ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 260

“ไปลงนรกเสียเถอะคุณชายสามฉิน”

ฉินหนานยังเยาว์วัย เขามีคำพูดคำจาที่จริงใจด้วยรูปลักษณ์แบบคนโบราณ รูปลักษณ์ที่เหลาะแหละและเย่อหยิ่งในยามเซียวเฉวียนพบเขาครั้งแรกนั้นหายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

การตายของฉินปาฟางทำให้หลานชายของตระกูลฉินเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและรอบคอบมากขึ้น

ยกเว้นฉินเฟิง

ฉินหนานยิ้มอย่างหมดหนทาง แล้วออกเดินทางโดยมีตารางสูตรคูณอยู่ในมือ

เว่ยชิงแพร่ข่าวลือและสร้างปัญหาทำลายชื่อเสียงของเซียวเฉวียนโดยสิ้นเชิง เดิมทีเขาคิดว่าคราวนี้เขาสามารถใช้โอกาสนี้กำจัดตัวตนของเซียวเฉวียนในฐานะศิษย์ของเหวินฮั่นได้

ด้วยเหตุนี้เซียวเฉวียนจึงโยนตารางสูตรคูณออกมาอย่างเยือกเย็นโดยใช้สูตรที่เรียบง่ายและจับใจที่สุดมอบบทเรียนเลขแก่คนทั่วไปที่ผ่านหน้าประตูห้องหนังสือชิงหยวน

ตารางสูตรคูณหรือที่เรียกว่าเพลงเก้าเก้าในประเทศจีนเป็นกฎการคำนวณพื้นฐานสำหรับการคูณ การหาร และการคำนวณอื่นๆ ในการคำนวณของจีนโบราณซึ่งมีการใช้ในประเทศจีนมานานกว่าสองพันปี

ในประเทศจีนเพลงเก้าเก้าปรากฏตัวในช่วงยุคแห่งความแตกแยกอย่างยุคชุนชิว[1] นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษชาวจีนเคยทิ้งร้าง

สิ่งธรรมดานี้กลับแตกต่างออกไปเมื่ออยู่ในต้าเว่ย นี่เป็นระเบิดที่น่าตกใจครั้งใหม่!!

คนส่วนใหญ่ไร้การศึกษา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากในการสอยสั่งบทกวีในช่วงแรก

เช่นเดียวกับเด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาลที่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยตัวเลขแล้วจึงเรียนรู้การคำนวณ

ตารางสูตรคูณของเซียวเฉวียนนั้นทุกคนสามารถเข้าใจและอ่านได้ จึงยิ่งน่าจับตามองขึ้นไปอีก

ด้วยเพลงเก้าเก้านี้การคำนวณรายวันสำหรับผู้คนจึงสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องนับนิ้วหน้าแผงผักเพื่อคำนวณอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น คนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจนักจึงจบลงด้วยการนับนิ้วซ้ำอีกครั้ง

คนทั่วไปเป็นเพียงคนนอกและจะติดตามใครก็ตามที่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี

ไม่สิ เมื่อวานพวกเขาบอกว่าเซียวเฉวียนเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก เขาเป็นคนที่มีจิตใจโหดร้ายราวสุนัข แต่วันนี้เขากลับเป็นขุนนางน้ำดีที่สั่งสอนพวกเขาด้วยความเมตตา

ชื่อเสียงของเซียวเฉวียนเริ่มดีขึ้นในทันใด

เพลงเก้าเก้าไม่ต่างจากผูกงอิง[2] ทันทีที่ลมพัดเข้ามาในห้องหนังสือชิงหยวน ในไม่ช้าก็แพร่กระจายไปทั่วต้าเว่ย

ไม่มีขุนนางคนใดเคยเปิดเผยสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ต่อสาธารณชน

นี่เป็นครั้งแรกในต้าเว่ย!

ไม่มีใครรู้ว่าทันทีที่เพลงเก้าเก้าเริ่มแพร่กระจาย เทือกเขาคุนหลุนที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ก็สั่นสะเทือนเล็กน้อย

คนธรรมดาไม่สามารถสังเกตเห็นได้ แต่ผู้อารักขาที่เกิดเป็นทาสคุนหลุนทั่วทั้งต้าเว่ยรู้สึกได้ในเวลาเดียวกันว่ามีพลังอันอ่อนโยนในร่างกายของพวกเขา ราวกับมีบางอย่างกำลังจะตื่นขึ้น

เซียวเฉวียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เว่ยชิงที่อยู่ในสวนหรงหยวนซึ่งมีความกังวลอยู่แล้วก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้น

เซียวเฉวียนแต่งบทกวีที่น่าตกใจ เขายังไม่ได้ทักท้วงเลย

ยังมีที่ดีกว่า

ยามนี้เขาคิดค้นเพลงเก้าเก้าสำหรับการคำนวณขึ้นมาได้เชียวหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนจะเข้าใจได้ง่ายขนาดนี้เลยหรือ?

ความรู้ประเภทนี้ได้รับการพัฒนาโดยสหายชาวจีนของเขาด้วยหรือไม่?

เว่ยชิงเข้าใจผิดไปจริงๆ มันไม่ได้พัฒนาขึ้นในยุคปัจจุบัน แต่ถูกใช้โดยคนจีนโบราณมาเป็นเวลาหลายพันปี

ควรทำอย่างไร...

ชีวิตของเซียวเฉวียนในยามนี้ไม่สามารถพรากไปได้ สองวันก่อนเขาเข้าวังเพื่อถามเรื่องของเถ๋าจี๋ องค์ฮ่องเต้สั่งเขาห้ามสร้างปัญหาให้เซียวเฉวียนอีก ไม่เช่นนั้นเขาจะทำผิดต่อฉินปาฟาง

ฉินปาฟางให้ความสำคัญกับหลานชายคนนี้มาก ไม่สามารถปล่อยให้บรรพบุรุษของขุนนางผู้ซื่อสัตย์เสียใจได้

ฮ่องเต้ทรงเตือนเว่ยชิงว่าในฐานะราชวงศ์ เขาไม่ควรสู้กับขุนนางผู้ภักดีเนื่องจากความขัดแย้งทางวาจา จนทำแม้กระทั่งนำตราประทับเหวินอิ้นออกมา

เรื่องที่เว่ยชิงนำตราประทับเหวินอิ้นออกมานั้น ไม่จำเป็นต้องพูด จะต้องเป็นจงกุ้ยแห่งกองกำลังหยู่หลินกราบทูลเป็นแน่

นี่เป็นเรื่องร้ายแรง โชคดีที่ฮ่องเต้ทรงนึกถึงภราดรภาพและไม่ได้ลงโทษใดๆ เขาถูกลงโทษเพียงให้หันหน้าเข้าหากำแพงในสวนแล้วคิดถึงความผิดพลาดของตนอยู่หลังประตูที่ปิดสนิท

เว่ยชิงไม่ได้ทูลฮ่องเต้ว่าเซียวเฉวียนกล่าวว่าต้องการรัฐไป๋ลู่ของเขา ท้ายที่สุดใครจะเชื่อเรื่องตลกเช่นนี้?

ยามนี้ฮ่องเต้กำลังจับตาเว่ยชิง เขาจึงไม่สามารถสังหารเซียวเฉวียนได้ แต่ละวันได้แต่เบื่อหน่ายอยู่ในสวนหรงหยวนโดยไม่มีอะไรให้ทำ ดังนั้นเขาจึงต้องการทำลายชื่อเสียงเซียวเฉวียน

ด้วยวิธีนี้เซียวเฉวียนจะไม่สามารถอยู่ในห้องหนังสือชิงหยวนได้อีก

ด้วยวิธีนี้ปีศาจกวีจะต้องโกรธ และไม่นับเซียวเฉวียนเป็นลูกศิษย์ของเขาอีกต่อไป

หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากปีศาจกวี เซียวเฉวียนจะยังกล้าแตะต้องจอมยุทธ์และแย่งชิงองค์หญิงของเขาไปได้อีกหรือ?

เว่ยชิงยังไม่รู้ว่าจะสังหารเซียวเฉวียนได้อย่างไร เซียวเฉวียนโยนชิ้นส่วนของเพลงเก้าเก้าลงมา สิ่งนี้ทำให้ท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ไม่สามารถกินได้ทั้งยังนอนไม่หลับด้วยความวิตกกังวล

ในเวลานี้มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง ท่านอัครเสนาบดีได้ส่งบัตรเชิญมาด้วยต้องการพบท่าน”

ไม่จำเป็นต้องพูดว่าท่านอัครเสนาบดีต้องการดึงเขากลับเข้าที่อีกครั้ง

เว่ยชิงแตกต่างจากท่านพ่อซือชือของเขา ซือชือกับเว่ยเจียนกั๋ว ในขณะที่เว่ยชิงนับเป็นสหายกัน ขณะที่เว่ยชิงกับฮ่องเต้มีสัมพันธ์ที่ดี

ซือชือเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ขณะที่เว่ยชิงได้สืบทอดรัฐไป๋ลู่ซึ่งหมายความว่าการเชื่อมโยงระหว่างเว่ยเจียนกั๋วและรัฐไป๋ลู่ถูกตัดขาด ยามนี้เขาย่อมต้องการนำมันกลับมา

ท่านอัครเสนาบดีขอเข้าพบทุกวัน แต่เว่ยชิงไม่เคยให้พบเลย

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลเถ๋า เว่ยชิงก็เริ่มรังเกียจฝ่ายเว่ยเจียนกั๋วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับท่านอัครเสนาบดี

อย่างไรก็ตามฮ่องเต้ไม่มีทางเลือกเว่ยเจียนกั๋ว และท่านอัครเสนาบดีมีอำนาจมากเกินไป มีเพียงเถ๋าจี๋ที่สามารถใช้เป็นแพะรับบาปได้

เว่ยชิงสูญเสียผู้สนับสนุนคนหนึ่งไป และไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับความพ่ายแพ้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย