ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 278

หอเทียนหมิง

ผู้คนเข้าออกไปมาด้วยความคึกคัก

เว่ยชิงจึงได้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองให้กับตนเองที่ได้เป็นลูกศิษย์ของปีศาจกวี

บุตรชายของเหล่าตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ต่างแห่กันมาเข้าร่วมงานเลี้ยงให้แก่เว่ยชิงอย่างคับคั่ง

ยามที่จัดงานเลี้ยงภายในหอเทียนหมิงในคราก่อนนั้น คืองานที่เซียวเฉวียนได้รับรางวัลชนะเลิศของการสอบจอหงวน

ในยามนั้น เหล่าบรรดาผู้คนทั้งหมดที่เข้ามาร่วมงานล้วนแต่เป็นชาวบ้านราษฎรคนธรรมดา กระทั่งทาสคุนหลุนยังสามารถเข้ามาร่วมงานได้ นั่นจึงทำให้เถ้าแก่เหลาอาหารมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หอเทียนหมิงจึงมีแขกเรือมาเข้าใช้บริการค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ แม้แต่รายได้จากการค้าขายก็ยังลดลงไปมาก รวมไปถึง เมื่อมีหอปี๋เซิ่งของเซียวเฉวียนมาเปิดให้บริการแล้วนั้น นั่นจึงส่งผลกระทบต่อหอเทียนหมิงมากเลยทีเดียว

ในยามนี้ เถ้าแก่หอเทียนหมิงจักได้มีหน้ามีตาขึ้นมาบ้างเสียที

เมื่อท่านอ๋องเว่ยชิงต้องการมาจัดงานเลี้ยงอย่างเป็นส่วนตัวที่เหลาอาหารของเขาเช่นนี้ ผู้ที่มาเข้าร่วมงาน ย่อมจักต้องเป็นแขกเรือตระกูลผู้สูงศักดิ์อย่างแน่นอน!

ใบหน้าของเถ้าแก่หอเทียนหมองแทบจะบานเป็นกระด้งเลยทีเดียว!

ความรุ่งโรจน์ของหอเทียนหมิงกำลังกลับมาเยือนอีกครั้งแล้ว!

ต้องโทษที่เซียนเฉวียน ที่ทำให้หอเทียนหมิงของเขาต้องมาตกอับเช่นนี้ เมื่อเขากลับมาเห็นแขกเรือผู้สูงศักดิ์แต่ละคนต่างพากันเดินเข้ามาคนแล้วคนเล่า เสมือนกับว่าเขาได้เห็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งมาเยือนเลยทีเดียว!

"เชิญขอรับ! เชิญเข้ามาได้เลยขอรับ! ยินดีต้อนรับสู่งานเลี้ยงฉลองของท่านอ๋องเว่ยชิงขอรับ!"

เถ้าแก่หอเทียนหมิงรีบเชื้อเชิญเหล่าคุณชายมากมายเข้ามาในทันที กระตือรือร้นยิ่งกว่าเว่ยชิงที่เป็นแม่งานเสียด้วยซ้ำ นับว่าวันนี้เป็นวันที่เขาสามารถทำเงินได้มากมายเลยเชียว!

เว่ยชิงที่ยืนต้อนรับแขกอยู่ในหอเทียนหมิงนั้น ต่างก็ได้รับคำชมจากลูกหลานเหล่าตระกูลขุนนางมากมายว่า "ไม่เสียทีที่ท่านอ๋องเป็นหนึ่งในแบบอย่างของพวกเรา! ฝ่าบาทสามารถเข้าไปเป็นศิษย์ของท่านปีศาจกวีได้นี้! พวกเราที่เหลือแม้ต่จักฝันยังมิกล้าฝันเลย!"

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว! พวกกระหม่อมหาได้กล้าคิดถึงเรื่องนี้ไม่ ทว่า ท่านอ๋องสามารถทำได้!”

“ช่างน่าละอายใจตัวเองจริง ๆ สู้ไม่ได้เลย!”

เหล่าบรรดาลูกหลานตระกูลขุนนางต่างพากันพูดจาประจบสอพลออย่างเต็มที่ เพียงแค่เว่ยชิงได้ฟังก็แทบตัวลอยไปกับคำยกยอในทันที หากแต่เบื้องหน้ายังคงแสดงออกมาถึงความถ่อมตัวว่า "ไม่ ไม่ ข้าเพียงแค่โชคดีเท่านั้น"

“ฝ่าบาทช่างถ่อมตัวเกินไปจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ หากให้คนอย่างพวกกระหม่อมร่ำเรียนอีกสักสามร้อยปี หาได้มีผู้ใดจักโชคดีเช่นนี้ไม่! มีผู้ใดไม่รู้กันว่า รากเหง้าแห่งการฝึกตนของพระองค์พัฒนาออกมาได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้ นับว่าพระองค์มีพรสวรรค์มากกว่าคนธรรมดาอย่างพวกกระหม่อมมากพ่ะย่ะค่ะ "

“ช่างเหอะ ช่างเหอะ” ภายในใจของเว่ยชิงรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก ทว่า เขายังคงแสร้งทำเป็นบัณฑิตที่มิสนใจความคิดเห็นของผู้อื่นอยู่ "คืนนี้ไม่เมามิต้องกลับ!"

“แน่นอน! แน่นอน! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

เหล่าบรรดาคุณชายตระกูลขุนนางทั้งหลายต่างพากันหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ ทันใดนั้น ฉินเฟิงและฉินเป่ยจึงได้เดินทางมาถึงพอดี

ทันทีที่พี่น้องตระกูลฉินมาถึงนั้น ทุกคนในห้องโถงต่างพากันเงียบสนิท ก่อนจะลอบมองหน้าสบตากันเล็กน้อย

ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าซือซือประชันกลอนเสียจนต้องมาตกตายอยู่ในตระกูลฉิน

แม้จะกล่าวว่าเสียชีวิตเพราะการประชันกลอน ทว่า หาได้มีผู้ใดเชื่อถือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งเว่ยชิงและฉินเฟิงเอง ต่างก็มุ่งมั่นที่จะเอาชนะใจองค์หญิง พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นศัตรูความรักซึ่งกันและกัน เหล่าบุตรชายจากตระกูลขุนนางทั้งหลาย ต่างลอบส่งยิ้มให้กันเนื่องจากว่าพวกเขากำลังได้ดูงิ้วดี ๆ โรงหนึ่งแล้ว

ในคราวนี้ เว่ยชิงเองก็ได้ส่งคำเทียบเชิญไปให้กับพี่น้องตระกูลฉินด้วยเช่นกัน

“ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ฉินเฟิงและฉินเป่ยย่อกายทำความเคารพในทันที

เว่ยชิงพยักหน้าลงเล็กน้อย "คุณชายสามฉินอยู่ที่ใดเล่า?"

ฉินหนาน......

ฉินเฟิงแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย "ฉินหนานป่วยพ่ะย่ะค่ะ เพื่อมิให้เป็นการขัดต่อความเป็นสิริมงคลของท่านอ๋อง ดังนั้น..."

นับว่านี่เป็นเหตุผลที่ดี เว่ยชิงย่อมต้องเข้าใจมันอย่างแน่นอน ผู้ใดจักไปคาดคิดกันว่า ข้ารับใช้ตระกูลฉินที่มิรู้จักรักตัวกลัวตายจู่ ๆ จักวิ่งเข้ามาหา

“คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านกำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ที่หอปี๋เซิ่งขอรับ จึงได้มาเชิญท่านกับคุณชายสี่ตระกูลฉินให้ไปร่วมงาน” ข้ารับจึงเอ่ยไปด้วยอาการหอบหืดว่า "คุณชายสามเองก็อยู่ที่หอปี๋เซิ่งแล้วขอรับ"

บรรยากาศโดยรอบพลันหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเต็มไปด้วยความรู้สึกอับอายขายขี้หน้าขึ้นมาในทันที

เหล่าบรรดาคุณชายในตระกูลขุนนางน้อยใหญ่ต่างพากันตกตะลึงไปโดยพลัน เมื่อครู่มิได้กล่าวว่าฉินหนานป่วยหรอกหรือ? เหตุใดถึงไปอยู่ในหอปี๋เซิ่งของเซียวเฉวียนได้เล่า? นี่มิได้เป็นการตบหน้าท่านอ๋องต่อหน้าสาธารณะหรอกหรือ?

ฉินเฟิงได้แต่กระเอมกระไอออกมาในทันที ก่อนจะทำท่าขยิบตาส่งสัญญาณให้กับข้ารับใช้คนนั้น หากแต่ข้ารับใช้หาได้เข้าใจในสิ่งที่เขาจักสื่อออกมาไม่ "นายท่านยังกล่าวอีกว่า ให้รีบไป อย่าให้นายท่านต้องคอยนาน"

ฉินเฟิงพลางเอ่ยตะคอกออกมาว่า "มิรู้หรือว่าวันนี้ท่านอ๋องได้ส่งเทียบเชิญมางานเลี้ยงแล้ว? เขายังจะมาเรียกคนไปได้อย่างไร ? เขานับว่าเป็นสิ่งใดกัน?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย