ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 540

”เหลียงไหวโหรว ตรามู่อวิ๋นถูกทำแตกในมือของเจ้าก่อนแล้วหรือ?”

ในที่สุดสายตาขององค์จักรพรรดิก็มาลงที่เหลียงไหวโหรวจนได้

ที่แล้วมา องค์จักรพรรดิรอคอยการปรากฏตัวของเซียวเฉวียนมาโดยตลอด

พอเซียวเฉวียนมาถึง องค์จักรพรรดิก็ให้ความสนใจเฉพาะเซียวเฉวียน

เมื่อเซียวเฉวียนกล่าวถึงเหลียงไหวโหรว องค์จักรพรรดิถึงได้ให้นำเหลียงไหวโหรวกลับขึ้นมาจากคุกตายอีกที และให้ความสนใจเหลียงไหวโหรวอย่างเป็นทางการ

และพอกลับขึ้นมาปุ๊บ องค์จักรพรรดิก็ยิงคำถามทันที ดูเหมือนว่าตัวเอกของคดีในวันนี้ไม่ใช่เหลียงไหวโหรว แต่เป็นเซียวเฉวียน ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะพูดอะไร ก็ฟังตามที่เขาพูดเสมอ

เหลียงไหวโหรวรู้สึกอึดอัดแต่ยังคงรักษามารยาทที่ดูน่าหัวเราะ เขาดูหมิ่นตัวเองในฐานะลูกนอกสมรส แต่รู้สึกว่าเขาควรมีมารยาทและระเบียบที่ราชวงศ์ควรมี "ฝ่าบาท ตอนตรามู่อวิ๋นอยู่ในมือของข้าพระองค์ ไม่มีร่อยรอยความเสียหายทั้งสิ้น”

”เป็นเพราะเซียวเฉวียนไม่ให้ความเคารพต่อเหวินอิ้น จึงทำลายมันขอรับ”

”ท่านมีพยานไหม” องค์จักรพรรดิถามอย่างค่อยๆ

พยาน? เหลียงไหวโหรวรู้สึกใจชื้นขึ้นมา ตอนที่เขาฆ่าแม่ฉิน ผู้คนมากมายเป็นพยานปรักปรำเขา ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงต้องเห็นว่าตรามู่อวิ๋นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนตกไปอยู่ในมือของเซียวเฉวียน

ผู้ที่เคยกล่าวหาเขาเหลียงไหวโหรว ก็คือพยาน!

และ ฉินเซิ่ง อี้กุย เว่ยเป่า ก็เช่นกัน!

”ฝ่าบาท ทรงลองถามพวกเขาก็จะรู้” เหลียงไหวโหรวไม่รู้เอาความมั่นใจมาจากไหน ยกมือขึ้นกล่าวพร้อมคำนับ

”ฝ่าบาท ข้าพระองค์ไม่เห็น” เว่ยเป่ากระพริบตาอย่างน่ารัก “ตรามู่อวิ๋นคืออะไรอ่า?”

แค่นั้น เว่ยเป่าไร้เดียงสาจริงๆ ตอนนั้นเขากำลังเลียลูกกวาดอย่างตั้งใจและไม่เห็นอะไรเลย

ตอนที่เขาเลียลูกกวาดจนหมด การต่อสู้ก็จบไปนานแล้ว เซียวเฉวียนก็จากไปไหนแล้ว

"…..."

เหลียงไหวโหรวใจชักร้อน เด็กน้อยคนนี้ ที่ไม่ควรเห็นก็เห็น ที่ควรเห็นก็ไม่เห็น!

ทุกคนตามองไปที่อี้กุย อี้กุยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว ควรจะเห็นแน่ๆ!

“กราบทูลฝ่าบาท ผู้น้อยไม่ทราบว่าตรามู่อวิ๋นเป็นสิ่งใด ไม่สามารถแยกแยะสิ่งที่เห็น ผู้น้อยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ให้ผู้น้อยเป็นพยาน มันไม่ยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่ายขอรับ"

อี้กุยคำนับและตอบอย่างใจเย็น เขาไม่ได้โกหก ตรามู่อวิ๋นหายไปหลายปี ตราเหวินอิ้นแต่ละดวงก็มีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน ตอนนั้นเขาก็อยู่ในระยะห่างเกินไป มองเห็นไม่ชัดเจนจริงๆ

ปากของเหลียงไหวโหรวกระตุก หน้าก็กระตุก อี้กุยเป็นคุณชายร่ำรวยเป็นที่หนึ่งในเมืองหลวง เห็นมามากรู้มามาก ถ้าเขาบอกว่าเขาไม่รู้อะไรเลยและไม่สามารถเป็นพยานได้ คนอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ตอนที่ให้การเป็นพยานต่อเหลียงไหวโหรว ทุกคนกระตือรือร้นป็นอย่างมาก แม้แต่เด็กน้อยเว่ยเป่าก็ดูเอาจริงเอาจัง

ถึงคราวที่ต้องให้การเป็นพยานปรักปรำเซียวเฉวียน แต่ละคนก็ตาบอดบ้างใจบอดบ้าง

เหลียงไหวโหรวกระชับหมัด ทั้งขมวดคิ้วแน่น

“แม่ทัพฉิน ท่านเป็นคนตรงไปตรงมาและมีคุณธรรมที่สุด ตอนนั้นท่านก็อยู่ด้วยและรู้จักตรามู่อวิ๋น ท่านเห็นเป็นยังไง?”

องค์จักรพรรดิไม่รีบไม่ร้อน มองไปที่ฉินเซิ่ง

ฉินเซิ่งทำความเคารพและพูดด้วยเสียงแหบห้าว "กราบทูลฝ่าบาท ตอนที่พู่กันเฉียนคุนกับตรามู่อวิ๋นกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น ข้าพระองค์กำลังอพยพผู้รู้หนังสือบนถนนจูเชว่ ไม่เห็นตลอดเหตุการณ์ด้วยตาของตัวเอง เมื่อข้าพระองค์มาถึง เห็นเหลือเพียงเหลียงไหวโหรวอยู่คนเดียว”

ทุกคนไม่ตาบอดก็ใจบอด หรือไม่อยู่?

ฮ่า

เหลียงไหวโหรวเพลิงแค้นลุกโหม กำลังจะพูดอะไร แต่เซียวเฉวียนชิงพูดว่า "ฝ่าบาท ตรามู่อวิ๋นเป็นสิ่งที่สูงศักดิ์ ข้าพระองค์จะมีกำลังที่ไหนทำให้แตกได้ ข้าพระองค์ได้ยินมาว่า เหวินอิ้นรับใช้คนของราชวงศ์และจะถูกทำลายได้ด้วยมือของคนราชวงศ์เท่านั้น”

“หากข้าพระองค์มีความสามารถทำลายเหวินอิ้นได้ คนชอบเอาหน้าอย่างข้าพระองค์ ตอนที่สู้รบกับเว่ยชิงในครั้งกระโน้น ทำไมข้าพระองค์ถึงต้องการให้ฝ่าบาทมาช่วยอีกล่ะ

“ข้าพระองค์สู้ไม่ได้แม้แต่กับตราประทับไป๋ลู่ อย่าว่าจะทำลายตรามู่อวิ๋นนี้เลย?”

มีเหตุผลและมีหลักฐานที่ดี

น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

เซียวเฉวียนไม่มีปัญญานี้จริงๆ ตราประทับนั้นถูกกัดจนแตกโดยเซี่ยวเฟิง จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน

หากต้องการสืบเสาะกันจริงๆ เซี่ยวเฟิงนั้นเดิมเป็นสัตว์สงครามของต้าเว่ย เป็นทรัพย์สมบัติของฝ่าบาท รวบลัดกันแล้ว หมายความว่าองค์จักรพรรดิทรงทำแตกด้วยพระองค์เอง ยิ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเซียวเฉวียน

”เซียวเฉวียน! ไม่ต้องมาใส่ร้ายป้าสีคนอื่น! ตอนที่มอบตรามู่อวิ๋นให้กับเจ้า เห็นชัดว่ามันยังอยู่ในสภาพดีๆ !”

เหลียงไหวโหรวโกรธแทบระเบิด เซียวเฉวียนแอบอ้างไปเรื่อยเปื่อย ไปโน่นทีมานี่ที

”องครักษ์ไม่ได้บอกหรือว่าตอนนั้นมีผู้หญิงอยู่ด้วย ทำไมเจ้าไม่ให้เธอเป็นพยาน”

เหลียงไหวโหรวไม่มีความสามารถอื่นใด แต่ความทรงจำดีเลิศ ผู้หญิงในปากขององครักษ์นั้น กลายเป็นเป้าหมายอันสำคัญของเขาอย่างชาญฉลาด

"เธอตายแล้ว"

เซียวเฉวียนตัดบทในทันที "หยางชูเกือบตาย ผู้หญิงคนนั้นจิตใจร้อนแรง ไม่คิดว่าเธอจะกระโดดลงบ่อน้ำและตายเพื่อเจ้านายของเธอไปแล้ว"

”เหลียงไหวโหรว ตอนนี้เจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่าบาปที่เจ้าสร้างไว้นั้นหนักหนาแค่ไหน เดิมทีข้ายังคิดจะช่วยเจ้าปกปิดไว้บ้าง”

เซียวเฉวียนเปลี่ยนเรื่องทันที ไวจนไม่มีใครไหวทัน

อะไร?

พยานไม่ตาบอด ก็ไม่อยู่ สุดท้ายก็มีตายหนึ่งด้วย?

เหลียงไหวโหรวเบิกตากว้างๆ หากไม่ใช่มีคนอยู่มากมาย เขาคงฉุนจนร้องโฮออกมาแน่!

“ในเมื่อต่างฝ่ายต่างยืนกรานในเรื่องของตนเอง และไม่มีพยานทั้งสองฝ่าย” องค์จักรพรรดิตรัสอย่างสงบนิ่ง “ตรามู่อวิ๋นก็เป็นทรัพย์สมบัติของราชวงศ์ เหลียงไหวโหรวก็เป็นสมาชิกของราชวงศ์ ดังนั้นให้นำเหลียงไหวโหรวจไปมอบให้กับ..."

องค์จักรพรรดิลังเลอยู่นิดหนึ่ง "ให้จวนจงเหรินไปจัดการเถอะ"

จวนจงเหริน?

เหลียงไหวโหรวยังไม่เคยได้รับเกียรติยศจากราชวงศ์เลยแม้แต่วันเดียว แต่การลงโทษของราชวงศ์ก็ยังดำเนินทันจังหวะกันต่อไป

”ไม่! ฝ่าบาท! ฝ่าบาท!”

เหลียงไหวโหรวส่ายหัว เข้าจวนจงเหริน จะไม่เท่ากับบอกชาวโลกว่าเหลียงไหวโหรวเป็นลูกนอกสมรสของราชวงศ์หรือ?

เขาเข้าไปไม่ได้!

เขาขัดขืนอย่างแรงกล้า แต่ไม่มีใครมาช่วยเขา

แม้แต่ฉินเซิ่งก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นเขา

”ฝ่าบาท! ข้าไม่ใช่คนเดียวที่จะฆ่าเจ้าหญิง! เซียวเฉวียนก็อยากจะฆ่านางด้วย! เพราะ... เพราะข้ากับเจ้าหญิงเอาเซียวจิงไปขายให้กับศาลาหน่วนเซียง ถ้าเซียวเฉวียนไม่มาหยุดรถม้าของเรา เรื่องทั้งหมดในวันนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ฝ่าบาท!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย