ตอน บทที่ 405 นั่งรอเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 405 นั่งรอเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ในจวนอ๋องเจ้าเมืองไป๋ลู่
ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของเจ้าแห่งเมืองไป๋ลู่ แต่ตอนนี้อยู่ในสภาพระเกะระกะ
เป็นศูนย์กลางของเมืองไป๋ลู่ มีชื่อเรียกว่าหนานตู
แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง
เมื่อข่าวการตายของเซียนกวีและเว่ยชิงแพร่มาถึง จวนอ๋องเจ้าเมืองก็ตัดเสบียงของชาวนักพเนจร นอกจากนี้ ชาวนักพเนจรเดิมไม่มีผู้นำอยู่แล้ว จึงถือโอกาสออกปล้นสะดมชาวบ้านและทำทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ
หนานตูที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นเหมือนนรกบนดินที่วุ่นวายและน่าสะพรึงกลัว ชาวบ้านผู้น่าสงสารจึงหนีภัยออกจากเมืองไปทีละคน
ฉินเซิ่งได้รับคำสั่งให้มาปราบปรามความวุ่นวาย เขามาถึงค่ายทหารในเมืองไป๋ลู่ โดยไม่คาดคิดว่า คนในค่ายที่เดิมสังกัดเว่ยชิงนั้น ตอนนี้มาเจอกับฉินเซิ่ง ซึ่งเป็นคนของจักรพรรดิส่งมาด้วย พวกเขาจึงมีกิริยาผลักไสกัน ไม่ให้ความร่วมมือกัน
พวกที่มาหนานตูเที่ยวนี้ นอกจากฉินเซิ่งแล้ว ยังมีฉินเฟิง และกองกำลังตระกูลฉินอีกสามร้อยคน
แต่ในอาณาเขตของเจ้าอ๋อง กองทัพถูกควบคุมโดยเจ้าอ๋องเองมาตลอด ไม่ได้สังกัดองค์จักรพรรดิ
ตอนนี้การมาถึงของฉินเซิ่งพ่อลูก แม้จะทำตามคำสั่งของจักรพรรดิ ก็ยังไม่เป็นที่ยินดีต้อนรับจากค่ายทหารหนานตู
ค่ายทหารหนานตูเองมีแม่ทัพชื่อ เกาปิง
ตระกูลเกามีความภักดีต่อจวนเจ้าอ๋องครองเมืองมาโดยตลอด แม้ว่าเซียนกวีและเว่ยชิงจะตายไปแล้ว แต่เซียนกวียังมีลูกชายคนเล็ก แม้จะมีอายุเพียงห้าขวบ แต่เขาก็ถือเป็นเจ้านายของเมืองไป๋ลู่เช่นกัน แม้ว่านายน้อยจะไร้ความสามารถ แต่เกาปิงเชื่อว่าไม่ใช่กาลเวลาที่คนของจักรพรรดิจะมาตัดสินใจได้
ฉินเฟิงโกรธแค้นยิ่งนัก ทุกคนให้ความเคารพและเอื้อมมาเกาะตระกูลฉินในเมืองหลวงของเขา พ่อของเขาเป็นแม่ทัพทหารม้าผู้ยิ่งใหญ่ ยศเทียบสามองคมนตรี
ตอนนี้ แม่ทัพเล็กๆ ในจวนอ๋องเจ้าเมืองเพียงผู้เดียวกล้าแสดงสีหน้าอวดดีมาให้เห็น!
”แล้วพวกเจ้าจะจ้องตามองให้เมืองไป๋ลู่ตกไปอยู่ในมือของชาวนักพเนจรเหรอ? ดูเอาซิ ตอนนี้เมืองไป๋ลู่ตกอยู่ในสภาพแย่แค่ไหนแล้ว!”
ฉินเฟิงคำรามด้วยโทสะ เขาไม่ได้โกรธคนเหล่านี้ที่ไม่ทำหน้าที่ แต่โกรธคนเหล่านี้ที่ไม่เห็นคนของเขาอยู่ในสายตา
ฝ่าบาทส่งพ่อลูกฉินเซิ่งมานี่ ก็จะให้มายึดค่ายทหารหนานตู แต่กลับกลายเป็นว่าพวกนี้ไม่เชื่อฟังคำสั่ง?
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อลูกฉินเซิ่งมาที่นี่พร้อมตราประทับของเมืองไป๋ลู่ ซึ่งเป็นตัวแทนอำนาจสูงสุดของเมืองไป๋ลู่
แต่ว่า ทหารของเมืองไป๋ลู่มักจะมีข้อครหาในการเสียชีวิตของเซียนกวีและเว่ยชิง พวกเขารู้สึกว่าจักรพรรดิเป็นผู้สังหารคนสองคนนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อจะยึดครองดินแดนของเมืองไป๋ลู่
ตอนนี้คนของจักรพรรดิจะมายึดค่ายทหารอีก ผู้คนที่นำโดยเกาปิงจึงไม่มีความยินดีอย่างแน่นอน
“ยังไม่จำเป็นต้องรบกวนแม่ทัพฉินมาเป็นห่วง” เกาปิงส่งเสียงเย็นชา ทำความเคารพต่อท้องฟ้า “พวกเราในเมืองไป๋ลู่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุนหลุน ตอนนี้เราได้ไปที่คุนหลุนเพื่อขอให้เหล่าเทพเจ้ามาช่วยเรา ถึงเวลา คุนหลุนจะมาประจำการอยู่ที่เมืองไป๋ลู่ เรื่องใหญ่ๆ จะลดเหลือเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กๆ จะหายไป จะไม่รบกวนพวกท่านมาเป็นห่วง”
“พวกเจ้าเป็นค่ายทหาร แต่กลับจะมอบตำแหน่งของผู้บัญชาการสูงสุดให้กับคนนอกเหรอ?”
ฉินเฟิงเหลือเชื่อมาก คุนหลุนไม่ได้สังกัดในอาณาเขตของราชวงศ์ต้าเว่ย ค่ายทหารหนานตูทำเช่นนี้ มีอะไรต่างไปจากเป็นการทรยศประเทศหรือ?
“ท่านว่ากล่าวเกินไปแล้ว” เกาปิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ต้าเว่ยเลื่อมใสในพลังของภูเขาคุนหลุนมาโดยตลอด และทุกคนก็เคารพภูเขาคุนหลุน แม้แต่อาวุธส่วนใหญ่ที่ฝ่าบาทปัจจุบันทรงสร้าง ก็มาจากภูเขาคุนหลุน การเชิญคนของคุนหลุนมาประจำการได้ถือเป็นเกียรติยศอย่างสูงยิ่ง จะกล่าวหาเป็นทรยศได้อย่างไร? คุณชายฉิน ข้อกล่าวหาของท่านนี้ แม่ทัพอย่างข้ารับไม่ไหวจริงๆ !”
“เจ้าบังอาจมาก เจ้า......”
ฉินเฟิงโมโหจนกระทึบเท้า แต่ฉินเซิ่งหักห้ามลูกชายเอาไว้ ฝ่าบาทตรัสไว้แล้ว ว่าการมาที่เมืองไป๋ลู่เพื่อเข้ายึดค่ายทหารในครั้งนี้ จะไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน
พระองค์ตรัสว่า หากเมืองไป๋ลู่ไม่เต็มใจมอบอำนาจทางทหาร ก็ให้รอไปก่อน
รอจนกว่าพวกเขามาขอร้องเอง
ครั้งนี้ ฝ่าบาททรงมุ่งมั่นที่จะพิชิตเมืองไป๋ลู่ให้ได้
เว่ยเจียนกั๋วให้เหลียงไหวโหรวเข้าไปในจวนฉินในฐานะลุงเขย เป็นการกระทำที่มีแผน เพราะเว่ยเจียนกั๋วปรารถนาอำนาจทางทหารของตระกูลฉินมานานแล้ว
เพื่อตอบโต้เว่ยเชียนชิว องค์จักรพรรดิจะต้องยึดเมืองไป๋ลู่ซึ่งเว่ยเชียนชิวให้ความสำคัญมาโดยตลอดมาให้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิยังต้องการยึดอำนาจทางทหารของเมืองไป๋ลู่ เป็นก้าวแรกสู่การลดสถานะข้าราชบริพาร บั่นทอนให้หนักซึ่งศักดิ์ศรีของฝ่ายเว่ยเจียนกั๋ว
คราวนี้ หากไม่ได้เมืองไป๋ลู่ แม่ทัพไม่สามารถกลับเมืองหลวงได้ ซึ่งเท่ากับองค์จักรพรรดิได้ลงคำสั่งตาย
พอเกาปิงได้ยิน เขาก็ดูสดใสขึ้นมาทันที "เร็ว ๆ ๆ รีบไปทำความสะอาดอีกห้องหนึ่ง"
บุคคลที่ใต้เท้าชิงหลงคิดว่าสำคัญอย่างยิ่ง จะต้องเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สำคัญที่สุดอย่างแน่นอน!
“เตรียมดอกไม้สด!”
“เตรียมขนมวางบนโต๊ะ!”
“ยังต้องส่งสาวใช้ที่ดีที่สุดไปที่นั่นด้วย!”
“อุ่นอาหารเตรียมไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าใต้เท้าชิงหลงจะชอบทานเย็นๆ หรือไม่ก็ตาม สำหรับบุคคลสำคัญนั้นก็ต้องทำเหมือนกัน!”
ความกระตือรือร้นของเกาปิงแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากการปฏิบัติต่อตระกูลฉิน ฉินเซิ่งไม่ติดใจเรื่องนี้ แต่ฉินเฟิงเคืองมากที่พวกเขาไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเช่นนี้!
ชิงหลงตดสุนัขอะไรมาจากไหนไม่มีใครรู้จัก ทำให้ผู้นำทหารเมืองไป๋ลู่ยืดคอรอคอยได้ขนาดนี้
"ปัญญาอ่อน! งี่เง่า!"
ฉินเฟิงดุด่าสั่งสอนเขา กลอกตาแล้วหันหลังเดินจากไป
“เจ้ากำลังว่าอะไรนะ?” เกาปิงก็ไม่ยอมอ่อนข้อ ให้ตายเถอะ จักรพรรดิสังหารเจ้าอ๋องครองเมืองไป๋ลู่มาสองสมัย คนของจักรพรรดิยังจะมาอวดดีอวดเก่งในค่ายทหารอีกเหรอ?
คนในค่ายทหารอารมณ์เริ่มพองโต เกาปิงส่งสัญญาณทางตา ไปสั่งสอนไอ้เด็กเปรตนี่หน่อยซิ!
ผู้นำทหารคนหนึ่งรับคำสั่งแล้วออกไป ฉินเซิ่งมองเห็น แต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร
ดีเหมือนกัน ให้คนพวกนี้ได้เห็นความแข็งแกร่งของตระกูลฉินซะบ้าง
ที่เกาะจูเสิง ลมฝนกำลังกระหน่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...