ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 509

สรุปบท บทที่ 509 กลายเป็นเทพสงคราม: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปตอน บทที่ 509 กลายเป็นเทพสงคราม – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

ตอน บทที่ 509 กลายเป็นเทพสงคราม ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

จวนเซียว

ตอนที่เซียวเฉวียนปรากฏตัวที่หน้าประตูของตระกูล องค์หญิงต้าถงที่รอค่อยเขามาตลอดก็พุ่งตัวเข้าไปกอดทันที อยู่ในอ้อมกอดของเขาร้องไห้เสียใจอย่างมาก:“กลับมาแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว”

หลายวันที่ผ่านมาเซียวเฉวียนรักษาอาการป่วยอยู่ในพระราชวัง ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ภายในพระราชวังไม่มีข่าวใดๆเล็ดลอดออกมา คนตระกูลเซียวรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก

“ไม่ต้องร้องไห้แล้ว เป็นเรื่องเล็กน้อย”

ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเซียวเฉวียนจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เจ็บจนแทบอยากจะตาย แต่เซียวเฉวียนก็รู้สภาพร่างกายของตัวเองดี

เขาเจ็บหนักอย่างนี้ แค่สามวันก็หายดีแล้ว หลังจากนี้เขาก็ไม่ต้องกลัวการต่อสู้อีกแล้ว!

หลังจากนี้เขาสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการได้ ไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว แค่สามวันก็หายดีแล้ว เขาก็ไม่กลัวที่จะได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว

เซียวเฉวียนตบลงที่หน้าอกที่แข็งแกร่งของตัวเอง โอบองค์หญิงและพูดเสียงดังว่า:“ข้าหลายดีแล้ว ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ฉินซูโหรว คนที่ทำร้ายเจ้า ตอนนี้ต้องเข้าไปอยู่ในคุกหลวง ตัวข้าได้ช่วยแก้แค้นแทนเจ้าแล้ว!”

ครั้งนี้ เซียวเฉวียนไม่ได้พูดต่อหน้าแม่ฉินและฉินซูโหรว แต่ยกเอาคำพูดของไป๋ฉี่และความยุติธรรมของฉินเซิง ทำให้ฉินเฟิงและฉินซูโหรวหมดหนทางไปเอง ตอนนี้ฉินซูโหรวคงกำลังร้องไห้อยู่ในคุกหลวงแล้ว

“ข้าจะไปดูไป๋ฉี่ก่อน”

“อื้ม ” องค์หญิงพยักหน้า พาเซียวเฉวียนไปยังห้องขังไป๋ฉี่ที่อยู่ด้านนอก เธอบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ไป๋ฉี่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เซียวเฉวียนรู้สึกเสียใจอย่างมาก ไป๋ฉี่ปกป้องเขาด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง

เหมิงเอ้าค่อยเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูตลอดเวลา เมื่อเห็นนายท่านมา ทั้งยิ้มทั้งร้องไห้และพูดว่า :“นายท่าน ฮรือ ฮรือ ฮรือ”

ไอ้หยา เหมิงเอ้าเจ้าจะกลายเป็นเทพสงครามในอนาคต ยังทำตัวเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยไปได้

ในใจของเซียวเฉวียนรู้สึกซาบซึ้งใจ แต่ก็ไม่สามารถหัวเราะร้องไห้ได้ เขากำลังจะเดินเข้าไป ทันใดนั้นก็พบว่ามีคนๆหนึ่งตามมาด้วย

ก็คือท่านผู้เฒ่ายา

ท่านผู้เฒ่ายาเป็นคนพาเซียวเฉวียนกลับไปส่งที่จวนเซียว ตั้งแต่นั้นก็ค่อยตามติดเขามาตลอด เซียวเฉวียนสงสัยมองดูเขา:“ท่านผู้เฒ่ายายังมีอะไรจะแนะนำข้าอีกไหม?”

ผู้เฒ่ายาขมวดคิ้ว เหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูด

เขาไม่มีที่ไปแล้ว

เขาช่วยชีวิตเซียวเฉวียนไว้ ก็ท่ากับว่าได้เป็นศัตรูขัดแย้งกับแม่ฉิน จวนฉินก็ไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว

และอีกอย่าง องค์รัชทายาทชิงหลงได้สั่งเขาไว้ว่า จะต้องดูแลเซียวเฉวียนให้ดี ตอนนี้เซียวเฉวียนเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของผู้เฒ่ายา

แต่ผู้เฒ่ายาตอนอยู่ที่คุนหลุนมีตำแหน่งหน้าที่ที่สำคัญ ทักษะด้านการแพทย์ยอดเยี่ยม เซียวเฉวียนเป็นคนหนุ่ม เขาละอายใจที่ต้องแบกหน้ามาพูดกับเซียวเฉวียน:ที่ต้าเว่ยข้าไม่มีที่จะไป เจ้าให้ข้าอยู่ที่จวนเซียวนี้เถอะ

เซียวเฉวียนเป็นคนที่ฉลาดมาก แน่นอนเขาเข้าใจสถานภาพของผู้เฒ่ายา

ยิ่งไปกว่านั้นในเวลาแห่งความเป็นความตาย ผู้เฒ่ายาเป็นคนปกป้องเซียวเฉวียนไว้

ถึงแม้ว่าในตอนแรกผู้เฒ่ายาจะรังเกียจเขา ปากแข็งแต่ใจอ่อน ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะผู้เฒ่ายา ร่างกายของเซียวเฉวียนที่กระดูกหักทั้งตัวก็คงจะตายไปแล้ว

อยู่ที่พระราชวังสามคืนสามวัน ผู้เฒ่ายาไม่ได้หลับไม่ได้นอน จัดยา ต้มยา ป้อนยาด้วยตัวเอง ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้เซียวเฉวียนได้อย่างมาก

ภาพเงาของผู้เฒ่ายา ที่อยู่ในสายตาของเซียวเฉวียนเดินกลับไปกลับมา ความวิตกกังวลวุ่นวายนั้น เซียวเฉวียนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

ดังนั้น จะบอกว่าเขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตและมีบุญคุณต่อเซียวเฉวียนก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่ายาเป็นคนของชิงหลง สามารถเชื่อถือได้

“ผู้เฒ่ายา ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าจะสร้างเรือนให้ท่านอยู่ที่จวนเซียว จะทำตามความต้องการของท่านทั้งหมด ทุกเดือนจะมีค่าจ้างห้าสิบตำลึงให้ ถือว่าเป็นการเชิญท่านมาเป็นหมอของจวนเซียว ดีไหม?”

เซียวเฉวียวพูดตรงไปตรงมาและจริงใจ ผู้เฒ่ายารู้สึกตกใจเล็กน้อย:“ก่อนหน้านี้นายท่านของข้าก็คือองค์หญิงใหญ่ ท่านไม่ระแวงข้าเหรอ?”

คำเชิญของเซียวเฉวียน มีความเป็นมิตรและให้เกียรติอย่างมาก เขาไม่ได้ใช้ท่าทางสงสารที่จะรับผู้เฒ่ายาไว้ และบอกกับผู้เฒ่ายาว่า ท่านมีบุญคุณต่อข้า ข้าก็ต้องการท่าน ท่านยินดีที่จะเข้ามาอยู่ในจวนเซียวของข้าไหม ?

ผู้เฒ่ายาได้ยินดังนั้นก็สบายใจอย่างมาก แต่เขาก็ยังมีความสงสัยในใจอยู่ เขาและแม่ฉินรู้จักกันมานานหลายปี

ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ก็คงจะต้องความระแวดระวังผู้เฒ่ายา ยิ่งไปกว่านั้นเซียวเฉวียนเป็นคนที่ฉลาด

เซียวเฉวียนยิ้ม สายตาสงบนิ่งแน่วแน่ :“ถ้าจะใช้คนนั้นๆก็ไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าสงสัยก็จะไม่ใช้คนๆนั้น มีอะไรจะต้องระแวงละ?ในเมื่อข้าเชิญท่านมา ข้าก็เชื่อมั่นในตัวท่าน”

ถ้าจะใช้คนนั้นๆก็ไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าสงสัยก็จะไม่ใช้คนๆนั้น ความหมายก็คือความสำคัญของคนอยู่ที่ความเชื่อมั่น

ผู้เฒ่ายาตกใจเล็กน้อย ทำสิ่งที่ชอบ......

เซียวเฉวียนรู้ว่านิสัยของผู้เฒ่ายาอาจจะแปลกๆ จะรักษาให้ใครก็เลือกมาก ไม่ชอบใจก็ไม่รักษา ผู้เฒ่ายาคิดว่า เซียวเฉวียนต้องการบอกให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เซียวเฉวียนกลับไม่พูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ปล่อยโอกาสไปโดยไม่สนใจอะไร

คนนี้ๆอนาคตไปได้อีกไกลแน่นอน

ผู้เฒ่ายาลูบเครา สายตาขององค์ราชทายาทช่างแม่นย้ำมาก เซียวเฉวียนคนนี้มีไหวพริบสติปัญญาเฉียบแหลม แตกต่างจากคนในวัยเดียวกันมาก

ภายในห้อง

ไป๋ฉี่ยังคงนอนสลบอยู่ ข้อมือข้อเท้าถูกล่ามด้วยโซ่ ตรงข้อต่อเต็มไปด้วยเลือด

เซียวเฉวียนเสียใจมองเห็นเข็มเงินที่สะกดวิญญาณของเขา เข็มเงินลึกมาก จะต้องใช้พละกำลังความพยายามอย่างมากที่จะดันมันเข้าไป

แต่เซียวเฉวียนเพียงแค่ดึงๆเบาๆ ก็ดึงมันออกมาได้อย่างง่ายดายแล้ว

ในตอนนั้นไป๋ฉี่ค่อยฟื้นขึ้น

เขาเงยหน้าขึ้นอย่างแรง ใคร!ใครทำให้เขาสลบ!

เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็มองเห็นเซียวเฉวียน

ในสายตานั้นที่เต็มไปด้วยการฆ่าล้าง ก็หายไปในทันที สายตาของไป๋ฉี่กลับมาเป็นปกติ ความโกรธแค้นในดวงตาได้หายไปหมด:“นาย......ท่าน?”

เซียวเฉวียนยิ้ม :“ไป๋ฉี่ ข้ากลับมาแล้ว”

เซียวเฉวียนมองดูเขา ในใจเดือดพล่านอย่างมาก

ไป๋ฉี่ เป็นผู้อารักขาคนแรกที่เขารับไว้

ตอนนี้ ได้กลายเป็นเทพสงครามแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย