พอเห็นหน้าคนที่มา ฉินหนานหน้าแดงก่ำ พวกจูเหิงมาเห็นเขาอยู่กับเซียวเฉวียนด้วยกันจนได้!
ที่ผ่านมา ฉินหนานโอ้อวดว่าเซียวเฉวียนเกรงกลัวคนในบ้านตระกูลฉินมากอย่างไร อย่าเห็นว่าเซียวเฉวียนเวลาอยู่นอกบ้านจะกล้าหาญชาญชัยเพียงใด แต่ต่อหน้าน้องฉินหนานคนนี้ เซียวเฉวียนจะเกรงอกเกรงใจให้เกียรติเสมอ
พวกบุตรหลานสูงเกียรติทั้งหลายยังรู้ว่าเซียวเฉวียนต้องไปสวัสดีคุณยายฉินทุกเช้า คุกเข่าเป็นครึ่งชั่วโมง กลางคืนเขาจะต้องไปเทน้ำล้างเท้าให้ฉินเฟิงด้วย
คนในตระกูลฉิน ถ้าได้รับการปรนนิบัติพอใจเป็นอย่างดี อาจจะให้เงินค่าขนมแก่เซียวเฉวียนบ้าง เงินเพียงเล็กน้อยเท่านี้ก็จะสามารถทำให้เซียวเฉวียนมีความสุขขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตาม ในปากของฉินหนาน เซียวเฉวียน เป็นสุนัขตัวหนึ่งของตระกูลฉิน เขาสั่งให้ไปทางทิศตะวันออกเขาย่อมไม่กล้าไปทางทิศตะวันตก บอกให้ยืนเขาจะไม่กล้านั่งลงเด็ดขาด
ตระกูลฉินเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ ฉินหนานก็เป็นหลานชายซึ่งเป็นที่โปรดปรานมากที่สุดของตระกูลฉิน ดังนั้นบรรดาบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์ทั้งหลายจึงเชื่อคำพูดของเขาอย่างเต็มร้อย
เขยที่แต่งเข้าบ้านพ่อตาจะมีคุณสมบัติอะไรเข้ามาในโรงเรียนชิงหยวนได้ละ จะมีสิทธิ์อะไรที่จะมายืนอยู่ร่วมกับบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์เช่นพวกเขาได้?
ในสายตาของพวกเขา แม้เป็นเพียงก้อนอิฐก้อนหนึ่งที่อยู่ใกล้บริเวณของโรงเรียนชิงหยวน เซียวเฉวียนก็ไม่คู่ควรมายืนอยู่บนนั้น!
ก่อนนั้นที่เซียวเฉวียนนำชุดแต่งงานไปจำนำทิ้ง ทำให้ฉินซูโหรวซึ่งเป็นสุดที่รักของจูเหิงนั้นต้องอับอายขายหน้า จูเหิงยิ่งมองดูเซียวเฉวียนขัดตามากยิ่งขึ้น มองยังไม่คิดจะมอง วางท่าอย่างกะสุภาพบุรุษมารยาทดี "น้องหนาน ถึงเซียวเจี่ยเหยียนจะเป็นเขยแต่งเข้ามาในบ้าน แต่น้องไม่ได้บอกเขาหรือว่าแม้เขาจะสอบได้ตำแหน่ง แต่โรงเรียนชิงหยวนแห่งนี้ไม่ใช่ใครคิดจะเข้าก็เข้าได้ หนึ่งไม่มีฐานะ สองไม่มีทรัพย์สมบัติ โรงเรียนชิงหยวนจะยอมรับเขาได้อย่างไร ?”
จู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมนี่? ฉินหนานงง เขาปัดมือและพูดว่า "พี่จูเข้าใจผิด พี่เขยฉัน...... ไม่ เซียวเฉวียนแค่บังเอิญเดินผ่านมาเท่านั้นเอง"
ชิงหยวนเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ใครจะไม่อยากมาเรียน ยิ่งไปกว่านั้น บ้านของเซียวอยู่ห่างไกลเกินกว่าครึ่งของพื้นที่เมืองหลวงโน่น บังเอิญเดินผ่านมางั้นหรือ?
บรรดาบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์ต่างมีสีหน้าเย้ยหยัน พูดว่า "พี่ฉิน พี่เป็นคนใจดีจริงๆ เรื่องบังเอิญแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? ฉันคิดว่าเขามาแอบเรียนรู้มากกว่า! ฮ่าฮ่า!"
ลักวิชาเป็นหนึ่งในการกระทำที่น่ารังเกียจที่สุดของต้าเว่ย
วิชาความรู้ของต้าเว่ยนั้นมีกำหนดราคาอย่างชัดเจน ซึ่งเหมือนกับในสังคมสมัยใหม่ปัจจุบัน หนังสือดีๆ และครูที่ดีมีค่าเท่าทองคำ ทองคำ 100 ตำลึงที่จักรพรรดิประทานให้มานั้น เซียวเฉวียนยังไม่พอจ่ายค่าบำรุง 10 คาบเพื่อฟังบทเรียนของครูเหวินฮั่น
การลักการเรียนรู้วิชาเป็นเหมือนจับเสือมือเปล่า ได้ของเขามาโดยไม่ต้องลงทุน คิดฝันเพ้อเจ้อ!
ดังนั้นคนทั่วไปส่วนใหญ่ในราชวงศ์ต้าเว่ยจึงไม่มีปัญญาได้เรียนหนังสือ ซึ่งทำให้สถานะของผู้รู้หนังสือนั้นสูงมากโข
เซียวเฉวียนเหมือนจะได้ยินเรื่องมหาตลกมาเรื่องหนึ่ง กล่าวหาว่าเขาลักวิชาโดยไม่มีหลักฐาน? ยิ่งไปกว่านั้นระดับปัญญาความรู้ของต้าเว่ยแค่นี้มีอะไรน่าลักขโมยหรือ
คุยกับคนเบาปัญญาไม่รู้เรื่องแค่คำครึ่งคำก็เกินพอ เซียวเฉวียนขี้เกียจอธิบาย แต่คงทำหน้าเย็นชา ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ และเขาไม่ใช่เซียวติ้งคนขี้ขลาดก่อนหน้านี้ ครั้งนี้เขาจะสู้ไม่ถอยเด็ดขาด!
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะสอบได้อันดับหนึ่ง แต่เขายังไม่มีหน้าที่หรือตำแหน่งใดๆ บรรดาบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์เหล่านี้ถึงได้ดูถูกเขา นอกจากเยาะเย้ยไม่เกรงขาม ยังชักชวนผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้มามุง "มาสิ ดูนี่สิ! ผู้สอบได้อันดับหนึ่งจริงๆ แล้วมาแอบลักขโมยวิชาอยู่นี่เอง ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเงิน แต่ไม่ยอมเรียนรู้ที่จะรับชะตากรรมของตัวเอง!"
อีกคนพูดเสริมขึ้นมาว่า "เรียนไม่เก่ง ก็ลอกของคนอื่นไม่ว่า ยังมาทำเรื่องน่าอับอายแบบนี้อีก! ต้าเว่ยจะลงโทษควักลูกตาและตัดมือคนที่ลักวิชา และเขาจะไม่มีวันได้ถือปากกาอีกเลยในชีวิตนี้!”
ผู้สัญจรไปมาหยุดก้าวและเริ่มกระซิบ ใบหน้าของฉินหนานทั้งแดงทั้งร้อน แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเซียวเฉวียน แต่ถ้าเซียวเฉวียนถูกยัดข้อหาลักเรียนวิชา ไม่เพียงแต่ชีวิตของเขาจะรักษาไม่อยู่ ยังพัวพันมาถึงตระกูลฉินด้วย
เขากำลังจะพูดเพื่อช่วย แต่จูเหิงดึงเขาออกไป จูเหิงส่งสายตากระซิบ บอกไม่ให้เข้าไปยุ่ง ถึงอย่างไรตระกูลฉินก็ไม่ชอบเซียวเฉวียน วันนี้พวกเขาจึงถือโอกาสนี้เพื่อยุติชีวิตอันตกต่ำของเซียวเฉวียนนี้ให้ได้!
จูเหิงหันศีรษะไปถามน้องคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ว่า "น้องซ่ง เมื่อเร็วๆ นี้มีปรากฎบทกวีเจ็ดคำในเมืองหลวงชื่อ "ปีนเขาสูง" คนวิจารณ์ว่าคนแต่งต้องเป็นคนผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน แต่บทกวีนั้นจริงๆ แล้วเขียนโดยเซียวเฉวียน แม้ว่าเราจะไม่มีหลักฐานการลอกเลียนแบบของเขา แต่ตอนนี้เขาถูกจับได้ว่าลักวิชา เขาจึงทำได้ระดับอย่างบท "ปีนเขาสูง" ตามกฎหมายของต้าเว่ย เราควรจัดการกับมันอย่างไร "
ซ่งเชียนเวิ่นลูกชายคนเล็กของซ่งจือ มีสถานะสูงส่ง และผู้คนในเมืองหลวงต่างลงความเห็นว่าเขามีความนิยมเหมือนซ่งจือมากที่สุด
ซ่งจือเป็นผู้รับผิดชอบกฎหมายของต้าเว่ย และซ่งเชียนเวิ่นได้ชินหูชินตากับสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเขาจึงรู้ถึงความรุนแรงของโทษลักเรียนวิชานี้อย่างไร
ตระกูลซ่งและตระกูลจูมีความสัมพันธ์ที่ดีและซ่งเชียนเวิ่นเข้าใจว่าจูเหิงหมายถึงอะไร นอกจากนี้ ครั้งก่อนที่จวนฉินจัดงานเลี้ยง พ่อของเขากลับเข้าบ้านมาอย่างเร่งรีบด้วยอารมณ์โกรธเคือง
ต่อมาซ่งเชียนเวิ่นถึงรู้ว่าเซียวเฉวียนพูดจาโอหังทำให้พ่อเขาเสียหน้าต่อที่สาธารณะในงานเลี้ยง ตั้งแต่นั้นมาซ่งเชียนเวิ่นก็เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ
วันนี้เซียวเฉวียนโชคไม่ดี และตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขาจนได้
”ลักวิชา ลงโทษสังหารต่อที่สาธารณะได้เลย ไม่จำเป็นต้องร้องส่งทางการก็ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...