ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 279

หา เซียวเฉวียนช่างมีพรสวรรค์เสียจริง

ศิษย์พี่? ศิษย์พี่คนใดกัน เขาไม่มีศิษย์พี่เช่นนี้!

ภายในใจของเว่ยชิงรู้สึกต่อต้านและดูถูกดูแคลนเซียวเฉวียนออกมาโดยไม่รู้ตัว คนเช่นเซียวเฉวียนน่ะหรือ มีคุณสมบัติอันใดมาเป็นศิษย์พี่ของเขา?

ทว่า หลังจากที่เขาได้รับคำยกยอปอปั้นมากมายจากผู้คนมาเมื่อครู่นั้น เขาเองก็นึกเห็นด้วยกับการsyวเราะเยาะเย้ยที่คนเหล่านั้นกระทำต่อเซียวเฉวียนเช่นกัน ในยามนี้เว่ยชิงจักยอมพ่ายแพ้ไปได้อย่างไร?

เขาที่มีฐานะเป็นถึงท่านอ๋อง จักต้องมามีศิษย์พี่เช่นนี้ได้อย่างไรกัน?

เขาจักมาถูกเซียวเฉวียนเรียกตัวไปมาตามสั่งได้อย่างไร?

เว่ยชิงที่เป็นหนึ่งคนที่มีอำนาจและยศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โตเช่นนี้ หากเขามิพอใจย่อมมิอาจกล่าวออกมาได้โดยตรง เขาจึงทำได้เพียงแต่ขมวดคิ้วเป็นปมเท่านั้น เหล่าลูกหลานของตระกูลขุนนางย่อมเข้าใจได้ว่าเขาหมายถึงเช่นไร

ฉะนั้นแล้ว ยังมิทันที่เว่ยชิงจะเปิดปากออกมานั้น เหล่าบุตรหลายตระกูลขุนนางจึงเริ่มเอ่ยปากด่าทอออกมาอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

“ศิษย์พี่อะไรกัน?”

“ใช่แล้ว! ศิษย์พี่อันใดกัน? ก็แค่บุตรเขยที่แต่งเข้าตระกูลมิใช่หรือ ยังจักมากล้าแอบอ้างว่าเป็นศิษย์พี่ของท่านอ๋องอีกหรือ?”

“ท่านปีศาจกวีมิได้ทิ้งเขาไปนานแล้วหรือ? ในตอนที่เซียวเฉวียนยังเป็นอัมพาตอยู่นั้น ท่านปีศาจกวีหาได้มีท่าทีใส่ใจเซียวเฉวียนสักนิดไม่?”

เหล่าคุณชายตระกูลขุนนางผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายต่างพากันเอ่ยวาจาร้องรับกันมิได้หยุดได้หย่อน ทว่า ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นคำพูดที่อยู่ภายในใจของเว่ยชิงทั้งหมดทั้งสิ้น

ข้ารับใช้ตระกูลฉินผู้นั้นพลันมีใบหนาแดงก่ำไปในทันที เขาเองก็เป็นเพียงเด็กส่งข่าวของนายท่านเท่านั้น เขาจักไปรู้ได้อย่างไรกันว่านายท่านคิดเห็นเช่นไร?

เหล่าลูกหลานของตระกูลขุนนางจึงพากันหัวเราะเยาะ ก่อนจะเอ่ยพูดเหน็บแนมออกมาว่า "กลับไปรายงานในท่านของเจ้าเสียว่า อย่าได้มาปรากฏกายต่อหน้าท่านอ๋องอีก"

“ใช่ ๆ แม้แต่ท่านปีศาจกวียังมิต้องการเขา เขายังคิดที่จะมาแสดงตัวตนว่าเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับท่านอ๋องอีกรึ!”

“ในยามนี้ ท่านอ๋องเป็นศิษย์คนโปรดของท่านปีศาจกวีไปแล้ว บอกให้นายท่านของพวกเจ้าไสหัวไปจากที่นี่เสีย!”

ฉินเฟิงพลันมีใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก เขาจึงหันมาตวาดใส่ข้ารับใช้ผู้นั้นว่า "ยังมิไสหัวออกไปจากที่นี่อีก! ไอ้เจ้าตัวมารยาททราม อย่าได้ริทำให้ตระกูลฉินต้องขายหน้าไปมากกว่านี้!"

ถึงแม้ว่าทุกคนจะเอ่ยด่าทอต่อข้ารับใช้ผู้น้อยคนนั้น หากแท้จริงแล้วทุกคนต่างรู้กันดีว่าต้องการด่าทอให้ไปกระทบถึงเซียวเฉวียนนั่นเอง

เหล่าบรรดาลูกหลานของครอบครัวตระกูลชนชั้นสูง จึงพากันเอาปากปิดปากและบังจมูกของตนเองเอาไว้ ตระกูลฉินโชคไม่ดียิ่งนัก ที่มีบัณฑิตสมาชิกยากจนเช่นเซียวเฉวียนอยู่ในตระกูลเช่นนี้ จักเชิดหน้าชูตาเช่นใครเขาก็มิได้ จึงได้แต่ต้องตกเป็นขี้ปากพวกเขานั่นเอง

คำพูดวาจาเยาะเย้ยที่ดูเหมือนมิได้เกิดขึ้นนั้น ทำเอาฉินเป่ยที่ถูกทุกคนจ้องมองแล้วรู้สึกไม่สบายใจออกมาแทน "ท่านพี่ใหญ่ พวกเราควรฉันควรจะทำอย่างไรดี?"

“ควรทำอย่างไรหรือ? ก็ไม่ต้องสนมันไง! คนชั่วเช่นเซียวเฉวียน พวกเราจักต้องฟังคำเขาด้วยหรือ?” ฉินเฟิงพลางตะคอกออกมาอย่างเย็นชา เหล่าลูกหลานของตระกูลขุนนางจึงพากันปรบมือให้

“คุณชายใหญ่ตระกูลฉินพูดได้ดี! รู้ความยิ่งนัก!”

มีบางคนที่นึกเห็นด้วยกับฉินเฟิง ทว่า ก็มีบางคนที่คัดค้านเช่นกัน

"กล่าวเช่นนี้ มิใช่เป็นการสังหารญาติมิตรเพื่อความยุติธรรมของตนเองหรือ!"

“ข้าได้ยินมานานแล้วว่าตระกูลฉินหาได้ชื่นชอบบุตรเขยผู้นี้ไม่ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเรื่องจริง ทว่า การที่ฉินเฟิงพยายามจะตัด ความสัมพันธ์ออกเช่นนี้ นับว่าใจร้ายเกินไปมาก” ถึงแม้ว่าเซียวเฉวียนจะก่อปัญหาออกมาเช่นนี้ การไม่ตีเขาให้ตายก็นับว่าดีแล้ว จักเอ่ยคำว่าใจร้ายออกมาได้อย่างไรกัน?

"มีเพียงตระกูลฉินเท่านั้นที่สามารถทนต่อคนเช่นเซียวเฉวียนได้ หากว่าเซียวเฉวียนแต่งเข้าตระกูลของข้าละก็ การกระทำที่เป็นการไร้มารยาทเช่นนี้ คงได้ถูกบิดาข้าทุบตีจนตายเป็นแน่!"

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"

เดิมทีฉินเฟิงคิดว่า การที่เขาเข้าร่วมการด่าทอเซียวเฉวียนจักสามารถทำให้ตนเองเข้าใกล้คนเหล่านี้ได้มากขึ้น ทว่า มันกลับทำให้เขาถูกหัวเราะเยาะเย้ยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ทำเอาทั่วร่างของเขาสั่นเทาไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในทันที

เว่ยชิงเหลือบมองเฉินเฟิงเพียงเลHกน้อย ก่อนจะแสร้งกล่าวออกมาราวกับเป็นคนดีมีเมตตาว่า "เอาล่ะ ตราบใดที่คุณขายใหญ่ตระกูลฉินเป็นคนมีเหตุผลเช่นนี้ เปิ่นหวางเองก็จักไม่ใส่.0ศิษย์พี่ที่ไม่ได้เรื่องคนนี้เช่นกัน ท่านอาจารย์เคยกล่าวกับข้าเอาไว้ว่า เขาหาได้สนใจเซียวเฉวียนคนผู้นี้ไม่!”

แน่นอนว่าท่านปีศาจกวีหาได้เอ่ยคำพ^ดเช่นนี้ออกมาไม่ หากแต่เป็นเว่ยชิงที่เอ่ยออกมาเช่นนั้นด้วยตนเอง

เหล่าบรรดาคุณชายในตระกูลขุนนางต่างพากันหัวเราะเสียงดังออกมาในทันที "ใช่ ๆ อย่าไปสนใจเลย! วันนี้พวกเราจักกินดื่มร่ำสุรา เพื่อเฉลิมฉลองให้แก่ท่านอ๋องที่ได้เป็นหนึ่งในศิษย์ของอาจารย์ที่มีชื่อเสียง!"

"ดี!"

"ฮ่าฮ่า ! พวกเรามาดื่มกันเถอะ"

เว่ยชิงเดินนำผู้คนไปยังด้านในหอเทียนหมิงในทันที เถ้าแก่เหลาอาหารที่กลัวว่าเว่ยชิงจักหนีไปนั้น เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเขาถึงได้วางใจลง

หากว่าท่านอ๋องไปที่หอปีไปหอปี๋เซิ่งแล้วไซร้ เช่นนั้นวันนี้เขาจะยังหาเงินได้อย่างไรเล่า?

“ท่านอ๋อง คุณชายทั้งหลายขอรับ เชิญทางนี้เลยขอรับ!” เถ้าแก่เหลาอาหารจึงแย้มยิ้มตาหยีออกมาในทันที

ในยามที่เว่ยชิงกำลังจะเดินก้าวข้ามธรณีประตูไปนั้น ข้ารับใช้ตระกูลฉินจึงได้กัดฟันกล่าวออกมาราวกับกำลังเสี่ยงชีวิตของตนออกมาว่า "ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ... ทว่าเหวินคุนเจี้ยวหยู้กำลังรอท่านอยู่ในหอปี๋เซิ่งเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย