ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 249

ที่ตลาด

การเผชิญหน้าระหว่างเว่ยชิงและเซียวเฉวียนไม่ได้อยู่ที่ข้างนอกของหอปี้เซิ่ง แต่อยู่ในตลาดที่พลุกพล่าน เซียวเฉวียนไม่ได้โง่ ถ้าเขาสู้กันในพื้นที่ของตัวเอง ทำของเสียหายแล้วใครจะชดใช้?

เว่ยชิงต้องการชีวิตของเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนเพียงต้องการรักษาทรัพย์สินของเขาให้ปลอดภัย

ชาวบ้านหวาดกลัวจนต้องหนีไปอยู่ห่างๆ แต่ยังรักษาระยะตำแหน่งที่สามารถชมการต่อสู้ได้

ไม่ว่าจะสมัยโบราณหรือสมัยใหม่ ผู้คนที่ชอบเสือ ก มักดิ้นรนอยู่ในเส้นแนวหน้าอยู่แล้ว

เว่ยชิงมือกำลังสั่นและถือตราประทับเหวินอิ้นไว้! ความปรารถนาที่จะฆ่าเซียวเฉวียนนั้นรุนแรงมาก เขาพร้อมที่จะทำเช่นนั้น แต่ในช่วงจังหวะสำคัญเขากลับลังเล

มันคุ้มไหมสำหรับเขาซึ่งเป็นเจ้าอ๋อง ที่จะเสี่ยงต่อการถูกจักรพรรดิตำหนิ มาต่อสู้แบบนี้กับเซียวเฉวียน ชายผู้ไม่มีอะไรเลย?

เนื่องจากความลังเลชั่วขณะ หลี่มู่จึงโน้มน้าวเขาอย่างบ้าระห่ำ "ท่านอ๋อง! จงคิดให้รอบคอบ! ท่านรับปากกับฝ่าบาทแล้ว จะทำผิดคำสัญญาต่อหน้าชาวบ้านมากมายได้อย่างไร เมื่อไรที่พวกท่านตีกันขึ้นมา ย่อมหนีไม่พ้นโทษฐานลบหลู่องค์จักรพรรดิ!”

หลี่มู่ตะโกนจนอกแทบแตก ให้ตายเถอะ ถ้าเซียวเฉวียนแต่งบทกวีอีกครั้ง เกรงว่าเขาจะตายเพราะหายใจไม่ออก!"

ตอนนี้เซียวเฉวียนอยู่ในช่วงตื่นเต้น หายใจเร็ว แต่ยังสามารถหายใจได้ตามปกติ!

ไม่มียา เซียวเฉวียนอาจหายใจไม่ออก ถ้าต้องสู้รบต่อไปอีก!

”ท่านอ๋อง! ท่านเป็นเจ้าอ๋องครองเมือง! ถึงท่านจะฆ่าเซียวเฉวียน แต่สถานการณ์นี้ไม่เป็นผลดีสำหรับท่าน!” หลี่มู่ไม่มีทางเลือกอื่นจึงกระซิบข้างหูเขา “เขายังคงเป็นศิษย์ของปีศาจกวี! ปีศาจกวีไม่ได้ทิ้งเขาไป เขาจะกลับมาเร็วๆ นี้ แม้ว่าเหวินอิ้นของท่านจะสามารถฆ่าเซียวเฉวียนได้ ฆ่าปีศาจกวีก็ได้ แต่ฝ่าบาทจะปล่อยให้ท่านฆ่าเขาหรือ? ปีศาจกวีจะต้องมาแก้แค้นอย่างแน่นอน!”

จองเวรจองกรรมไม่จบสิ้น จะผูกอาฆาตไปทำไม!

หลี่มู่พูดเตือนอย่างปากเปียกปากแฉะ แต่มีเพียงคำว่า "ปีศาจกวี" เท่านั้นที่ติดหูของเว่ยชิง

หลี่มู่เป็นคนซื่อสัตย์และไม่เคยโกหก

ความอิจฉาริษยาก็เหมือนกับวัชพืชที่เติบโตอย่างป่าเถื่อนในหัวใจของเว่ยชิง! เขาถือตราประทับเหวินอิ้นในมืออย่างแน่น แค่เปลี่ยนใจนิดหนึ่ง เขาสามารถฆ่าเซียวเฉวียนได้เลย!

แต่ว่า ในกรณีนี้ ถึงองค์จักรพรรดิจะทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำ ปีศาจกวีคงไม่ยอมรับเขาเป็นลูกศิษย์อย่างแน่นอน!

เว่ยชิงลังเลอีกแล้ว

หลี่มู่มองเห็นความหวัง รู้อย่างนี้ เขาคงจะอ้างชื่อปีศาจกวีไปนานแล้ว!

เวลานี้ เพื่อความปลอดภัยของเซียวเฉวียน หลี่มู่เพิกเฉยต่อคำกำชับของปีศาจกวี

ปีศาจกวีเคยเตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า จะต้องไม่บอกความจริงกับใครเลย ตอนนี้เขาเพิ่งบอก เว่ยชิงไปเท่านั้น ไม่น่าจะมีอะไรสำคัญ

เว่ยชิงที่มีจิตใจโลเล ไม่เต็มใจที่จะยอมรับ เขาจับตราเหวินอิ้นไว้แน่น จะให้เซียวเฉวียนมีชีวิตดี? หรือฆ่าเซียวเฉวียนให้ตายดี?

ความรู้สึกถึงโชคชะตาที่ตกอยู่ในมือของผู้อื่นทำให้เซียวเฉวียนหงุดหงิดมาก มาเลย! มา! ให้เขาได้เปิดหูเปิดตาเห็นพลังของเหวินอิ้นหน่อยเถอะ!

เขายังไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีสิ่งหนึ่งที่สามารถเอาชนะอีกสิ่งหนึ่งได้จริงๆ! มิหนำซ้ำ สิ่งของเป็นของตาย แต่มนุษย์นั้นมีชีวิต!

“ท่านอ๋อง ท่านไม่สะดวก ฉันทำให้”

หลี่มู่เพิ่งจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เถาจี๋มาซะแล้ว

เว่ยชิงดีใจมาก ดี เถาจี๋มาได้จังหวะดีจริงๆ !"

จะเหมาะสมที่สุดสำหรับ

ให้เถาจี๋จัดการกับเซียวเฉวียน ! เหมาะเหม็งที่สุด ทำอย่างนี้ เว่ยชิงก็จะไม่ต้องล่วงเกินเหวินคุน!

”ใต้เท้าเถา! เข้ามายุ่งอะไรกันล่ะ?”

หลี่มู่โกรธมากจนหัวใจแทบแตกสลาย เถาจี๋ “พัด” คลี่พัดแล้วพูดว่า "หลี่มู่ อย่าเสียมารยาท"

หลี่มู่กลับสติ กัดฟัน ก้มศีรษะและคำนับ "ผู้น้อย......สวัสดีใต้เท้าเถา"

เถาจี๋พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "เอาล่ะ ลุกขึ้นมา"

ใบหน้าของหลี่มู่เปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับขาว หลี่มู่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับ 4 ที่ได้มาด้วยความสามารถจากการเรียนรู้มาอย่างแท้จริง

เถาจี๋แม้จะจะมีความสามารถด้านวรรณกรรมอยู่บ้าง แต่ตำแหน่งทางราชการระดับ 3 ในปัจจุบันได้มาจากการซื้อ ตระกูลเถามีบ้านและธุรกิจที่ใหญ่โต ทำการค้าขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี ในสายตาของคนอย่างพวกเขา เป็นเรื่องปกติที่เสียเงินซื้อตำแหน่งของทางการเพื่อเป็นเกียรติแก่บรรพบุรุษ

สำหรับตระกูลที่ยากจนอย่างหลี่มู่และเซียวเฉวียนที่พึ่งพาความแข็งแกร่งของตนเอง ไม่เคยอยู่ในสายตาของพวกเขาเลย

การจะเป็นข้าราชการในราชสำนัก ต้องแข่งขันกันด้วยทรัพยากร การเงิน และเส้นสาย ใครจะไปดูว่าคุณมีพรสวรรค์หรือไม่? คุณมีความแข็งแกร่งหรือไม่?

เงินคือทุกสิ่งทุกอย่าง

เงินคือสิ่งที่สามารถเอาชนะความพยายามของลูกหลานคนจนเหล่านี้ได้

เงิน สามารถผนึกกำลังกับผู้มีอำนาจและได้มาซึ่งทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการ

หลี่มู่พยายามอย่างเต็มที่ ก็อยู่ได้แค่ระดับ 4 เท่านั้น เมื่อเขาพบเถาจี๋ต้องก้มหัวและแสดงความเคารพและเรียกใต้เท้าเถา

เซียวเฉวียนเป็นแค่ระดับ 5 แต่เขาไม่ทำอะไรสักอย่าง

ตอนเห็นเซียวเฉวียน เถาจี๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ครั้งนี้เซียวเฉวียนดูไม่เหมือนครั้งก่อนมาก ดูเหมือนเขา......แข็งแกร่งมากขึ้น

”เห็นข้าแล้วทำไมไม่แสดงความเคารพ? “ เถาจี๋โบกพัดด้วยท่าทีวางตัวอยู่เหนือชาวบ้าน แล้วลุงเขยของตระกูลฉินจะทำไม ตำแหน่งที่เป็นทางการอยู่ที่ไหนก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบพิธีการ

เซียวเฉวียนเห็นหลี่มู่ให้ความเคารพคนที่ไม่สมกับชื่อ รู้สึกไม่สบอารมณ์มาก

และเขากำลังจะได้ลองดูอนุภาพของเหวินอิ้นอยู่ ไหนมีเถาจี๋บ้าบออะไรโผล่ออกมายุ่ง มันเรื่องอะไรกันนี่?

"หลีกทาง!"

เซียวเฉวียนไม่พอใจอย่างมากจึงกลอกตา ท่านอ๋องเว่ยชิงทั้งคนเขาก็ยังจะตีเอา แค่ข้าระดับสามมันขี้ประติ๋ว!

”ช่างเหิมเกริมนัก!” เถาจี๋ตะคอกอย่างเย็นชา “เซียวเฉวียน! อย่าเย่อหยิ่งเพียงเพราะคุณเป็นลุงเขยของตระกูลฉินก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา! ไร้มารยาท! หากคุณปฏิบัติต่อท่านอ๋องเช่นนี้ คุณกำลังลบหลู่ราชวงศ์ เป็นโทษฐานรุนแรง!”

เวลานี้ ชาวมุงทั้งหลายงงเป็นไก่ตาแตก แอบกระซิบกันขึ้นมา

“ไอ้เด็กร่างผู้ใหญ่คนนั้นปัญญาอ่อนหรือเปล่าว่ะ? เซียวเฉวียนพูดถึงคำไหนเกี่ยวกับตระกูลฉินหรือ?”

“นั่นสิ เห็นอยู่ว่าท่านอ๋องเป็นคนบอกเขาจะสั่งสอนให้เซียวเฉวียนเชื่อง”

”คุณไม่รู้อะไรเลย ผู้มีอำนาจเก่งในการสร้างความสับสนให้สิ่งที่ถูกเป็นผิด และพูดพูดจาเลอะเทอะไร้สาระ!”

”โอ้ เซียวเฉวียนไม่มีทางได้เปรียบใดๆ ได้ ไม่มีใครช่วยเขาได้นอกจากคนโง่ตัวใหญ่คนนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย