รถม้าส่งเสียงดังกึกก้อง
เซียวเฉวียนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น องค์หญิงชอบเขามากขนาดนั้นเลยหรือ? บาปกรรม บาปกรรมยิ่งนัก
เขามององค์หญิงจากไปอย่างครุ่นคิด ความคิดของเขาพลิกไปพลิกมา
“นายท่าน ท่านยังต้องการพู่กันสกปรกพวกนี้หรือไม่?”
“ไม่ มันไม่ใช่อาวุธ”
“แต่มันแพงมาก”
“เดี๋ยวค่อยซื้อใหม่”
สายตาเซียวเฉวียนเหม่อลอยมองตามรถม้าขององค์หญิง เขาไม่พบอาวุธใดๆ เขารู้สึกกังวลมาก
“นายท่าน ท่านคิดว่าอาวุธจะอยู่ที่นั่นไหม…”
ไป๋ฉี่อยากจะพูดอย่างอื่น แต่เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางเสียงเขาก็เงียบลง
เซียวเฉวียนเงี่ยหูฟัง “บอกข้าเร็ว มันอยู่ที่ไหน?”
ห้าวินาทีผ่านไป
มีเพียงความเงียบ
ไป๋ฉี่เริ่มชักช้าขนาดนี้ตั้งแต่ยามใด?
เซียวเฉวียนหันหน้ามาแล้วพบว่าไป๋ฉี่หายไปแล้ว
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เขาก็หายตัวไปจากข้างกายเซียวเฉวียน
นอกจากนี้ยังมีข้อความทิ้งไว้ข้างกายว่า เจ้าจงพึ่งพาความสามารถของตนเอง อาจารย์หวังว่าลูกศิษย์จะกลายเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่
บ้าเอ้ย?
จวนเซียวไม่ยอมให้เขากลับ
ยังไม่พบอาวุธดังกล่าว
ไป๋ฉี่ก็ยังถูกพาตัวไปอีกหรือ?
นี่เป็นการจงใจทิ้งเซียวเฉวียนไว้ตามลำพัง ทำให้เขาไม่อาจทำอะไรได้ไม่ใช่หรือ?
“ตาเฒ่าน่าตาย! เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่? คืนไป๋ฉี่มา!”
เซียวเฉวียนโกรธมากจนตะโกนขึ้นไปบนฟ้า หวังว่าลูกศิษย์จะกลายเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่! เหวินคุนต้องการทรมานเขาจนตาย เหวินคุนอยากให้ลูกศิษย์ของตนกลายเป็นผี!
เพิ่งทะเลาะกับเว่ยชิง เซียวเฉวียนและเว่ยชิงตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน จากนั้นเหวินคุนก็ลักพาตัวไป๋ฉี่!
ในใต้หล้ายังมีอาจารย์ที่ไม่น่านับถือเช่นนี้อยู่ด้วย!
เซียวเฉวียนหมดหนทาง เขาไม่เห็นแม้แต่เงาของเหวินคุนด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหน
ได้แค่เท่านี้ ควรกลับจวนไปอาบน้ำได้แล้ว!
กลิ่นเหม็นไปทั้งตัว ยังจะมองหาอาวุธแบบใดอีก?
จวนฉิน
ยามเซียวเฉวียนผู้มีสภาพน่าอับอายปรากฏตัว ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็กรีดร้องจนหูเขาสั่น
พรุ่งนี้เป็นเทศกาลต้อนรับฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นวันสำคัญสำหรับเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ และยังเป็นวันดีที่มีชีวิตชีวาสำหรับสุภาพสตรีอีกด้วย
เหมือนอย่างเคย เนื่องในโอกาสวันเทศกาลต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ จวนฉินจะเชิญสุภาพสตรีที่พวกเขาชื่นชอบมาที่จวนเพื่อจัดงานพบปะสังสรรค์เล็กๆ และจะพักค้างคืนในจวนฉินจนกระทั่งสิ้นสุดเทศกาลต้อนรับฤดูใบไม้ผลิในวันรุ่งขึ้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งวันนี้จะมีผู้หญิงประมาณสิบคนอยู่ในจวนฉิน
เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนไม่คาดคิดว่าจะมีผู้หญิงแปลกหน้ามากมายที่จวน
ยามเขาเดินผ่านทางเข้าหลักอย่างไม่ระมัดระวัง กลิ่นเหม็นทั่วทั้งตัวทำให้สาวๆ ตะลึงและอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องสองสามครั้ง
ฉินซูโหรวได้รับความอับอาย
เซียวเฉวียนผู้นี้น่าอับอายมากจนควรถูกโยนอยู่หน้าประตูหลัก!
เซียวเฉวียนเปรียบเสมือนขอทานที่ออกมาจากกองขยะ!
แค่นั้นแหละ นางยังต้องขอให้เขาทำบางสิ่งบางอย่าง แต่นางทำได้แค่เมินเฉย “อาเซียง ไปปรนนิบัตินายท่านอาบน้ำ!”
“เจ้าค่ะ”
ฉินซูโหรวหันหน้ามาแล้วหันเหความสนใจของทุกคน “ขออภัยที่เกิดเรื่องฉับพลันเกินไปเช่นนี้ บางครั้งสามีข้าก็ทำสิ่งผิดปกติ มา เรามากินขนมกุ้ยฮวากันเถอะ อย่าสนใจเขาเลย”
“ได้”
สาวๆ เหล่านี้ภายนอกตอบว่าได้ แต่พวกนางยังคงมองเซียวเฉวียนผู้น่าอับอายจากหางตา พร้อมยิ้มเยาะบนริมฝีปาก คนเช่นนี้ยังกล้าแย่งชิงองค์หญิงได้อย่างไร?
ในสมัยโบราณ เป็นเรื่องปกติที่บ่าวไพร่จะรอเจ้านายอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า
ยามอาเซียงเติมน้ำร้อนให้กับเซียวเฉวียน เขากลับตกใจ “ทำไมถึงเป็นเจ้า?”
นี่เป็นการประจบประแจงเพื่อหวังผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...