“ผลั่กะ!” ลูกธนูยิงปักไม้กระดานข้างกายของคนที่ซุ่มมอง ทำให้คนคนนั้นตื่นตกใจจนต้องหลบเลี่ยง
มีคนพบเขาเข้าแล้ว
เมื่อเว่ยชิงเห็นธนูพุ่งมาอีกดอก ก็รีบตะโกนด้วยความโกรธเคือง “ไอ้สารเลว!ฝ่าบาททรงรับสั่งให้ข้าขังตัวเองเพื่อทบทวนความผิดพลาด ! เจ้ากล้าดีอย่างไรมารังแกข้า?รอข้าออกไปได้ก่อนเถอะ!ระวังตัวไว้ให้ดี!”
“ขอโทษนะ! เจ้าฝันไปเถอะ!ตะโกนอีกสิ!แม้แต่พ่อของสามีภรรยาคู่นั้นข้าก็ฆ่ามาแล้ว!” เว่ยชิงตวาดใส่คนนอกกำแพงด้วยความโกรธเคือง
เว่ยชิงไม่เข้าใจความหมายของเซียวเฉวียนจริง ๆ
จุดประสงค์ของเซียวเฉวียนไม่ได้อยู่ที่คำว่าขอโทษบนจดหมาย
เซียวเฉวียนรู่ดีว่าเว่ยชิงไม่เคยกลับตัวได้
ดังนั้นเป้าหมายจึงอยู่บนลูกธนูนั้น
ธนู ต่ำยิ่งนัก
ทุกวันเซียวเฉวียนเอาแต่ด่าเขาอยู่เงียบ ๆ เขามันต่ำ ต่ำยิ่งนัก!
เว่ยชิงไม่เข้าใจ แต่ทั้งเมืองกลับรู้ดี
คนทั้งเมืองรู้ว่ามีคนบ้าอยู่หนึ่งคน เขาเอาแต่ยิงธนูไปบนกำแพงทุกวันพร้อมกับแอบด่าเว่ยชิงว่าต่ำสถุน
เพราะรัฐไป๋ลู่แอบเลี้ยงดูจอมยุทธิ์ไว้ ทั้งยังทำเรื่องไร้มโนสำนึก
เว่ยชิงทำลายชื่อเสียงของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนจึงทำให้เว่ยชิงกลายเป็นตัวตลกของต้าเว่ย ไม่เพียงแค่ประชาชนที่หัวเราะเยาะเขา แม้แต่กลุ่มผู้มีอำนาจของจอมยุทธิ์ที่น่ารังเกียจก็ยังหัวเราะเยาะเขา
ตอนนี้ต้าเว่ยมีข้อห้ามอยู่หนึ่งข้อ คือห้ามเปิดเผยลูกธนูต่อหน้าผู้อื่น เพราะถ้ายิงธนูออกไปแล้ว อีกฝ่ายจะด่าสวนกลับทันที “ เจ้ากล้าด่าข้าเช่นนั้นหรือ?”
ดังนั้น ทั้งสองคนจึงเริ่มสู้กัน
แม้ว่าลูกไม้ตื้น ๆ พวกนี้จะทำให้เซียวเฉวียนเบื่อหน่าย แต่กลับทำลายความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเว่ยชิงไม่มีเหลือ เขากลายเป็นคนเลวที่ทุกคนในต้าเว่ยรู้จัก ชื่อเสียงเช่นนี้เว่ยชิงต้องขอบคุณเซียวเฉวียน
เว่ยชิงคิดได้ขณะที่โดนลงโทษให้หันหน้าเข้ากำแพง พอออกไปได้ถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ฮ่า ๆๆๆ
เซียวเฉวียนอดหัวเราะไม่ได้ ฉินซูโหรวโยนตะเกียบคู่หนึ่งออกไป “เจ้าหัวเราะอะไร? เวลากินห้ามพูด เวลานอนก็ห้ามพูด เจ้าทำเช่นนี้ เจ้ายังจะกินอาหารของเราอีกไหม?”
ตระกูลฉินที่นั่งล้อมโต๊ะอาหารต่างกันมามองเซียวเฉวียน ถึงเวลากินข้าว ก็ต้องกินข้าวกับคนตระกูลฉิน
หลายวันมานี้ฉินซูโหรวทำตัวเหมือนภรรยาที่ดี ปรนนิบัติรับใช้เซียวเฉวียนอย่างดี
ตื่นแต่เช้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาด้วยความขุ่นเคือง
ตกค่ำก็ล้างเท้าให้เขาด้วยความไม่เต็มใจ
ปกติแล้วเซียวเฉวียนจะต้องไปกองราชองครักษ์ ออกเช้ากลับค่ำ นาทีแรกที่กลับมาถึงก็ต้องให้ฉินซูโกรวล้างมือล้างเท้าให้เขา ไม่มีนาง เขาก็เหมือนจะไม่ล้าง
ดังนั้นไม่ว่าฉินซูโหรวจะทำอะไรอยู่ ตราบใดที่เซียวเฉวียนกลับมา นางต้องรีบมาหาเขาทันที
วันนี้เขาพาโย่วควนมาด้วย นักแสดงคนหนึ่ง แม้ว่าจะหน้าตาดี ร้องเพลงเพราะ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นนักแสดงผู้ต่ำต้อยอยู่ดี!
เซียวเฉวียนให้โย่วควนกับไป๋ฉีนั่งร่วมโต๊ะด้วย
เรื่องนี้ช่างเถอะ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมเซียวเฉวียนถึงเอาแต่แอบหัวเราะ เยี่ยม ไม่รู้ว่ากำลังมีความสุขกับสิ่งใด
ฉินซูโหรวโกรธมาก ในที่สุดวันนี้นางก็ทนไม่ไหวเขวี้ยงตะเกียบอย่างโกรธเคือง ไม่ไว้หน้าของเซียวเฉวียนต่อหน้าไป๋ฉีและโย่วควนแต่อย่างใด “เจ้าช่วยทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีหน่อยได้ไหม? ทำตัวเช่นนี้ ไม่มีกิริยาที่บุรุษพึงมีเลยสักนิด?”
แม่ฉินดึงแขนเสื้อของบุตรสาวอยู่เงียบ ๆ ส่งสัญญาณให้นาง ช่างเถอะ ๆ
“ท่านแม่!ท่านไม่ต้องมาสนใจข้า!” คุณหนูใหญ่ฉินซูโหรวโพล่งออกมาด้วยความโกรธเคือง นางให้สัญญาว่าจะรับใช้เซียวเฉวียนเป็นเวลาสามเดือน นี่เพิ่งจะครึ่งเดือน นางก็ทนไม่ไหวแล้ว
“ตอนนี้เจ้ากินข้าวอยู่บ้านของข้า!ใช้ของของข้า!อยู่บ้านของข้า! เจ้าช่วยคิดถึงใจของคนตระกูลฉินหน่อยได้ไหม กินข้าว เจ้าก็มัวแต่หัวเราะอะไรก็ไม่รู้?”
ฉินซูโหนวคิดว่าเซียวเฉวียนเยาะเย้ยนาง จึงยกมือทุบชามข้าว!
ฉินซูโหรวพาลโกรธใส่โย่วควนด้วย ถึงอย่างไรเขาก็รังแกง่ายที่สุด “เจ้าออกไปเลย!เจ้าควรนั่งร่วมโต๊ะกับเราด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“ก็แค่นักแสดงต้อยต่ำคนหนึ่ง !หัดมีจิตสำนึกเสียบ้าง?”
คำพูดของฉินซูโหรวฟังไม่เข้าหูสักนิด ทำให้โย่วควนถึงกับหน้าเสีย เตรียมจะลุกขึ้น แต่เซียวเฉวียนกลับกดเขาไว้ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ก็แค่กินข้าวต้องดูถูกกันขนาดนี้เลยหรือ?”
“เจ้าคิดว่าตระกูลฉินคือหอปี๋เซิ่งเช่นนั้นหรือ? ที่จะพาใครเข้ามาก็ได้?”
ฉินซูโหรวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นางต้องคุกเข่ารับใช้เขา ขอให้เขายกโทษให้ฉินเฟิงก็มากพอแล้ว
มีสิทธิ์อะไรมาทำให้สมาชิกในตระกูลต้องอับอายไปด้วย?
ผู้เฒ่าผู้แก่ถึงกับต้องหยุดชะงัก กินข้าวกับนักแสดงสร้างความอับอายให้เราขนาดนั้นเชียวหรือ?
ผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้หัวรั้นจริง ๆ คราต่อไปเซียวเฉวียนเชิญพ่อครัวมากินข้าวด้วย ตระกูลฉินไม่ต้องหลั่งน้ำตาเลยหรือ อับอายขายขี้หน้า น่ารังเกียจด้วยหรือ?
สมัยโบราณ พ่อครัวก็เหมือนกับนักแสดงและนางโลม พวกชนชั้นล่างเหมือนกัน กระทั่งมีคำกล่าวที่ว่าบุรุษควรอยู่ห่างจากครัว ไม่ควรเห็นการเข่นฆ่านองเลือดในห้องครัว
บังเอิญว่าพ่อครัวของหอปี๋เซิ่งมีฝีมือมาก เซียวเฉวียนตั้งใจจะชวนเขามาทำอาหารให้พวกเขาด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...