สรุปตอน บทที่ 233 นายท่านกลับมาแล้ว – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 233 นายท่านกลับมาแล้ว ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
อาสือหยิบดาบจิงหุนของเหมิงเอ้าออกมา ก่อนจะฟาดฟันมันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
เอ้าเหยียพลันพลิกตัวหลบไปอีกด้าน ก่อนจะใช้ขาเตะอาสือในทันที!
"อ๊าก!"
เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพที่ใช้กำลังและดาบในการทำมาหากินนั้น ทั้งยังมีรูปร่างกำยำแข็งแกร่งเช่นนี้ เพียงแค่พวกเขาออกแรงเตะขึ้นมา อาสือจักไปทนไหวได้อย่างไร?
ด้วยแรงเตะเพียงเท่านี้ แม้นอาสือจักไม่ตาย ก็อาจจะทำให้เขาพิการไปได้เลยทีเดียว!
อาสือถูกเตะอัดอย่างแรงเสียจนตีลังกากลับหลังขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะล้มลงมากระแทกพื้นอย่างรุนแรงในทันที! ดาบจิงหุนที่อยู่ในมือยังมิทันได้ยกขึ้นต่อกรเลยนั้น ก็พลันหลุดลอยออกไปไกลเสียแล้ว!
เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพจึงพากันหัวเราะเยาะออกมาในทันที!
เถ้าแก่เหลาอาหารของเซียวเฉวียนช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนัก!
นับว่าโชคดีที่เหมิงเอ้าเป็นพวกตาแจ้งมือเร็ว ยามที่หัวของอาสือกำลังใกล้จะตกถึงพื้นนั้น เขาก็เข้าไปรับตัวอาสือไว้ได้ทันก่อนที่หัวจะกระแทกพื้นในทันที!
“พวกเจ้าอย่าได้คิดรังแกผู้อื่นมากไปนัก!” ใบหน้าของเหมิงเอ้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว บรรดากลุ่มผู้อารักขาเองก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปฉีกเนื้อตัวของเหล่าโจรอันธพาลให้หลุดออกเป็นชิ้น ๆ!
“หากเจ้าไม่พอใจข้าเช่นนั้น เจ้าก็มาตีข้าสิ! เอาแต่พล่ามไปมาจักไปได้อะไรขึ้นมา?”
"เจ้า!"
เหมิงอ้าวได้แต่กัดฟันกรอด! ให้ตายเถอะ! ข้าทนไม่ไหวแล้ว!
เหมิงเอ้าจึงรีบเก็บดาบจิงหุนที่ตกลงบนพื้นขึ้นมา แม้ว่าเขาจักต้องตาย เขาก็จะต้องช่วยมั่วสี่ให้ได้!
ทั่วร่างของเหมิงเอ้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารนั้น ทำเอาเหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพตกตะลึงไปในทันที เอาจริงแล้วหรือ?
เอ้าเหยียหาได้มีท่าทียี่หระไม่ เพียงกล่าวออกมาด้วยท่าทีเย็นชาว่า "ข้ารู้ว่าเจ้าหาได้รักตัวกลัวตายไม่! แต่เจ้ากำลังละเมิดกฎของเหล่าผู้อารักขา เจ้ามิกลัวว่าเซียวเฉวียนจะถูกลงโทษงั้นหรือ? เพียงแค่แม่นางน้อยผู้หนึ่งกับเจ้านายของพวกเจ้าแล้ว ผู้ใดมีความสำคัญมากกว่ากัน? "
"ล้วนแต่สำคัญเหมือนกัน!"
แม้งเอ๊ย ไอ้คนพวกนี้ใช้ช่องโหว่ของกฎผู้อารักขามาทำการบีบบังคับเขา ทุกวันนี้พวกมันก็เอาแต่ฉี่แต่ขี้รดบนหัวพวกเขาหมดแล้ว!
ทว่า เหมิงอ้าวจักไม่ปกป้องน้องสาวของสหายพี่น้องตนเองได้อย่างไร
เหมิงเอ้าพลันตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มั่วสี่จึงส่ายหัวไปมา"พี่เหมิงเอ้า พี่มิต้องสนใจข้า! ท่านอย่าได้ลงมือทำอันใดเลย! อย่าได้ทำให้พี่เซียวต้องลำบากไปกับพวกเราเลยเจ้าค่ะ!"
เอ้าเหยียพลางยิ้มออกมาอย่างได้ใจ "จุ๊ จุ๊ สาวน้อย เจ้าจงรักภักดีต่อเจ้านายของตนเองไม่น้อยเลยนี่? ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย! นั่นทำให้ข้าชอบเจ้ามากขึ้นไปอีก!"
พูดจบ เอ้าเหยียพลันถอดเสื้อคลุมตัวนอกของมั่วสี่ออกมาท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ทำให้เห็นหัวไหล่มนที่มีผิวขาวเนียนของนางโผล่ออกมาให้เห็นในทันที มั่วสี่ถึงกับกัดฟันกล่าวออกมาว่า "หากท่านปล่อยหอปี๋เซิ่งไป ข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง"
“มั่วสี่! เจ้ากำลังพูดอะไรออกมา!” เหมิงเอ้าตะโกนร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว "หากเจ้ากล้าแตะต้องนางละก็ ข้าจะฆ่าเจ้า!"
นัยน์ตาของเหล่าผู้อารักขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำในทันที เอ้าเหยียที่เห็นเช่นนั้นจึงหัวเราะออกมาด้วยความบ้าคลั่ง พร้อมทั้งถอดรองเท้าของตนเองออกมาจนเหลือไว้แต่เพียงเท้าที่ส่งกลิ่นเหม็นเหงื่อออกมา "หากเจ้าอยากให้ข้าปล่อยแม่นางน้อยนี่ออกไปละก็ เช่นนั้นเจ้าก็นั่งคุกเข่าเลียเท้าข้าให้สะอาดเสีย!”
“อ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพต่างพากันหัวเราะคิกคักออกมาในทันที!
“อะไรกัน? เจ้ายินยอมงั้นหรือ? ข้าได้ยินมาว่า ก่อนที่เจ้านายของพวกเจ้าจะเป็นอัมพาตนั้น แม้แต่น้ำลายที่คุณหนูตระกูลฉินถุยออกมาเขายังกล้ากลืนลงไปเสียด้วยซ้ำ ในยามนี้ ไม่ต้องเอ่ยว่าจะเป็นน้ำลายเลย ไม่ว่าจะเป็นฉี่หรือขี้ เขาก็คงกลืนหมดกระมัง!”
“เจ้าที่เป็นเพียงทาสคุนหลุน อย่างน้อยการเลียเท้าให้กับข้าก็ยังดีกว่าของเจ้านายพวกจ้าเป็นไหน ๆ! ใช่หรือไม่?”
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
เอ้าเหยียจึงหัวเราะไปกับทุก ๆ คนด้วย มั่วสี่เอาแต่ส่ายหัวไปมาในทันที "ไม่! พี่เหมิงอ้าว ปล่อยให้ข้าตายเถอะ!"
เหมิงอ้าวพลันกัดฟันส่ายหัวไปมาในทันที: "ฉันจักช่วยเจ้าให้ได้!"
เหล่าผู้อารักขาคนใดที่เกิดมาเป็นทาสคุนหลุนนั้น แม้ว่าพวกเขาจักกลายเป็นผู้อารักขาไปแล้ว หากว่าเจ้านายของพวกเขามิอยู่ข้างกาย แม้แต่เหล่าราษฎรสามัญชนคนธรรมดาพวกเขาก็ยังไม่อาจเทียบชั้นได้!
นี่คือชะตากรรมของทาสคุนหลุน!
เหมิงเอ้าพลันกัดฟัน ก่อนจะนั่งลงคุกเข่าอย่างช้า ๆ เอ้าเหยียหาได้พอใจ พลางกล่าวออกมาด้วยความเย็นชาว่า "คุกเข่าทั้งสองข้างพร้อมกัน!"
"คุกเข่า!"
"คุกเข่า!"
"คุกเข่า!"
เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพเอาแต่เคาะโต๊ะพร้อมจอกสุราในมือ ก่อนจะส่งเสียงโห่ร้องออกมาพร้อมกัน!
คุกเข่า!
หากว่าผู้อารักขานั่งคุกเข่าแล้วไซร้ ย่อมเสมือนกับคุกเข่าให้กับเจ้านายของตนเอง!
"คุกเข่า!"
"คุกเข่า!"
"คุกเข่า!"
"ไม่!" มั่วสี่ส่ายหน้าไปมา "ท่านอย่าได้คุกเข่า! นายท่านเป็นถึงขุนนางในราชสำนัก! เขาเป็นถึงผู้นำตระกูลเซียว! ทั้งยังเป็นบุตรหลานในตระกูลแม่ทัพอีก! ท่านคุกเข่าไม่ได้! ท่านอย่าทำเช่นนั้น!"
เอ้าเหยียเริ่มมีท่าทีตื่นเต้นมากขึ้น "หา เจ้าเศษขยะพรรค์นั้นมีฐานะมากมายเพียงนั้นเลยหรือ? หากเจ้ามิพูดพวกข้าคงลืมไปแล้ว! คุกเข่าลงเสีย!"
“อย่าคุกเข่านะ!”
มั่วสี่จ้องมองที่เหมิงเอ้าพลางกล่าวว่า "พี่ฆ่าข้าเถอะ! เช่นนี้จักดีต่อพวกเราทั้งคู่! ข้ามิต้องอับอาย! นายท่านก็จักได้มิต้องมาถูกดูหมิ่นดูแคลนเช่นนี้ด้วย!"
“ฮึ!” จู่ ๆ มั่วซีพลันรู้สึกเจ็บหัวของตนเองในทันที เอ้าเหยียกระชากหัวนางขึ้นมาก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความเย็นชาว่า“ข้ามินึกเลยว่า เจ้าจักเป็นคนดีถึงเพียงนี้?”
มั่วซีจึงมองไปที่เอ้าเหยีย ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทีดื้อรั้นว่า "ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้ศักดิ์ศรีของพี่เซียวถูกเจ้าเหยียบย่ำเป็นอันขาด!"
พูดจบ มั่วสี่จึงกระทืบเท้าของนางลงไปที่เท้าเหม็น ๆ ของเอ้าเหยียด้วยความเกลียดชังในทันที!
“นังสารเลวนี่! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“อะไรกันที่นี่เป็นของเจ้าหรืออย่างไร! พี่น้องพวกข้าอยู่ที่นี่มาตั้งหลายวันแล้ว! เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
เนื่องจากลมพายุหิมะที่พัดข้ามานั้น ทำให้เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพที่หรี่ตามองจึงไม่อาจจำได้ว่า ผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเซียวเฉวียน
“พี่น้อง! มีคนพยายามจะขโมยเขตแดนของพวกเรา! จงชักดาบออกมาเสีย!”
เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพจึงชักดาบออกมาทีละคนในทันที เพื่อต่อกรกับบุรุษที่มีกลิ่นอายสังหารดุร้ายตรงหน้า!
เซียวเฉวียนค่อย ๆ เดินเข้าก้าวมาทีละก้าว พร้อมทั้งแสงไปสลัวในอาคารทำให้ส่องเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาในทันที!
ทันทีที่เซียวเฉวียนเดินเข้ามานั้น ก็พบกับร่องรอยการต่อสู้ที่ผุพังมากมายในหอปี๋เซิ่ง แววตาของเซียวเฉวียนจึงเย็นเยียบลงไปในทันใด
ในที่สุด เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพก็มองเห็นบุคคลตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
“เป็นเซียวเฉวียน!”
“เป็นเขาไปได้อย่างไรกัน?”
ในขณะเดียวกัน คนโง่เหล่านั้นก็ค่อย ๆ ได้สติกลับมา พร้อมทั้งหันไปมองบุคคลที่มาช่วยชีวิตมั่วสี่เอาไว้นั้น ที่แท้เป็นไป๋ฉี่!
เอ้าเหยียพลันตกตะลึงไปในทันที "เจ้า... ขาของเจ้า เหตุใดดีขึ้นแล้ว?"
เซียวเฉวียนยืนอยู่หน้าประตูนั้น คร้านที่จะตอบคำถามของพวกขยะที่อยู่ตรงหน้า "เหมิงอ้าว เจ้าหนึ่งถึงเจ้าสิบ!"
“นายท่าน! พวกเรามาแล้ว!” เหล่าผู้อารักขาต่างก็รีบร้อนมารวมตัวด้วยความตื่นเต้นในทันที เสียงขานตอบรับของเขานั้นดังกึ่งก้องเสียจน เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพถึงกับใจสั่น!
“พวกข้าแค่มากินบะหมี่ ร่ำสุราของเหลาอาหารพวกเจ้าเอง เจ้ากล้าสังหารพวกข้างั้นรึ?”
เอ้าเหยียร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว! นี่หาใช่ความผิดร้ายแรงไม่!
“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสังหารพวกข้าเพียงแค่บะหมี่ชามเดียวเล่า”
"ใช่!"
"ใช่!แล้ว"
เหล่าจอมยุทธ์ของยุทธภพต่างก็รีบเอ่ยสมทบขึ้นมาในทันที! ทำเอาเซียวเฉวียนถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความเย็นชา นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายรังสีฆ่าฟันนั้น หมุนกลับไปมาเสียเป็นพัน ๆ รอบ ทำเอาผู้คนที่ได้เห็นถึงกับปิดปากเงียบไปในทันที
ท้ายที่สุดแล้ว พวกมันก็เป็นแค่เศษขยะที่รังแกผู้อ่อนแอ ทว่าหวั่นกลัวต่อผู้แข็งแกร่งกว่าตน!
เซียวเฉวียนเอียงศีรษะลงเล็กน้อย พลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเห็นอกเห็นใจว่า "พวกเจ้าอยากจะสั่งเสียสิ่งใดเอาไว้หรือไม่?"
ใบหน้าของเอ้าเหยียพลันแข็งค้างไปในทันที "เจ้าอย่าคิดว่าตนเองเป็นเขยของตระกูลฉินแล้ว! จักสามารถทำสิ่งใดก็ได้นะ! เจ้าที่เป็นเพียงแค่ขุนนางขั้นเจ็ด! มีสิทธิ์อันใดมาสังหารราษฎรคนธรรมดากัน? หากเจ้าต้องการจะจัดการพวกข้า! อย่างน้อยเจ้าก็ต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาของเจ้าเสียก่อน!”
สิ่งที่เอ้าเหยียเอ่ยออกมานั้นหาได้มีสิ่งใดผิดไม่ ทว่า เขาเป็นขุนนางขั้นห้าแล้ว
เซียวเฉวียนแย้มยิ้มออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...