สรุปเนื้อหา บทที่ 513 สิ่งของสองอย่าง – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 513 สิ่งของสองอย่าง ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ใบผ่านแดนสู่ภูมิภาคตะวันตกนั้น เกินความสามารถของแม่ฉินมาก
ในต้าเว่ย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ครอบครองใบผ่านแดนสู่ภูมิภาคตะวันตกถาวร นั่นก็คืออี้กุยของหอคุนหวู
หอคุนหวูสร้างดาบ ต้องผ่านภูมิภาคตะวันตก จากนั้นไปที่เขาคุนหลุนเพื่อขนเอาแร่กลับมา
นอกจากนี้ ใบผ่านแดนของหอคุนหวูนี้อี้กุยไม่ใช่ได้มาเอง แต่เป็นจักรพรรดิผู้สร้างราชวงศ์ต้าเว่ยมอบให้แก่ปู่ของเขาอี้อู๋หลี่ ต่อมาได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนตกมาอยู่ในมือของอี้กุย
นอกจากตระกูลอี้ที่มีใบผ่านแดนเพียงใบเดียวนี้แล้ว ไม่มีผู้มีอำนาจอื่นใดครอบครองอีกเลย ด้วยเหตุนี้ ดาบของหอคุนหวูจึงเป็นที่ผูกขาดในราชวงศ์ต้าเว่ย
ราชวงศ์ต้าเว่ยก็เคยส่งทูตไปยังภูมิภาคตะวันตก โดยปกติแล้วฝ่าบาทจะทรงออกใบผ่านแดนนี้เอง และไม่ใช่ใบผ่านชนิดถาวร แต่เป็นใบผ่านชนิดใช้ชั่วคราว เมื่อถูกนำไปใช้ครั้งหนึ่งแล้วก็จะถูกทำลาย
ถึงจะเป็นแค่ใบผ่านแดนชั่วคราวดังกล่าว ครั้งล่าสุดที่ออกคือเมื่อสิบปีก่อน ตอนราชวงศ์ต้าเว่ยส่งผู้คนไปยังตะวันตกเพื่อแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
แม่ฉินคิดว่า เซียวเฉวียนผู้มาจากครอบครัวยากจนนี้ จะขอเงิน ตำแหน่งทางการ หรือสิทธิพิเศษบางอย่าง นางไม่คิดไม่ฝันว่าเซียวเฉวียนจะมาขอใบผ่านแดน
เขาจะไปภูมิภาคตะวันตกทำอะไร?
เซียวเฉวียนมีแผนการใหญ่ เขาไม่ได้แค่คิดจะทำอาหารเลิศรสและค้าขายกันในต้าเว่ยเท่านั้นแล้ว
เวลาที่เซียวเฉวียนสนทนากับองค์หญิงต้าถง เขารับรู้จากปากของเธอว่า เมื่อสิบปีก่อนในภูมิภาคตะวันตกก็มีปืนและกระสุนแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ช่วงนี้ราชวงศ์ต้าเว่ยอยู่ในยุคของอาวุธเย็นที่กำลังจะสิ้นสุดลง เนื่องจากราชวงศ์ต้าเว่ยมีดินปืนแล้ว ซึ่งเว่ยเชียนชิวชอบใช้ระเบิดสิ่งนี้ระเบิดสิ่งนั้นมากที่สุด
แต่เนื่องจากเทคโนโลยีที่ล้าหลัง การใช้ดินปืนของต้าเว่ยมีอย่างจำกัด และรัศมีทำการก็เล็กมาก ต้าเว่ยยังไม่มีแม่แต่ปืนกระบอกหนึ่ง
อาวุธเย็นในความหมายแคบหมายถึงอาวุธและอุปกรณ์ที่ไม่มีดินปืน วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟอื่นๆ และสามารถทำร้ายฆ่าฟันศัตรูได้โดยตรงและป้องกันตนเองในการต่อสู้
อาวุธเย็นในความหมายกว้างหมายถึงอุปกรณ์การต่อสู้โดยรวมในยุคอาวุธเย็น
การพัฒนาอาวุธเย็นได้ผ่านสามขั้นตอนคือ ยุคหิน ยุคสำริด และยุคเหล็ก
อาวุธเย็นแบ่งออกเป็นหิน กระดูก หอยกาบ ไม้ไผ่ ไม้ หนัง ทองสำริด เหล็ก และอาวุธอื่น ๆ ตามชนิดวัสดุ
ราชวงศ์ต้าเว่ยในปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายยุคเหล็ก เนื่องจากร้อยละ 99 ของทหารในต้าเว่ยใช้มีดดาบและอาวุธอื่นๆ วัตถุระเบิดเป็นของหายากและล้ำค่า และปืนยิ่งไม่มีให้เห็นเลย
แต่ภูมิภาคภาคตะวันตกที่อยู่ข้างเคียงได้เข้าสู่ยุคของอาวุธร้อน แม้ว่าปืนในภูมิภาคตะวันตกจะเพิ่งเริ่มพัฒนา ยังไม่มีกำลังแรงพอและใช้งานไม่ง่ายนัก แต่ก็ถือว่าได้เริ่มต้นข้ามผ่านก้าวแรกที่สำคัญที่สุดแล้ว
บรรดาที่อาศัยดินปืนหรือปฏิกิริยาเคมีที่คล้ายคลึงกันในการให้พลังงานเพื่อทำร้าย เช่นดินปืนดันกระสุน หรือที่ใช้พลังงานซึ่งบรรทุกโดยไฟ เคมี เลเซอร์ ฯลฯ โดยตรง เพื่อทำร้ายผู้คน เช่น เปลวไฟ ล้วนแต่เป็น อาวุธร้อน
ภายใต้ยุคของอาวุธร้อน กองทัพที่ติดตั้งอาวุธปืนไฟทันสมัย เมื่อทำการสู้รบกับอารยธรรมของอาวุธเย็น โดยหลักพื้นฐานแล้วมีความได้เปรียบอย่างเด็ดขาด
ในช่วงสงครามของจีน เคยมีกำลังทหารม้ามองโกเลียกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าโจมตีกองทหารพันธมิตรอังกฤษและฝรั่งเศส พวกเขาต้องเผชิญกับกระสุนปืนของกองทัพอังกฤษและฝรั่งเศส กลายเป็นการสังหารหมู่อันนองเลือดแท้ๆ
ทหารม้ามองโกเลียมีความกล้าหาญและเก่งในการสู้รบ แต่ไม่สามารถต่อกรกับศัตรูที่พร้อมด้วยยุทโธปกรณ์อันทันสมัยได้อีกต่อไป สุดท้ายเกือบแหลกสลายทั้งกองทัพ จากทหารม้ากว่าสามหมื่นนาย เหลือเพียงไม่กี่นายเท่านั้น
เซียวเฉวียนมีผู้รู้หนังสือและผู้อารักขา ในขณะที่เว่ยเชียนชิวมีนักรบแท้ที่คอยพิชิตผู้อารักขา เมื่อทั้งสองรบกัน ยากที่จะบอกได้ว่าใครเหนือกว่ากัน
ในการต่อสู้หลังจากนี้เป็นต้นไป เซียวเฉวียนจะต้องมีกำลังที่สูงขึ้นดีขึ้นมาสมทบ จึงจะมีโอกาสเอาชนะนักรบแท้ของเว่ยเชียนชิวได้
ปีนั้นกองทัพตระกูลเซียวถูกกวาดล้างหมดสิ้น นักรบแท้มีผลงานที่มิอาจลบล้างได้ จะเห็นได้ว่าพวกนั้นมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งมาก เป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง
ตอนนี้ เซียวเฉวียนได้เตรียมพร้อมดาบจิงหุน อาวุธเย็นที่ดีที่สุดให้กับผู้อารักขา ต่อไปเซียวเฉวียนจะติดอาวุธร้อนที่เป็นปืนให้กับพวกเขาด้วย
เอาปืนประกอบกับดาบจิงหุน จะทำให้ผู้อารักขามีเชิงได้เปรียบอย่างแน่นอนในการต่อสู้ ไม่ใช่แค่ได้เปรียบเล็กน้อย แต่ได้เปรียบอย่างท่วมท้น
ปืน คือสิ่งแรกที่เซียวเฉวียนต้องการ
ดังนั้นการเดินทางไปยังภูมิภาคตะวันตก จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพียงแต่เซียวเฉวียนไม่ได้คิดว่า แค่เดินทางออกจากจังหวัดจะยุ่งยากซับซ้อนปานนี้ ต้องมีใบผ่านแดน
หากชิงหลงอยู่ที่นี่ เซียวเฉวียนจะไปยังภาคตะวันตกคงใช้เวลาชั่วกะพริบตาเท่านั้น ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนวางแผนที่จะรีบไปรีบกลับ เพื่อไม่ให้มีใครรู้
เดิมทีชิงหลงอยู่ที่นี่ เซียวเฉวียนได้กำหนดการเดินทางไปภูมิภาคตะวันตกไว้แล้ว แต่ช่วงนั้น เซียวเฉวียนเพิ่งกลับมาจากเกาะจูเสินใหม่ๆ ต้องจัดเตรียมร้านอาหาร บ่อนพนัน และกิจการอื่นๆ และรอจนกว่าเขาจะจัดการคืนความยุติธรรมให้กับข้าราชฯ ที่ถูกใส่ความแปดคนนั้นเสร็จ ชิงหลงก็หายตัวไปไหนแล้วไม่รู้
รู้สึกเสียดายเหมือนทำพลาดอะไรไปสูญหายเป็นร้อยล้าน
เซียวเฉวียนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินทางตามปกติ
จังหวะ เพื่อช่วยชีวิตลูกคู่หนึ่ง แม่ฉินเสนอหน้ามาถึงบ้าน
เมื่อเห็นนางท่าทางที่ลังเล เซียวเฉวียนหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วยิ้มเบาๆ "ทำไม ยังมีอะไรที่เจ้าทำไม่ได้อีกเหรอ?"
“เมื่อก่อนเจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเจ้าเป็นธิดาบุญธรรมของจักรพรรดิองค์ก่อน เป็นเจ้าหญิงต้าเว่ย สถานะสูงเหนือหัว เรียกลมได้ลมเรียกฝนได้ฝนไม่ใช่หรือ”
“แล้วนี่อะไร ตอนนี้แค่ใบผ่านแดนไปตะวันตกใบเดียว มันสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของลูกเจ้าได้ แต่เจ้าบอกว่าทำไม่ได้?”
เซียวเฉวียนไม่ได้ปิดบังความรู้สึกที่ดูหมิ่นนาง เขารู้ว่าใบผ่านนั้นได้มายาก แต่แสร้งพูดให้ดูง่ายไว้ "แม้แต่อี้กุยยังถือสิ่งนี้ได้ แต่เจ้าไม่สามารถครอบครองมันได้ เจ้าหญิงอย่างเจ้าคงไม่มีเกียรติอะไรมากนัก เจ้ายังสู้ตระกูลอี้ไม่ได้ ”
วิธียั่วยุนี้ใช้ได้การอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หวงใบหน้าอย่างนางแม่ฉิน
ในสายตาของแม่ฉิน อี้กุยมีอาชีพเป็นพ่อค้าที่ต่ำต้อย ร่ำรวยแต่ไร้เกียรติยศมาโดยตลอด ตอนนี้นางได้ยินเซียวเฉวียนมากล่าวหาว่านางสู้อี้กุยไม่ได้ สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที
แม่ฉินขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา คงยังคิดว่านางมีข้อได้เปรียบ "เจ้าไม่กลัวตายเหรอ? มาทำให้ข้าขายหน้าแบบนี้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...