ฉินซูโหรวมองเขาด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ น้ำตาหลั่งรินอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นสิ่งที่พ่อควรพูดออกมาอย่างนั้นหรือ?
เซียวเฉวียนกลับไม่สนใจ “ตั้งแต่วันนี้ไปข้าจะทำอะไรข้างนอกไม่เกี่ยวกับเจ้า!”
“ถ้าเจ้าขวางทางข้า !ทำให้ข้าวุ่นวาย!”
“ข้าจะไม่มีผู้หญิงอีกเลย!”
“.....” ฉินซูโหรวตื่นตระหนก เหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านทั่วร่างกายอย่างไรอย่างนั้น
เซียวเฉวียนกำลังขู่นางใช่ไหม?
“อีกเรื่อง เก็บความเหนือกว่าของจวนฉินกลับไปด้วย!บัดนี้ข้ายังเป็นนายท่านของจวนฉิน เพราะเห็นแก่หน้าของฉินปาฟาง ถ้าคนตระกูลฉินคิดฆ่าข้าอีก ข้าจะ....”
อะไรคือคิดฆ่าเขาอีกครั้ง?
ฉินซูโหรวไม่เข้าใจ หรือว่าท่านพี่ทำอะไรเขา?
“เจ้า....เป็นอย่างไรบ้าง?”
เซียวเฉวียนกัดฟัน ก่อนที่ฉินปาฟางจะตายจู่ ๆ ดวงตาที่แข็งกร้าวและร่างกายที่บิดเบี้ยวไปมาก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
เขาไม่ตอบคำถามนี้ของฉินซูโหรว เขาข่มขู่อย่างไร้เยื้อใยจนหญิงสาวผู้นี้หวาดกลัว “ข้ามีธุระต้องทำ พวกเจ้าไม่แก้แค้นเพื่อฉินปาฟาง แต่ข้าอยากแก้แค้น!”
“พวกเจ้าไม่สนใจการตายของเหวินฮั่น แต่ข้าสน!”
“หนทางชีวิตการเป็นขุนนางของคนที่มาจากตระกูลยากจน ความสงบสุขของประชาราษฎร์ พวกเจ้าไม่สน แต่ข้าสน!”
เซียวเฉวียนขยับเข้าใกล้ฉินซูโหรว “ดังนั้นอย่ามองแต่เรื่องการรับเขยขององค์หญิง ข้าและอี้กุยจะสนิทกันอย่างไรนั้นไม่เกี่ยวกับเจ้า อย่าเอาคุณหนูของเจ้ามาสร้างความวุ่นวายให้สหายและพี่น้องของข้า”
“หากเจ้าสร้างความวุ่นวายให้ข้า ข้าจะกักขังเจ้าเสีย ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเช่นกัน แต่ข้าจะกักขังเจ้าให้อยู่แต่ในห้องเล็ก ๆ เพียงลำพัง มองเห็นแค่เดือนเห็นตะวันอย่างเพ้อฝันไปตลอดชีวิต”
คำพูดนี้หนักหน่วงเหมือนก้อนหิน บดขยี้ความเย่อหยิ่งของฉินซูโหรวไม่เหลือชิ้นดี!
ความเคียดแค้นในสายตาของเขาคือของจริง ไม่ได้ล้อเล่นสักนิด
เซียวเฉวียนมีกำลังมหาศาล บีบคางของนางจนปวดร้าวรานไปหมด
“ได้ยินไหม?” ทุกถ้อยคำของเซียวเฉวียนล้วนแฝงไปด้วยความเคยดแค้นชิงชัง
“....”
“พูดสิ! ฉินซูโรว เจ้าได้ยินชัดแล้วใช่ไหม?”
เซียวเฉวียนตะคอก ตะคอกเสียงดังจนทำให้อวัยวะภายในของฉินซูโหรวเต็มไปด้วยไอเย็น
เซียวเฉวียนเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้ ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก...
สองสามวันนี้เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ชัด...แล้ว”
ฉินซูโหรวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เซียวเฉวียนแสดงท่าทีอยากให้นางอยู่ห่างเขาสักหมื่นลี้อย่างไรอย่างนั้น “กลับจวนฉินของเจ้าไปเสีย!”
นางปวดคางจากการถูกบีบ แต่ต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ไม่สู้หัวใจที่เจ็บปวด
ฉินซูโหรวตัวสั่นเทิ้ม ก่อนจะแข็งใจพูดว่า “เจ้ามีความทะเยอทะยานแค่ไหน ข้าไม่สน แต่เจ้าสร้างความละอายใจให้ข้า เจ้าทำถูกแล้วอย่างนั้นหรือ?”
เซียวเฉวียนดูแคลนอย่างยิ่ง เถียงไม่ได้ก็เลยจะเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจอย่างนั้นสิ?
“ถ้าเจ้าเห็นว่าข้าคือสามีคนหนึ่ง ข้าจะไม่สนใจนางสนมหรือองค์หญิงอะไรนั้นอีก ว่าแต่เจ้าเห็นข้าเป็นสามีของเจ้าหรือไหม?”
ประโยคนี้ ฉินซูโหรวหยุดชะงัก ไร้คำตอบ
เซียวเฉวียนหันหลังให้นาง เหลือไว้แค่แผ่นหลังที่ไร้เยื้อใยให้นาง “วันส่งท้ายปีเก่า จวนฉินของพวกเจ้าและข้าไร้วาสนาต่อกันอีก”
เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น เซียวเฉวียนปิดประตู
ด้านนอก ฉินซูโหรวอึ้งงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไป “หงอวี้!”
“เจ้าค่ะ นายหญิง”
หญิงสาวร่างสูงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ฉินซูโหรวเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม ก่อนฝืนใจพูดว่า “ไปสืบมาให้ข้าว่าท่านพี่ทำสิ่งในในคืนส่งท้ายปี อีกเรื่อง ไปสืบมาว่าช่วงนี้เขาไปมาหาสู่กับใครบ้าง”
หงอวี้คือผู้อารักขาหญิงคนแรกของต้าเว่ย ติดตามฉินซูโหรวมานานหลายปีแล้ว
เนื่องจากฉินซูโหรวจะอยู่ในห้องนอนส่วนตัวเสียส่วนใหญ่ ไม่ได้รับอันตราย ดังนั้นหงอวี้จึงไม่เคยปรากฏตัว
หงอวี้พยักหน้า แม้ว่านางจะเป็นผู้อารักขาหญิง แต่กลับไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด “เจ้าค่ะ นายหญิง”
ทันทีที่หงอวี้ลับตาไป ฉินซูโหรวก็กำมือแน่น คืนส่งท้ายปี มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คืนนั้น ท่านพี่และน้องสามบอกว่าจะไปรับเซียวเฉวียนกลับมา ผลปรากฎว่าทั้งสามคนไม่มีใครเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองของราชสำนักสักคนเดียว
หลังจากคืนส่งท้ายปี ท่านพี่เงียบยิ่งกว่าเดิม
แต่เมื่อน้องสามเห็นนาง เขาพยายามหลบเลี่ยง กลัวว่านางจะถามบางอย่าง
นัยน์ตาของฉินซูโหรวเคร่งขรึมลง นางลูบท้องก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังทิศทางของจวนฉิน หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าวนางก็หันกลับมามองปราดหนึ่ง พบว่าประตูด้านข้างของศาลาคุนหวู่ยังคงปิดสนิท
นัยน์ตาของนางนิ่งสงบ กัดฟัน ก่อนจะสาวเท้าก้าวจากไป
เมืองหลวง นอกประตูเมือง
ผู้คนกว่าสี่สิบคนพากันล้มตายมาสามวันแล้ว
ต้นฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศหนาว ต้นฤดูใบไม้ผลิของต้าเว่ยยังคงหนาวถึงขั้วกระดูก
ชายคนหนึ่งทอดมองไปยังหัวประตูเมืองที่ไม่ได้ออกไปนานมากแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...