ดาบจิงหุน ฮ่องเต้ทรงตั้งชื่อให้ว่าดาบจิงหุน ตั้งแต่ออกมาจากเตาหลอมของศาลาคุนหวู่ เจียงหูเคอก็สังเวยเลือดเนื้อตนเองให้กับดาบนี่
ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาสังหารเหวินฮั่น จากนั้นก็ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
ดาบในมือของเซียวเฉวียนเป็นดาบจิงหุนเล่มแรก มีตัวอักษรสลักอยู่บนดาบ
แม้ว่าจะเป็นเพียงคำธรรมดาหนึ่งคำ แต่มันก็ถูกสลักไว้อย่างบรรจงลงลึกไปในตัวดาบ
รังสีสังหารคละคลุ้งไปในอากาศเย็น รุงแรงราวกับต้องการแล่เนื้อเฉือนหนังออกมาทีละน้อย
เซียวเฉวียนถือดาบไว้ในมือ เข้าร่วมการประลองยุทธเลือกคู่ ก็เหมือนกับการบอกผู้คนของเว่ยเจียนกั๋วว่า: ข้ายังจดจำการสังหารครั้งนั้นได้ และข้ามาเพื่อแก้แค้น! ข้า เซียวเฉวียน วันนี้ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าได้ในสิ่งที่ปรารถณา!
คนขายเนื้อเห็นดาบจิงหุนใกล้ๆ เป็นครั้งแรก และเมื่อสบเข้ากับสายตาอันหนักแน่นและไม่แยแสของเซียวเฉวียน เขารับรู้ได้ถึงพลัง!
"เฮ้!"
"เฮ้!"
"เฮ้!"
ผู้ชมตีท้องและปรบมือเพื่อให้กำลังใจคนขายเนื้อ นี่เป็นหนึ่งในมารยาทระหว่างการประลองของต้าเว่ย!
ไร้สาระ!
เซียวเฉวียนกลอกตา ภาพกลุ่มผู้คนตบท้องดูน่าเอ็นดูจนอยากจะคลื่นไส้
ตัวเขาถือมีดแล่เนื้อและพร้อมจะฆ่าราวกับฆ่าหมู เขารีบวิ่งเข้าไป!
เซียวเฉวียน หรี่ตาอย่างเย็นชาและยกดาบขึ้นเพื่อต่อสู้!
ดาบจิงหุนมีความยาว 5 ฟุต กับมีดแล่เนื้อที่มีความยาวประมาณ 1.3 ฟุต
เซียวเฉวียนสูง 187 เซนติเมตร และคนขายเนื้อสูง 175 เซนติเมตร
เซียวเฉวียนหนัก 80 กิโลกรัม และคนขายเนื้อหนักประมาณ 110 กิโลกรัม
เซียวเฉวียนได้เปรียบในเรื่องความสูงและอาวุธ ในขณะที่คนขายเนื้อได้เปรียบในเรื่องน้ำหนักและความแข็งแกร่ง
วิชาดาบซินโหย่วนั้นเฉียบคมและดุดันอย่างยิ่ง แต่เซียวเฉวียนออมมือทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด
มีดของคนขายเนื้อแม้ว่าจะสั้นแต่หากโดนจุดสำคัญก็ไม่รอดเช่นกัน คนขายเนื้อโจมตีอย่างสุดกำลังราวกับว่าเขากลัวที่จะไม่ได้ฆ่าเซียวเฉวียน!
คนขายเนื้อดุดันและใช้วิธีที่โหดเหี้ยมในการประลอง
เซียวเฉวียนต้องการชนะอย่างใสสะอาด ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังมากกว่าคนขายเนื้อ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความคล่องตัวของเขา คนขายเนื้อจึงเสียเปรียบในเรื่องนี้
เห็นได้ชัดว่าทักษะการต่อสู้ของเซียวเฉวียนเกินความคาดหมายของพวกเขา
ทักษะการใช้ดาบของเซียวเฉวียน เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่าไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าจะเคยใช้ทักษะดาบนี้มาก่อนก็ตาม
ตอนนี้ เซียวเฉวียนใช้ความเร็วตามปกติ ก็สามารถทำให้พวกเขาก็ตกตะลึงได้แล้ว
คนขายเนื้อหยิบมีดของเขาออกมาและโจมตีไปด้วยความโกรธ เป็นผลให้ทักษะการใช้ดาบของเซียวเฉวียนมีทั้งการโจมตีและการป้องกัน เขาไม่สามารถเข้าไปประชิดตัวเซียวเฉวียนได้ ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ
"เฮ้!"
"เฮ้!"
"เฮ้!"
ผู้ชมตบท้องของพวกเขาเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แรงสั่นสะเทือนในหูของเซียวเฉวียนเพิ่มขึ้น
"อา!"
จู่ๆ คนขายเนื้อก็คำรามออกมา!
เขาขว้างมีดออกไปเสียงดังสนั่น!
การโจมตีตอนนี้ของคนขายเนื้อไม่ได้น่ากลัว แต่มันจะน่ากลัวก็ต่อเมื่อเขาใช้สมอง!
ดวงตาของเซียวเฉวียนเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
ผู้ชมต่างก็ลุกขึ้นยืน เห็นได้ชัดว่าคนขายเนื้อเลือกใช้กลยุทธ์อื่นในการต่อสู้
ในเมื่อมีดของคนขายเนื้อเสียเปรียบดาบจิงหุน คนขายเนื้อจึงโยนมีดทิ้งไป และเริ่มทำการประลองใหม่ด้วยการประชิดตัว ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เซียวเฉวียนจะต้องแพ้อย่างแน่นอน
ผู้คนต่างคิดว่าในเมื่อคนขายเนื้อทิ้งมีดไปแล้ว เซียวเฉวียนจะยังมีความกล้าใช้ดาบอีกอย่างนั้นหรือ? หากใช้ ชัยชนะที่ได้มามันจะบริสุทธิ์งั้นหรือ?
ซึ่งเซียวเฉวียนก็รู้สึกอายนิดหน่อย เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
แต่เซียวเฉวียนมาที่นี่เพื่อเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่เพื่อเป็นสุภาพบุรุษ
“เคล้ง!” เสียงมีดของคนขายเนื้อหล่นลงบนพื้นดังกึกก้อง
เพื่อให้กำลังใจตัวเอง คนขายเนื้อคำราม จากนั้นเบ่งกล้ามแขนด้วยสีหน้าจริงจัง: วางดาบจิงหุนลง มาสู้กันตัวต่อตัว!
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว โง่รึเปล่าเนี้ย? มีอาวุธกลับไม่ใช้ จะสู้ตัวต่อตัวอย่างนั้นหรือ?
เซียวเฉวียนถือดาบขึ้น: "แน่ใจหรือ ว่าจะทิ้งอาวุธ?"
ตามกฎการประลอง เมื่อวางอาวุธแล้วจะไม่สามารถใช้งานมันได้อีก
เซียวเฉวียนถามอย่างจริงจัง แต่ในสายตาคนอื่นนี้กลับเป็นความไร้ยางอาย
ความเงียบ......
เงียบ......
คนขายเนื้อจ้องมองเซียวเฉวียนผู้ไร้ยางอายอย่างจดจ่อ เขามองไปที่มีดของคนขายเนื้อ หยิบมันและโยนมันออกไปยังคนขายเนื้อ
ถ้าคนขายเนื้อหยิบมันขึ้นมา เขาจะต้องก้มลงไป ถ้าเซียวเฉวียนคิดจะทำอะไรสกปรก เขาจะไม่เป็นผู้แพ้หรอกหรือ?
เห้อ! คนหนอคน! ฟังดูก็สมเหตุสมผล ภายในใจของคนขายเนื้อกำลังร้องหาปู่หาย่าให้ช่วย: "เซียวเฉวียน ช่วยนักษาหน้าหน่อยเถอะ ข้าไม่ต้องการใช้มันหรอก ว่าแต่ทำไมเจ้ายังถือดายอยู่อีก! จะเล่นสกปรกรึ!"
"ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มกันเลย"
เซียวเฉวียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในมือถือดาบไว้แน่น ต่อสู้ให้จบๆไปดีกว่า
คนขายเนื้อบีบไหล่ของเซียวเฉวียนด้วยมือทั้งสองข้าง!
"พลิก!"
"พลิก!"
“พลิกเขา!”
คนขายเนื้อยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ปัญญาชนก็เป็นแค่ปัญญาชนวันยันค่ำ! แม้ว่าจะยิ่งใหญ่ แต่พลังกลับไม่มี!
คนขายเนื้อต้องการพลิกเซียวเฉวียนให้ลงไปนอนบนพื้น เขาคว้าไหล่ของเซียวเฉวียนไว้!
เข่าของเซียวเฉวียนกระแทกอย่างแรง!
เป็นความได้เปรียบของคนขายเนื้อ!
"โอ๊ะ!"
คนขายเนื้อปิดใบหน้า!
เซียวเฉวียนโบกดาบจิงหุนใส่คนขายเนื้อโดยไม่ลังเล! เฉือนโดนเข่าทั้งสองข้างของเขา!
"อ๊ากก!"
คนขายเนื้อปกปิดส่วนสำคัญของเขา แต่เข่าทั้งสองข้างกลับได้รับบาดเจ็บ มือทั้งสองข้างไม่รู้ว่าควรนำไปปกปิดตรงไหน!
เขาคุกเข่าลงบนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดอย่างยิ่ง!
“คนขายเนื้อคุกเข่าลงไปแล้ว!”
ผู้ชมต่างส่ายหัวแล้วตะโกน: "คนขายเนื้อ! อย่าให้มือแตะพื้น!"
คนขายเนื้อคำรามด้วยความเจ็บปวด เขาแข็งแกร่งมาก จนดูเหมือนไร้ความเจ็บปวด
เซียวเฉวียนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย รักษาไม่กี่วันก็คงหายดี แต่คนขายเนื้อที่ดูมีอายุมากกว่า คุกเข่าลงไปและกรีดร้องเสียงดัง
"อ๊ากกก......"
การประลองและได้รับบาดเจ็บเป็นเรื่องปกติ! ทุกคนโห่ร้อง คนขายเนื้อคงมีดีแค่ชื่อเท่านั้น! ร้องออกมาเช่นนี้ ไร้ประโยชน์เสียจริง!
“ถ้าเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ ข้าจะหยุดแต่เพียงเท่านี้!”
เซียวเฉวียนยืนถือดาบอยู่ในมือ ตราบใดที่คนขายเนื้อเอามือแตะพื้นด้วยตนเอง เซียวเฉวียนก็จะไม่ทำให้เขาอับอาย
“ยอมรับความพ่ายแพ้?” คนขายเนื้อจ้องไปที่เซียวเฉวียน: “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่ต้องการแต่งงานกับองค์หญิงงั้นรึ?”
"ข้าจะต้องแต่งกับองค์หญิงให้ได้ แม้ว่าข้าจะต้องตายก็ตาม!"
ดวงตาของคนขายเนื้อเต็มไปด้วยน้ำตา จมูกก็เต็มไปด้วยน้ำมูก แต่ภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ขัดกับการตะโกนของเขาเลย
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ทันทีที่ประลอง ก็พบเข้ากับคนพร้อมตายเลยเสียด้วย!
ดูเหมือนว่าจะต้องระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นจะมีคนตายในไม่ช้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...