ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 541

“เจ้าพูดเพ้อเจ้อ!”

ฉินเซิงตะคอกครั้งหนึ่ง “คนขององค์หญิงใหญ่ตายไปแล้ว เจ้ายังมาสร้างมลทินให้ชื่อเสียงของนางอีก!”

ฉินเซิงไม่เชื่อว่าภรรยาของตัวเองจะกระทำเรื่องสกปรกไร้เหตุผลถึงเพียงนี้ออกมาได้!

เซียวเฉวียนถอนหายใจ การดิ้นรนครั้งนี้ของเหลียงไหวโหรวช่างไร้ความหมายนัก

คนตายก็เหมือนดังตะเกียงดัง บุญคุณความแค้นสลายไปสิ้น

หากว่าเป็นในยุคปัจจุบัน ต่อให้ฮูหยินฉินจะตายแล้ว เซียวเฉวียนก็จะทำให้ชื่อเสียงของนางเหม็นโฉ่ว ให้นางถูกคนนับหมื่นรังเกียจทอดทิ้ง

แต่ว่าในยุคโบราณ จัดการเรื่องราวแตกต่าง จะทำสิ่งใดก็ล้วนต้องรู้จักรุกถอย

ฮูหยินฉินแม้จะกระทำการเลอะเลือน แต่จะอย่างไรนางก็ยังมีฐานะของคนในราชวงศ์ และผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังนาง คือราชวงศ์ของฮ่องเต้ที่สูงส่งที่สุดในหมู่ชาวต้าเว่ย

ศักดิ์ศรีของฮูหยินฉินนั้นคือศักดิ์ศรีของฮ่องเต้

เซียวเฉวียนไม่ได้เป็นเฉกเช่นเดียวกับเหลียงไหวโหรว ที่โง่ทำเรื่องถึงขั้นตบหน้าฮูหยินฉินดังฉาดๆ

เพราะว่า ตบไปก็ไร้ประโยชน์ ตบก็คือการตบหน้าฮ่องเต้ กระทั่งใบหน้าของอดีตฮ่องเต้นด้วย

ฮ่องเต้เพื่อจะปิดข่าวฉาวโฉ่นี้ ต้องทรงจัดการลับๆ แน่

แต่ไม่รู้ว่าเหลียงไหวโหรวเป็นบ้าอะไร หรือว่าร้อนรนใจที่สุดแล้วเขาถึงกับเอาเรื่องนี้มาเปิดเผย

เปิดเผยก็ช่างมัน เซียวเฉวียนเองก็ไม่ใช่ฝ่ายที่ทำผิด เขาต้องกลัวใครหรือ?

ผลก็คือ เมื่อได้ยินคำพูดของเหลียงไหวโหรว สีพระพักตร์ฮ่องเต้ก็เปลี่ยน

“เซียวเฉวียน ที่เหลียงไหวโหรวพูดนั้นมีเรื่องเช่นนี้จริงๆ หรือ? องค์หญิงใหญ่ขายคุณหนูรองตระกูลเซียวให้ศาลาหน่วนเซียงงั้นหรือ?” ครั้นฮ่องเต้ถามเช่นนี้ จริงๆ แล้วไม่ได้ต้องการคำตอบจากเซียวเฉวียน

การเอาเซียวจิงไปขายให้สถานโลกีย์เช่นนี้ก็คล้ายวิธีการลงมือของฮูหยินฉิน

ฮ่องเต้ไม่สนใจว่าฮูหยินฉินจะทำหรือไม่ทำสิ่งใด เขาถามเซียวเฉวียนให้ชัดเจน จริงๆ แล้วก็คือเพื่อดูท่าทีของเซียวเฉวียนนั่นเอง

เซียวเฉวียนเข้าใจจิตใจของฮ่องเต้แท้จริง เขาเอ่ยตอบอย่างมีมารยาท “เรียนฝ่าบาท เรื่องที่น้องสาวถูกขายไปยังหอหน่วนเซียงนั้นมีเรื่องเช่นนั้นจริง แต่กลับมิใช่ฝีมือขององค์หญิงใหญ่”

คำตอบนี้ ทันใดนั้นก็แยกแยะระดับสูงต่ำของเซียวเฉวียนกับเหลียงไหวโหรวได้แล้ว

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ฮ่องเต้กับฉินเซิงก็ถอนหายใจอย่างชัดเจนออกมาพร้อมเพรียง

เหลียงไหวโหรวกัดฟัน นี่เซียวเฉวียนเป็นบ้าไปแล้วหรือ? ฮูหยินฉินปฏิบัติตนย่ำแย่กับเขาปานนี้ ตอนนี้เซียวเฉวียนควรจะเหยียบกระทืบฮูหยินฉินสิ มาตอนนี้ยังจะปกป้องนางอีกหรือ?

“น้องสาวพูดว่า เป็นเหลียงไหวโหรวที่ขายนางไปหอหน่วนเซียงพ่ะย่ะค่ะ ขั้นตอนทั้งหมดนั้นเป็นเหลียงไหวโหรวกับคนแซ่เกาของหอหน่วนเซียงตกลงซื้อขายกัน ไม่เคยเห็นองค์หญิงใหญ่ปรากฏตัวมาก่อน”

“กระหม่อมพอรู้ว่าน้องสาวถูกขายไป ใจก็ร้อนรนดังไฟ ดังนั้นเลยเข้าหยุดรถของเหลียงไหวโหรว ประจวบเหมาะ องค์หญิงใหญ่อยู่ที่นั่นด้วย”

“องค์หญิงใหญ่เข้าใจผิดว่ากระหม่อมหาเรื่องนาง ดังนั้นเลยเรียกองครักษ์หงอวี้กับแม่ทัพตระกูลฉินมาสู้กับกระหม่อม”

“ในจังหวะนี้เอง เหลียงไหวโหรวก็เปิดใช้ผนึกมู่อวิ๋น ทำให้สถานะเชื้อพระวงศ์ของเขาเปิดเผย เขาโมโหจนขาดสติถึงได้คิดสังหารองค์หญิงใหญ่กับข้า”

“ในตอนนั้นที่ข้าถูกผนึกมู่อวิ๋นผนึกเอาไว้และองค์หญิงใหญ่ถูกสังหาร ข้าขับตัวไม่ได้แม้คิดอยากช่วยองค์หญิงใหญ่ก็ไร้กำลังพ่ะย่ะค่ะ” ในเวลานี้เอง สายตาอขงเซียวเฉวียนก็ปรากฏแสงน้ำตาแห่งความรู้สึกผิดออกมาอย่างเหมาะเจาะหยดหนึ่ง “กระหม่อมกับองค์หญิงใหญ่แม้จะมีเรื่องบาดหมางมาเนิ่นนาน แต่นางก็เป็นผู้อาวุโสของข้า พอเห็นนางตายใต้มือคนชั่ว กระหม่อมก็เจ็บปวดสุดแสนพ่ะย่ะค่ะ”

เหลียงไหวโหรวเบิกตากว้าง เซียวเฉวียนเอ่ยปากแต่ละประโยคถัดมานั้นประดุจสายน้ำลื่นไหลสุดๆ ไม่หลุดรั่วแม้สักนิด พูดเหมือนเป็นเรื่องจริงก็ไม่ปาน!

“เซียวเฉวียนเจ้ามันคนหน้าไม่อาย!” เหลียงไหวโหรวโมโหหนัก “เห็นชัดว่าเจ้าเป็นฝ่ายยั่วยุองค์หญิงใหญ่ก่อน! เป็นเจ้าที่พูดว่าจะสังหารนาง! นี่ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องที่เหลือตามมา! เจ้าช่างมีความสามารถนัก พลิกลิ้นไปมา กลับกลายเป็นข้าที่ก่อเรื่องขึ้นก่อนอย่างนั้นหรือ?”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าใช่คนที่ขายน้องสาวข้าหรือไม่? เรื่องนี้ใครก็ล้วนโกหกไม่ได้ คนแซ่เกาในหอหน่วนเซียงกับน้องสาวของข้าสามารถเป็นพยานให้ได้”

เซียวเฉวียนเองไม่อยากพูดเสียเวลา เขาเอ่ยโต้กลับไปโดยตรง

ฮ่องเต้กับฉินเซิงมองเหลียงไหวโหรวอย่างเงียบๆ

เอ๋?

เหลียงไหวโหรวเหม่อลอย “นี่...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย