สีหน้าของอัครเสนาบดีจูดังเมฆหม่นปกคลุม ทำท่าคล้ายอยากจะกินคนก็ไม่ปาน!
นัยน์ตาอันทะมึนทั้งคู่นั้น คล้ายมีประกายไฟ
ประกายไฟขุมที่สามารถกินคนเข้าไปทั้งเป็นได้!
เหล่าขุนนางไม่กล้าส่งเสียงใด กระทั่งตัวสวีซูผิงเองก็ผงะ เว่ยชิงเป็นอัมพาตแต่กลับไม่ตายงั้นหรือ
ดูไปแล้ว นี่ก็คล้ายวิธีการลงมือของเซียวเฉวียน
แต่ว่า สวีซูผิงกลับไม่ได้เอ่ยปากใดๆ ในช่วงเวลาที่บีบคั้นกดดันเช่นนี้ เขากลับยืนดูอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ
ขุนนางชั้นผู้น้อยหมอบอยู่กับพื้น ไม่กล้าแม้จะเงยศีรษะ “ไม่ ไม่ใช่เซียวเฉวียนขอรับ”
ไม่ใช่เซียวเฉวียนหรือ?
อัครเสนาบดีจูยกเท้าขึ้นมา เตะไปยังพื้นที่ว่างด้านหลังขุนนางชั้นผู้น้อยรายนั้นครั้งหนึ่ง “ไม่ใช่เขาแล้วยังจะมีใครอีก! หรือจะให้เป็นตัวข้าหรือไร!”
“...”
อัครเสนาบดีจูดันพูดถูกเสียด้วยสิ
ขุนนางชั้นผู้น้อยตกใจจนสีหน้าถอดสีกว่าเดิม ต่งจัวเป็นผู้อารักขาของอัครเสนาบดีจู ดังนั้นพูดว่าอัครเสนาบดีจูเป็นคนทำ จริงๆ แล้วก็นับว่าพูดถูก
แต่ขุนนางชั้นผู้น้อยเอ่ยเสียงเบา ใครมันกล้าเอ่ยไปตรงๆ ละ!
ขุนนางชั้นผู้น้อยลังๆ เลๆ ไม่อาจจะเอ่ยสิ่งใดๆ ออกมาได้แม้ครึ่งคำ ทำเอาอัครเสนาบดีโมโหจนคล้ายระฆังทองแดง
ขุนนางชั้นผู้น้อยกลับไปหมอบอยู่บนพื้น “เชิญ เชิญท่านอัครเสนาบดีไปดูที่ประลองก่อนเถอะขอรับ”
“ขยะที่กระทั่งจะพูดยังไม่ชัด! ถอดจากตำแหน่งเสีย!”
“หา!” ขุนนางชั้นผู้น้อยตะลึงไป เขาแข้งขาอ่อนอยู่บนพื้น เขาสอบเข้ามาอย่างไม่ง่ายเอาเสียเลยกว่าจะได้เป็นขุนนางชั้นผู้น้อยขั้นเจ็ด ไม่ถึงสองปี กลับถูกถอดจากตำแหน่งแล้วหรือ?
แต่ว่าอัครเสนาบดีก็คืออัครเสนาบดี เพียงคำพูดประโยคเดียว ก็ตัดสินเส้นทางชีวิตของคนคนหนึ่งได้แล้ว
ใจของอัครเสนาบดีไฟโทสะโจมตี เขาพลันเร่งรุดนำเหล่าขุนนางทั้งหลายมุ่งหน้าไปยังสนามประลองประหนึ่งยืนบนล้อไฟก็ไม่ปาน
“เซียวเฉวียน! เจ้าคนใจกล้า! เจ้าถึงกับกล้าทำร้ายท่านอ๋อง!”
“งานประลองเลือกคู่ ดำเนินมาจนถึงตอนนี้! เพราะอะไรเจ้าเลือกลงมือหนักยามนี้กัน!”
อัครเสนาบดีจูครั้นมาถึงสนามประลอง ก็ชี้หน้าบริภาษเซียวเฉวียนอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นเว่ยชิงต้องใช้คนพยุงถึงจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ได้ เหล่าขุนนางทั้งหลายก็แทบจะเป็นลม อัครเสนาบดีจูนำเหล่าขุนนางคุกเข่า “ท่านอ๋อง! กระหม่อมจะให้คนรีบพาตัวเซียวเฉวียนไป!”
อัครเสนาบดีจูไม่ได้กล่าวโกหกแต่อย่างใด เว่ยชิงนั้นเป็นหลานที่เว่ยเจี้ยนกั๋วรักที่สุด!
ในวันนี้อัครเสนาบดีจูทำเรื่องไม่บรรลุ แถมยังทำเอาเว่ยชิงพอการไป จบสิ้น! นี่จบสิ้นกันแล้ว!
“อ้อ อัครเสนาบดีจู” เซียวเฉวียนกระแทกเม็ดแตง “ท่านเอ่ยว่าข้าทำท่านอ๋องบาดเจ็บหนัก ต้องการเอาตัวข้าไปงั้นหรือ? ไม่ทราบว่าข้ากระทำเรื่องใดผิดกันล่ะ?”
เซียวเฉวียนแย้มยิ้มเล็กน้อย เขาลุกขึ้นมา หยัดร่างตั้งตรง
ยิ่งนานไปเขาก็ยิ่งดูสูงส่งองอาจ และยิ่งเสียดแทงนัยน์ตาของเว่ยชิง
“ทำร้ายเชื้อพระวงศ์ เจ้าพูดมาสิว่าผิดอะไร!” อัครเสนาบดีจูตะคอกอย่างตื่นตะลึง “โทษถึงตาย! ทั้งชั่วโคตร!”
“เซียวเฉวียนเอ๋ยเซียวเฉวียน ในครานี้ เจ้าก็ทำร้ายกระทั่งจวนฉินอย่างสาหัสเสียแล้ว!”
อัครเสนาบดีจูโมโหจนร่างกายชราของเขานั้นสั่นเทาไปหมด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาย่อมไม่มีทางปล่อยจวนฉินไปแน่
“เอ๋ ทั้งชั่วโคตรเลยหรือ?” เซียวเฉวียนพยักหน้า ไม่ผิด นี่ก็ไม่ผิดหรอกนะ “เช่นนั้นไม่ทราบว่า ใต้เท้าอัครเสนาบดีจู หากว่าผู้อารักขาของข้าเป็นคนทำร้ายเว่ยชิง เช่นนั้นข้าก็ย่อมต้องผิดไปด้วยหรือไม่?”
อัครเสนาบดีจูลุกขึ้นมาก่อนจะสะบัดชายเสื้อ “แน่นอน! ผู้อารักขากระทำผิด เจ้านายก็โทษเดียวกัน! ไม่เพียงแต่เจ้านายรับโทษเช่นเดียวกัน เจ้าในฐานะลูกเขยของจวนฉิน! จวนฉินเองก็ยากจะหลีกหนีความรับผิด!”
ในเวลาเดียวกัน จ้าวซิ่นก็โบกมืออย่างบ้าคลั่ง อัครเสนาบดี อย่าได้พูดแล้ว! อย่าได้พูดอีกเลย!
“อัครเสนาบดี...” เว่ยชิงยิ่งส่ายหน้า เขาคิดอยากห้ามอัครเสนาบดี จนใจแต่เสียงของเขาเบานัก และถูกเสียงของเซียวเฉวียนที่จงใจปรับให้ดังขึ้นนั้นตะคอกกลับไป “ใช่แล้ว! แล้วเจ้านายต้องรับโทษแบบใดเช่นเดียวกันล่ะ?”
วันนี้อัครเสนาบดีเปลี่ยนกฎซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็เพื่อจงใจเคี่ยวกรำเซียวเฉวียน หากมิใช่ว่ามีเซี่ยวเฟิงอยู่ เซียวเฉวียนก็ไม่รู้ว่าจะตายใต้เงื้อมมือสุนัขของจ้าวซิ่น หรือว่าตายภายใต้คมพายุกระบี่ของเหล่าคุณชายสูงศักดิ์กันแน่
ใครไม่ล่วงเกินข้า ข้าไม่ล่วงเกินผู้นั้น
หากมีคนล่วงเกินข้า เช่นนั้นข้าจะเอาคืนให้สามเท่า
และหากว่ายังล่วงเกินต่อ เช่นนั้นก็ขุดรากถอนโคน!
เซียวเฉวียนไม่มีทางปล่อยเจ้าคนเฒ่าเช่นอัครเสนาบดีจูไปง่ายๆ แน่นอน!
อัครเสนาบดีจูความโมโหท่วมท้น ไฉนเลยเขาจะมองเห็นสัญญาณของจ้าวซิ่น เขาเอ่ย “ผู้อารักเขาทำร้ายเชื้อพระวงศ์ ผู้เป็นนายย่อมต้องรับโทษตาย!”
“อัครเสนาบดี!” จ้าวซิ่นกำลังจะเอ่ยวาจา ทว่าดันถูกเซียวเฉวียนตะคอกเสียงเย็น “เจ้าหุบปากเสีย! ข้ากำลังเอ่ยปากกับท่านอัครเสนาบดี มีที่ให้เจ้าสอดปากได้หรือ!”
จ้าวซิ่นถูกเซียวเฉวียนตะคอกเช่นนี้ ก็ตกใจจนตัวสั่นขึ้นมา จ้าวซิ่นยิ่งตะลึงไปกว่าเก่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...