ผู้อารักขาเหล่านี้ต่างตกตะลึง จนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
พวกเขารู้จักเซียวเฉวียน และคุ้นเคยกับหน้าตาของเซียวเฉวียน
ในสมัยโบราณ หลังจากเลือกอันดับหนึ่ง อันดับสอง และอันดับสามในการสอบขุนนางระดับเคอจี่แล้ว รูปเหมือนของทั้งสามคนนี้จะถูกแขวนไว้ทั่วต้าเว่ย
ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉวียนยังเป็นจอหงวนคนแรกที่สอบวิชาเลขได้เต็มในต้าเว่ย ปัญญาชนต่างให้ความสนใจกับที่มาที่ไปและการเคลื่อนไหวของเซียวเฉวียนอย่างมาก และมีปัญญาชนผู้ที่เลื่อมใสในตัวเซียวเฉวียน ก็จะนำรูปเหมือนเซียวเฉวียนแขวนไว้บนหัวนอน หน้าโต๊ะหนังสือ แล้วยังทำการกราบไหว้ทุกวันอีกด้วย
นายท่านต่างเอาใจใส่เซียวเฉวียนขนาดนี้ ผู้อารักขาเหล่านี้จึงจำรูปลักษณ์ของเซียวเฉวียนได้อย่างขึ้นใจ
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ตอนที่เห็นเซียวเฉวียนตัวจริงเสียงจริง เหล่าผู้อารักขาจึงประหลาดใจอยู่บ้าง
เซียวเฉวียนสูงใหญ่และแข็งแกร่งมากกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้ ต่างจากนายท่านของพวกเขาที่กิริยาสุภาพเรียบร้อยแต่ร่างกายบอบบาง แขนและไหล่แทบยกไม่ขึ้น
เซียวเฉวียนแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ มองจากไกล ๆ พวกเขาก็รู้สึกถึงสายตาที่หนักแน่นทรงพลังของเซียวเฉวียน เขากวาดสายตามองดูผู้อารักขาทีละคน ราวกับนายพลที่กำลังตรวจตราทหารของตัวเอง
การแสดงออกและกิริยาของเขาไม่เหมือนขุนนาง แต่กลับมีพลังและเด็ดเดี่ยวมากกว่านายพลเสียอีก
และเป็นเพราะเซียวเฉวียนมีชื่อเสียงอย่างมากในกลุ่มของปัญญาชนและผู้อารักขา ดังนั้นผู้อารักขาทั่วใต้หล้าต่างรู้ดีว่า เนื่องจากเซียวเฉวียนได้ทำผิดมหันต์จึงถูกเนรเทศออกมา
ในวันนี้ เซียวเฉวียนได้ปรากฏตัวอีกครั้งในรัฐไป๋ลู่ และยังใช้ตราประทับเหวินอิ้นเรียกพวกเขามาในฐานะเจ้านาย การที่เหล่าผู้อารักขาเหล่านี้ประหลาดใจก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
แต่ตราประทับเหวินอิ้นอยู่ที่นี่ คำสั่งของฮ่องเต้อยู่ตรงหน้าและความประหลาดใจที่เหล่าผู้อารักขามี แม้ว่ามีความสงสัยเกิดขึ้นมากมายในใจผู้อารักขา แต่มากไปกว่านั้นคือความตื่นเต้นดีใจและพร้อมที่จะออกไปสู้
เลือดของพวกเขาไหลเวียนอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ และแรงอาฆาตที่มีแต่กำเนิดหมุนวนเวียนและยังคงอยู่ในร่างกายของพวกเขา
แม้แต่ดาบในมือของพวกเขา ต่างก็กระหายเลือดอย่างไม่อาจต้านทานได้!
เหล่าผู้อารักขาเคยได้ยินมาก่อนว่า เซียวเฉวียนมีผู้อารักขาสองคนชื่อไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า พวกเขามีชื่อว่าเป็นผู้อารักขาอันดับหนึ่งในเมืองหลวง
เซียวเฉวียนมีดีด้านการรบ ชำนาญการรบ และไม่กลัวการรบ สำหรับผู้อารักขาแล้ว เจ้านายอย่างเซียวเฉวียนถือเป็นเจ้านายชั้นเยี่ยม
นับตั้งแต่ฟื้นฟูระบบผู้อารักขา ปัญญาชนทุกคนจะมีผู้อารักขาหนึ่งคน แต่ปัญญาชนจำนวนไม่น้อยที่นิสัยขี้ขลาด รักตัวกลัวตาย
แม้ว่าเหล่าผู้อารักขาไม่กลัวตาย พวกเขามีความกระเหี้ยนกระหือรือในการสู้รบก็เท่านั้น เพราะเจ้านายของพวกเขาก็แค่คนขี้ขลาด นับตั้งแต่ทาสคุนหลุนของรัฐไป๋ลู่ได้เป็นผู้อารักขา แม้แต่ดาบก็ยังไม่เคยชักออกจากฝัก นับประสาอะไรกับการถูกตีจนตาย
ปัญญาชนในรัฐไป๋ลู่ขมขื่นเสียยิ่งกว่าปัญญาชนในเมืองหลวง พวกเขาทำได้เพียงทะเลาะวิวาท ไม่มีทางลงไม้ลงมือเด็ดขาด
แม้จะลงไม้ลงมือกันได้ พวกเขาก็ยังเลือกที่จะวิวาทกันเสียมากกว่า
ตอนนี้ผู้อารักขาที่มาจากรัฐไป๋ลู่ก็มีจำนวนมากพอแล้ว มีพลังงานตราประทับเหวินอิ้นเรียกไว้อยู่ ผู้อารักขาจึงมาถึงหนานโตวเร็วกว่าเดิมถึงสิบเท่า
เซียวเฉวียนเข้าใจในแววตาของผู้อารักขา แววตาของพวกเขาไม่ต่างจากไป๋ฉี่ ดุดันและแน่วแน่
สมกับเป็นคนที่มาจากคุนหลุน พวกเขาต่างมีจิตวิญญาณที่มีพลัง ร่างกายสูงใหญ่และเต็มไปด้วยแรงอาฆาต แก่นแท้ พลังและจิตเข็มแข็งกว่าผู้พเนจรในยุทธภพอยู่มาก เผยให้เห็นความสามารถที่เกิดจากเชื้อชาติในตัวพวกเขา
เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉวียนเรียกผู้อารักขามามากเช่นนี้ แรงอาฆาตที่เอ่อล้นมาอย่างล้นหลาม ทำให้เขาตกใจจนเสียสติไปชั่วครู่
“เหล่าเซียว มาสิ”
เว่ยอวี๋นำตราประทับเหวินอิ้นยัดใส่มือเซียวเฉวียน แสดงให้เห็นว่าเซียวเฉวียนคือผู้นำที่ใหญ่ที่สุดในศึกครานี้
เซียวเฉวียนถือตราประทับเหวินอิ้นที่ขนาดเท่าฝ่ามือ เขาชูมันขึ้นพลางกล่าวว่า “เหตุผลที่เรียกพวกเจ้ามาในวันนี้! ก็เพื่อปราบกบฏ! ผู้พเนจรในยุทธภพสามหมื่นคน! จักต้องชดใช้ชีวิตให้แก่ประชาชนชาวรัฐไป๋ลู่! สังหารโจรสามหมื่นคน เพื่อกอบกู้ราชวงศ์! เพื่อเอาชนะใจคน! เพื่อแก้วิถีแห่งสวรรค์! พวกเจ้ายินยอมให้ข้าเป็นผู้นำ! เสียสละชีวิต! ทุ่มเทสติปัญญาเเลความสามารถ ตราบจนชีวิตหาไม่! เพื่อสังหารสุนัขชั่วทั้งสามหมื่นคนหรือไม่?”
พลังของเซียวเฉวียนเต็มเปี่ยม เสียงดังกังวาลและทรงพลัง ทำให้ผู้อารักขาตื่นเต้นจนเลือดสูบฉีดอย่างเดือดดาล เสียงตอบรับสั่นสะท้านทั่วฟ้า “พวกข้ายินยอม!”
ณ จวนเจ้าผู้ครองรัฐของหนานโตว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...