ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 27

“มันก็ไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร ในเมื่ออาจารย์เฉาก็ชวนข้ามาแล้ว อีกอย่างศิษย์มาที่นี่ก็อยากขอให้อาจารย์ช่วยอะไรหน่อย”

"หืม? เชิญพูดได้เซียวผู้เป็นหนึ่ง"

"ศิษย์มาที่นี่ เพืออยากให้อาจารย์ช่วยเรื่องการออกนามบัตร"

นามบัตร ก็เหมือนใบอนุญาตที่สามารถทำธุรกิจได้ ถ้ามีของสิ่งนี้ก็จะสามารถทำธุรกิจได้

ที่ต้าเว่ย อยากได้นามบัตรไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มีแค่คนรวยและมีอำนาจเท่านั้นที่จะได้ของสิ่งนี้ แต่ถ้าจะเอามากกว่าหนึ่งสำหรับคนรวยและคนที่มีอำนาจแล้วนั้นก็ได้มายากเหมือนกัน

"ทำธุรกิจ? เจ้าอยากทำธุรกิจเหรอ?"

เฉาสิงจือรู้สึกอึ้งและประหลาดใจ เขาที่ได้ของขวัญจากฮ่องเต้เป็นทองกว่าสองร้อยกว่า ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้เขาสบายได้ตลอดชีวิตแล้วจะมาทำธุรกิจทำไม

เซียวเฉวียนหัวเราะเบาๆ “ใช่”

นักวิชาการ เกษตรกร นักธุรกิจและพ่อค้าที่อยู่อันดับท้ายๆ ถึงแม้ว่าต้าเว่ยจะไม่ได้เป็นประเทศที่ดูถูกพ่อค้าเท่ากับต่างประเทศ แต่ก็ไม่เคยที่จะจริงจังกับคนพวกนี้เลย

เซียวเฉวียนที่มาจากครอบครัวที่ยากจน เหมาะสมที่จะทำอาชีพทางการ ทำไมถึงกลับอยากทำธุรกิจกัน?

เซียวเฉวียนเข้าใจความสงสัยของเขาและพูดว่า "อาจารย์ ข้าเข้าใจ ทุกคนที่ต่างก็บอกว่ายุ่ง แต่เพื่อเงินไม่กี่เหรียญแลกกับการทำอาชีพที่มั่งคงมันดีกว่า แต่เซียวเฉวียนคิดว่า เงินพวกนี้สามารถแก้ไขได้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น รักษาคนแก่ให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีต่อไป ให้เด็กๆ ได้ไปโรงเรียน มอบน้ำมัน เกลือและธัญพืชห้าอย่างให้กับชาวเกษตร"

ท่านเฉารู้สึกอึ้ง และเซียวเฉวียนก็พูดอีกว่า "ข้าก็ไม่กลัวว่าท่านจะมองข้าเป็นตัวตลก ข้ากับท่านแม่และน้องสาว สามวันแล้วที่ไม่ได้กินข้าวอิ่ม ถ้าข้ายังเป็นแบบนี้อีก แล้วคนที่เหลือละ? ผลผลิตที่ต่ำและธุรกิจที่ล้าหลัง ประเทศจะแข็งแกร่งได้อย่างไรกัน? ถ้าทุกคนมีกิน ทุกคนได้อ่านหนังสือและได้รู้จักประเพณี ทุกคนต่างก็ทำธุรกิจ ต้าเว่ยจะได้ร่ำรวยและแข็งแกร่งไม่ใช่เหรอ? เป็นต้าเว่ยที่ยิ่งใหญ่ จะไม่มีใครไม่รู้จักคำว่าธุรกิจ"

เซียวเฉวียนเปลี่ยนแนวคิด และได้ปรึกษาเฉาสิงจือมานาน

คำพูดเหล่านี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง เฉาสิงจือทำได้แค่พยักหน้า

เซียวเฉวียนมีความพยายามสูง คำพูดคำจาของเขานั้นฉะฉาน สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันที่นี่ได้ เฉาสิงจือรู้สึกประทับใจมาก เป็นคนที่ฮ่องเต้เลือกไม่ผิดจริงๆ!

“ถ้าเป็นอย่างนั้น การทำธุรกิจของตระกูลเซียว ก็เพื่อทำให้ต้าเว่ยอยู่ดีกินดี แถมยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับวันข้างหน้าด้วยใช่ไหม?”

“เตรียมการล่วงหน้า” เซียวเฉวียนพยักหน้า “คนเราถึงไม่มีความห่วงในระยะยาวจะต้องมีความห่วงในระยะสั้นเสมอ ยิ่งเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่แล้ว เซียวเฉวียนยินดีที่จะเป็นผู้สร้างภายใต้ของฝ่าบาทและตำนานใหม่ของต้าเว่ย!”

เฉาสิงจือพยักหน้า และหลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง "เซียวผู้เป็นหนึ่ง ข้าประทับใจในตัวเจ้ามาก แต่ว่า พฤติกรรมที่โดดเด่นนี้ อาจาร์ยมีคำพูดหนึ่ง อยากเป็นเซียวผู้เป็นหนึ่งที่อยากจะทำอะไรโดยการให้แล้ว ก็อย่าได้ไปสนใจความเกลียดชังเลยนะ”

พอเซียวเฉวียนได้ยินแบบนี้ และพูดอย่างให้เกียรติว่า "คุณครูพูด นักเรียนจะรับฟัง"

"นามบัตรแค่เรื่องเล็ก แต่ว่าเซียวผู้เป็นหนึ่งต้องระวังพวกคำพูดและการกระทำให้มากๆ เส้นทางของเมืองหลวงมันลำบาก เป็นเส้นทางที่น่ากลัว ถ้าเจ้าอยากเป็นผู้นำ ก็เก็บปลายดาบของตัวเจ้าเองไว้ "

เฉาสิงจือเป็นคนรอบคอบ และคำพูดพวกนี้เป็นสิ่งที่ดี

จิตวิญญาณของเซียวเฉวียนนั้นมีแต่ความสดใส และเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยง

“ศิษย์ขอบคุณคำแนะนำของออาจารย์ แต่อดีตกับปัจจุบันมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่คนไม่สามารถเปลี่ยนได้”

“ข้าจะทำงานหนัก และไม่ยอมแพ้ต่อการเปลี่ยนแปลง! ถ้ามีลมอยู่ตรงนั้นข้า ข้าก็จะเผชิญหน้ากับมัน! และถ้าสายฟ้าต้องการที่จะฆ่าข้า ข้าก็จะยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน! นอกจากฝ่าบาทแล้ว ตัวศิษย์ก็ไม่มีอะไรให้กลัวแล้ว!”

ชาติที่แล้วของเซียวเฉวียนเป็นคนที่ระมัดระวังตัวและติดดินมากๆ เขาทำงานมาหลายปี แถมได้เป็นหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง ผู้ที่ยกยอผู้อื่นจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและได้เพิ่มเงินเดือน พอชาตินี้เขาขอไม่เลือกเส้นทางที่ไร้ประโยชน์แบบนั้นอีก!

เฉาสิงจือตกใจ เขาได้นึกถึงเหตุการณ์ในวันที่เซียวเฉวียนเดินออกจากสนามสอบกลางสายฝนในวันนั้นอีกครั้ง

เมื่อคนเก่งพบโอกาส พวกเขาจะทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย