรงยื่นคำขาดว่างานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่ครั้งนี้ต้องมีเซียวเฉวียน ฝ่าบาททรงอยากชื่นชมเขา

พระราชทานให้เซียวเฉวียน? พ่อฉินตะลึง? ขันทีหม่าคือคนสนิทของจักรพรรดิ ไม่เคยแสดงความชมชอบหรือความโกรธเคืองทางสีหน้าแต่อย่างใด เหตุใดวันนี้ถึงคลี่ยิ้มตาปิดเสียได้?

ทันทีที่ขันทีหม่าจากไป คนตระกูลฉินรีบเปิดพระราชโองการทันใด

โดยเฉพาะฉินเฟิง เขาชะโงกหน้าเข้าไป ตั้งใจอ่านพระราชโองการที่เจาะจงให้เซียวเฉวียนฉบับนี้ว่าเขียนไว้ว่าอย่างไร

......

......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย