ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 539

ที่จวนจงเหริน

ฉินซูโหรวนั่งอยู่บนพื้น หมดเรี่ยวหมดแรง

สภาพที่นี่ไม่ค่อยดีนัก หนาวเย็นและมืดมน

เธออาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ ข้างนอกห้องมีลานเล็กๆ

เดิมทีสำหรับคนอื่นจะไม่มีลาน แต่ได้ยินมาว่าไทเฮาทรงจัดเตรียมให้ เป็นกรณีพิเศษ เลือกห้องที่กว้างกว่าหน่อยให้เธออยู่

ไม่ว่าสถานที่นี้จะกว้างขวางแค่ไหนก็ไม่ใหญ่เท่าห้องครัวในจวนฉิน ฉินซูโหรวอยู่อย่างอึดอัดไร้ความสุข

แต่ยังมีหลังคาคุ้มหัว มีที่พักอาศัยก็ดีแล้ว

ตอนเข้ามาแรกๆ ฉินซูโหรวก็อารมณ์เสียทุกวัน ไม่ทุบประตูหน้าต่างก็ขว้างปาข้าวของ แต่ไม่มีใครมาแยแสเธอ

ด้วยความโมโหร้าย เธอขว้างกระทั่งถ้วยชาที่มีเพียงใบเดียวไป

เธอไม่ได้คิดว่า เธอขว้างถ้วยนี้แตกไป จะไม่มีใครเอาถ้วยชามาให้เธออีกแล้ว

จากนี้ไปเธอต้องดื่มน้ำจากชามสกปรกใบใหญ่ หรือรองน้ำถือไว้ในมือ

“ข้าเป็นเจ้าหญิงนะ! ถ้วยชาใบเดียวก็ไม่มาเปลี่ยวให้เหรอ?” ฉินซูโหรวดุด่าอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจเธอ

เธออยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว นอกจากขันทีที่มาส่งอาหาร ไม่เคยเห็นใครอื่นเลย

ที่นี่เงียบเกินไป เงียบจนไม่เหลืออะไรนอกจากเสียงยุงที่ดังหึ่งๆ

“ก๊อก ๆ ๆ !”

เวลานี้ มีคนมาเคาะประตู

ปกติเมื่อขันทีมาส่งอาหาร เขาจะเคาะประตูนี้ เมื่อฉินซูโหรวเปิดประตู อาหารก็จะถูกวางไว้ที่หน้าประตู

ประตูนี้ไม่ได้ใส่กุญแจ ถึงอย่างไร ข้างนอกยังมีประตูใหญ่หลายชั้น เธอไม่สามารถออกไปได้อยู่แล้ว

วันนี้ ฉินซูโหรวเปิดประตู ไม่มีอาหาร มีเพียงจดหมายฉบับหนึ่งเท่านั้น

จดหมายบรรจุในซองสีขาว ซึ่งกรณีมีงานศพ ถึงจะใช้ซองสีขาว

ฉินซูโหรวใจสะดุ้ง เกิดอะไรขึ้นที่บ้านเหรอ?

เธอรีบเปิดซองจดหมาย มือของเธอสะท้าน ข้างในมีข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉินและกำหนดการเคลื่อนศพ ซึ่งเป็นเจ็ดวันต่อมา

เจ็ดวัน

คนโบราณเสียชีวิต จะรอเจ็ดวันถึงจะเคลื่อนศพ

งั้นแม่...ก็เสียชีวิตในวันนี้ละสิ

ฉินซูโหรวที่ตั้งครรภ์เข่าอ่อนทรุดลง หัวใจเธอแทบวาย มีกระแสของเหลวอุ่นๆ ใต้ร่างกายของเธอ เป็นเลือดพลุ่งพล่านออกมา

เธอเกิดอาการหน้ามืด ล้มลงที่ประตูข้างใน

“ไทเฮาเสด็จ!”

ทันทีที่แม่ฉินเสียชีวิตในวันนี้ ไทเฮาก็ใช้แม่ฉินเป็นข้ออ้าง จะมาเยี่ยมฉินซูโหรวหลานสาวคนนี้

พอเสด็จมาถึง ก็พบฉินซูโหรวนอนจมอยู่บนกองเลือด

ไทเฮาทรงสะดุ้งและตรัสว่า “เร็วเข้า เรียกหมอเร็ว!”

“ไทเฮา นี่เป็นจวนจงเหริน” ขันทีผู้หนึ่งรวบรวมความกล้าและขึ้นกราบทูล “ถึงจะป่วยจนถึงแก่ชีวิต ก็ไม่สามารถเชิญหมอหลวงได้ขอรับ”

“ก็ไม่ได้บอกว่าจะออกไปรักษาข้างนอกจวนจงเหริน ให้รักษาที่นี่แหละ ไม่ได้เหรอ? คนมานี่!” ไทเฮาสงบคำ แต่นางกำนัลวัยชราที่อยู่ข้างๆ ไทเฮาพูดขู่ว่า “รีบๆ ให้ใครสักคนมาดูอาการเจ้าหญิงโดยด่วน! เจ้าหญิงเป็นหลานสาวของฉินปาฟาง ถ้าเธอมาตายที่นี่ ฝ่าบาทจะทรงอธิบายเรื่องนี้ให้บรรดาข้าราชสำนักทราบอย่างไร? "

ขันทีตกตะลึง ไม่กล้าพูดอีกต่อไป ยังไงก็บอกห้ามแล้ว ไทเฮามีอำนาจใหญ่กว่า ห้ามไม่อยู่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว

ถึงฉินปาฟางจะตายแล้ว แต่ชื่อของเขาก็ยังคงมีประโยชน์ เนื่องจะได้สร้างคุณงามความดีทางทหารมากมาย ฉินซูโหรวก็เป็นลูกหลานของเขา ถึงเธอจะไม่มีสถานะเป็นราชวงศ์ ฉินซูโหรวก็ยังมีฐานะสูงส่ง

องค์ไทเฮาแอบอ้างฉินปาฟาง จึงเป็นการกระทำที่ฉลาด

จวนจงเหรินวุ่นวายไปยกใหญ่ ทุกคนดูตื่นเต้นคร่ำเครียด

ที่จวนเซียว บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและมีความสุข

องค์หญิงต้าถง เซียวจิง และกลุ่มเด็กรับใช้ของบ้านเซียวรวมตัวกันอยู่รอบๆ ตัวของหยางอวี้หวนเพื่อสนทนา

หยางอวี้หวนมีโฉมงดงามโดดเด่น องค์หญิงต้าถงก็ใจกว้างใจดี เห็นเซียวเฉวียนพาสาวงามกลับมา ไม่เพียงแต่เธอไม่อิจฉา แต่เธอยังเอาใจใส่หยางอวี้หวนเป็นอย่างมากอีกด้วย

ในเมืองหลวงมีหญิงงามอยู่มากมายนับไม่ถ้วน องค์หญิงต้าถงเคยรับรู้พบเห็นมาไม่น้อย แต่เธอไม่เคยเห็นใครสวยเท่าหยางอวี้หวน แม้แต่เม่ยซีก็ยังดูสวยน้อยกว่าเธอนิดหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม มันก็เพียงนิดหนึ่งเท่านั้น

มีคนเหมือนติดปีก บินเหาะเข้ามาอย่างไว "ข้าอ๋องมาแล้ว! ข้าอ๋องมาแล้ว!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย