สรุปตอน บทที่ 225 ทะเลคุนหลุน – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 225 ทะเลคุนหลุน ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“ศิษย์พี่เซียว เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ดุด่าเจ้า แต่แค่รู้สึกว่าชีวิตเจ้าต่ำต้อยนัก”
“เจ้ามักพูดเสมอว่าเจ้ามาจากตระกูลที่ยากจน อยากเปลี่ยนชะตากรรม” เท้าของเว่ยชิงเหยียบย้ำไปบนหิมะจนเกิดเสียง ‘ซวบ ๆ’ แสดงให้เห็นว่าเท้าของเขาเต็มไปด้วยพลังมหาศาล “บัดนี้เจ้าจะเปลี่ยนสิ่งใดได้เล่า?”
“เพิ่งเลื่อนขั้นเป็นบัณฑิตจอหงวน กลับเป็นแค่ขุนนางน้อยในกองราชองครักษ์”
“กว่าเจ้าจะกราบไหว้เหวินคุนเป็นอาจารย์มันไม่ง่ายเลย ไม่ถึงห้าปีกลับถูกเขาเฉดหัวทิ้งเสียอย่างนั้น”
เว่ยชิงไม่ยอม “บางครั้งข้าก็คิดนะว่าทำไมเหวินฮั่นและเหวินคุนถึงชื่นชมเจ้านัก ทักยังรับเจ้าเป็นลูกศิษย์?”
เซียวเฉวียนกลอกตา ถามเขาทำอะไร เขาก็อยากรู้เหมือนกัน!
“ได้ปรดกำจักมันออกไป” เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเป็นลูกศิษย์ของเขาได้สบายมาก”
นัยน์ตาของเว่ยชิงเปล่งประกาย!
มีอย่างที่ไหนกัน!
เซียวเฉวียนหมอบลงพื้นเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ควรกระดิกหางด้วยถึงจะใช่เลย
เขายังจะกล้าเถียง?
“เจ้าหุบปาก! ตอนนี้เหวินคุนทิ้งเจ้าแล้ว!เจ้าไม่ใช่ลูกศิษย์ของเขาอีก!”
เหวินฮั่นชื่นชมเซียวเฉวียน เว่ยชิงก็พอยอมรับได้!แต่ทำไม!ปีศาจกวีเหวินคุนที่ไม่ปรากฎตัวเป็นสิบปีถึงได้ปรากฎตัวออกมารับเซียวเฉวียนได้ล่ะ!
เซียวเฉวียนมีสิทธิ์อะไร?
หรือว่าพรสวรรค์ด้านกลอนของเขา?
คนที่แต่งกลอนได้บนโลกใบนี้มามากมาย บัณฑิตจอหงวนในอดีจของต้าเว่ยก็มีไม่น้อย เซียวเฉวียนคือคนที่เท่าไหร่กัน?”
“ปีศาจกวีคือคนที่ข้าให้ความเคารพที่สุด!เขาเป็นคนเดียวที่ครอบครองกลอนในใต้หล้าได้ สามารถควบคุมเดินน้ำลมไฟ!สั่งการทหารนับพันได้!”
“หลายปีมานี้ที่ข้าพยายามขนาดนี้ก็เพื่อดูแลเอาใจใส่ปีศาจกวี” นัยน์ตาของเว่ยชิงโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น ท่าทางอ่อนโยนที่เขามักใช้พูดกับเซียวเฉวียนเมื่อครั้งอดีตหายไปปลิดทิ้งแล้ว
“ยังคิดว่อยู่เลยว่าที่เจ้ามาสู้ตาต่อตาฟันต่อฟันกับข้าเป็นเพราะข้าฆ่าพ่อของเจ้า”
“ที่แท้เจ้าก็อิจฉาริษยานี่เอง”
เซียวเฉวียนทนฟังมานาน สุดท้ายคำพูดของเว่ยชิงไม่กี่ยวข้องกับความแค้นที่ฆ่าพ่อเขาแต่อย่างใด
เซียวเฉวียนพยายามหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ ได้เปิดเผยความหยิ่งในตนของเว่ยชิงออกมา แถมยังใส่ไฟไปฉากหนึ่ง จนเว่ยชิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกระชากคอเสื้อของเซียวเฉวียน “ความแค้นที่เจ้าฆ่าพ่อข้าไม่มีวันจบแค่นี้แน่!คงไม่ต้องให้ขาพูดหรอกนะ!คนที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าคือเจ้าเอาของที่ข้าอยากได้ไป!”
เว่ยชิงไม่สนใจชื่อเสียงเกียรติยศ แต่กลับอยากเป็นลูกศิษย์ของเหวินคุนมาตั้งแต่เด็ก ๆ
เขาปรารถนาที่จะควบคุมธรรมชาติและสั่งการทหารนับพันคน!
ยามที่เหวินคุนอยู่ในสนามรบ ฐานะของเขาสูงกว่าแม่ทัพ!
ช่วยไม่ได้ ถ้ายังไม่ถึงระดับปีศาจกวี อย่าว่าแต่ควบคุมธรรมชาติเลย ลำพังผู้อารักขาแค่สิบคนก็ยังควบคุมไม่ได้!
การเชื่อมจิตกับผู้อารักขาเป็นเรื่องที่เปลืองแรงสำหรับคนทั่วไป
แต่ปีศาจกวีเชื่อมจิตกับผู้อารักขานับหมื่นคนพร้อมกันได้!
นี่คือพลังแบบไหน!
เว่ยชิงหลงไหลในพลังนี้มาก!
ปรารถนาที่จะได้พลังนี้!
นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเว่ยชิงถึงต้องทำตัวดีต่อจักรพรรดิ เหวินคุนเกลียดพวกขุนศึกที่สุด ถ้าเว่ยชิงเหมือนกับซือชือ แล้วทำบางอย่างที่ไม่สมควรลับหลังจักรพรรดิ ก็อย่าหวังว่าเว่ยชิงจะกลายเป็นลูกศิษย์ของเหวินคุน
เว่ยชิงต่อกรกับผู้เป็นพ่อย่างไม่ลังเล ขอแค่เพียงติดต่อเหวินคุนโดยผ่านทางจักรพรรดิได้ก็พอ
ต่อให้ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของเหวนิคุน ก็ขอแค่ให้ได้รับคำชี้แนะจากเหวินคุนก็ยังดี ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดแล้ว
แต่!
เซียวเฉวียนคนที่มาจากตระกูลยากจนคนนี้ได้รับในสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด
เขาพยายามมาตลอดหลายปี !กลับไม่เห็นอะไรเลย?
เว่ยชิงอยู่ใกล้เพียงนั้น เซียวเฉวียนเพลิดเพลินกับไอร้อนที่พวยพุ่งใส่หน้า ความโกรธของคนอ่อนแอทำให้ค่ำคืนที่หนาวสั่นอบอุ่นขึ้นไม่น้อย
เซียวเฉวียนได้แต่คลี่ยิ้มอย่างจนปัญญา “ท่านอ๋อง ท่านจะทรงกริ้วด้วยเหตุใด? หาไม่ไม่ใช่เพราะท่านใส่ร้ายข้ามีปัญหากับหอปี๋เซิ่ง ข้าคงไม่มีโอกาสเจอเหวินคุน”
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเซียวเฉวียนจะได้เจอความเก่งกาจของอาจารย์ในจวนว่าการชั้นในแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหวินคุรมีทักษะอะไร
หลังจากที่อาจารย์รับเขาเป็นลูกศิษย์ ก็อยู่ดื่มกินในจวนฉิน และฟังเรื่องซุบซิบนินทา ส่วยความสงสัยของเซียวเฉวียน เขาไม่ได้ตอบเลยสักคำถามเดียว
อาจารย์มักพูดเสมอ ให้พูดกันดี ๆ รอเซียวเฉวียนไต่ถึงระดับเดียวกับเหวินคุนแล้วจะเข้าใจ
เซียวเฉวียนไม่สนใจว่าอาจารย์จะเก่งแค่ไหน เขาสนใจแค่ว่าอาจารย์รู้จักกวีฮวาเซี่ยที่เขาท่องได้อย่างไร
โชคดีที่เว่ยชิงคุยจอแจไม่หยุด เขาจึงได้รู้ว่าตาแก่ผู้นี้เก่งกาจถึงเพียงนี้
ไม่น่าล่ะเว่ยชิงถึงไม่เห็นถึงความสามารถในการแต่งกวีของเซียวเฉวียน คิดแต่จะเป็นลูกศิษย์ของเหวินคุน
เหวินคุนถูกขนานนามว่าปีศาจกวี เพราะเขารู้กวีทุกอย่างบนโลกใบนี้ ทั้งยังกลั่นกรองพลังของกวีได้ เชื่อมสัมพันธ์กับสวรรค์ เชื่อมจิตกับผู้อารักขา ควบคุมธรรมชาติ
ในต้าเว่ย กวีเต็มไปด้วยพลังที่ชวนหลงใหลและน่าทึ่ง ระดับต่ำ กลางและสูงของการแข่งแต่งกลอนสามระดับนี้คือหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนพลังของกวีได้ดี
“ความสามารถ!อำนาจ! คนงาม! ข้าจะเอามันทั้งหมด!”
จู่ ๆ คนที่เคยร่วมดื่มก็รู้สึกละอายใจเสียอย่างนั้น รู้สึกแย่กว่าศัตรูเสียอีก เซียวเฉวียนไม่พูดสิ่งใด เป็นอย่างที่คิดว่า มันไม่มีคำว่าสหายตลอดไป
เว่ยชิงยิ้มอย่างภูมิใจ ทันดนั้นก็เหยียบมือของเซียวเฉวียน “ส่วนเจ้า!จงหมอบเป็นหมาไปตลอดชีวิตนั้นแหละ”
เซียวเฉวียนกัดฟัน เด็กบ้า เด็กเหลือขอ กล้าเหยียบเขา
เว่ยชิงไม่เห็นความโกรธของเซียวเฉวียน แต่เว่ยเฟิงเหมือนแม่ทัพออกศึก เขาประกาศว่า “นี่คือความผิดที่ข้ามีต่อเจ้า! เดิมทีข้าอยากส่งโย่วควนไปฆ่าเจ้า” เว่ยชิงเงยหน้าหัวเราะ “แต่ข้าเปลี่ยนใจ ข้าอยากให้เจ้าไม่เหลืออะไรเลย เหมือนสุนัขข้างถนน ได้แต่มองอำนาจ ความมั่งคั่งและคนงามที่ข้าอยากให้เจ้าได้”
เก้าวันหลังจากนี้ ท้องฟ้าจะคำราม !หิมะจะถล่ม !
นัยน์ตาของเว่ยชิงเปล่งประกายความเย็นเยือก และสะบัดเซียวเฉวียนทิ้ง
เขาโยนเซียวเฉวียนลงไปในคูน้ำเหม็นเน่าข้างถนน
คูที่ไร้น้ำ เต็มไป้วยหิมะ ถ้าเซียวเฉวียนอยู่ในนี้ หิมะที่ตกลงมาจะต้องฝังเขาจนแข็งตาย
เซียวเฉวียนตัวสั่นระริก
หิมะสีขาวดุขขนหงส์ตกลงมาจากฟากฟ้า ค่อย ๆ ใกล้เข้ามานัยน์ตาของเซียวเฉวียนทีละน้อย ยิ่งสร้างความเศร้าโศกในชะตากรรมของเขา
เวรเอ๊ย!
ทำไมหิมะเหล่านี้ถึงเหมือนถูกเหยียบย้ำขนาดนี้? มาได้ทันใจขนาดนี้?
“ลูกศิษย์ ท่องกวีขับไล่ความหนาว”
ทันใดนั้น เซียวเฉวียนก็เหมือนได้ยินเสียงเตือนจะเหวินคุน
เขากำหมัด กัดฟันที่สั่นระริก “อา จารย์....”
“หิมะนี้....ท่านโปรยลงมาหรือ?”
ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด เซียวเฉวียนรู้สึกว่าตัวเองเหมือยคนโง่ ตัวเองหนาวมากจนประสาทหลอน
“ใช่”
บนท้องฟ้า ไม่รู้ว่าเสียงเหวินคุนดังมาจากทิศทางไหน เขาหัวเราะหนึ่งเสียง
“ตาเฒ่า!” เซียวเฉวียนตะโกนไปบนฟ้า แต่กลับต้องกินหิมะกองใหญ่เข้าไปด้วย
หิมะจากไหนกัน!
นี่มันลูกบอลหิมะนี่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...