“เจ้าพูดเพ้อเจ้อ!”
ฉินเซิงตะคอกครั้งหนึ่ง “คนขององค์หญิงใหญ่ตายไปแล้ว เจ้ายังมาสร้างมลทินให้ชื่อเสียงของนางอีก!”
ฉินเซิงไม่เชื่อว่าภรรยาของตัวเองจะกระทำเรื่องสกปรกไร้เหตุผลถึงเพียงนี้ออกมาได้!
เซียวเฉวียนถอนหายใจ การดิ้นรนครั้งนี้ของเหลียงไหวโหรวช่างไร้ความหมายนัก
คนตายก็เหมือนดังตะเกียงดัง บุญคุณความแค้นสลายไปสิ้น
หากว่าเป็นในยุคปัจจุบัน ต่อให้ฮูหยินฉินจะตายแล้ว เซียวเฉวียนก็จะทำให้ชื่อเสียงของนางเหม็นโฉ่ว ให้นางถูกคนนับหมื่นรังเกียจทอดทิ้ง
แต่ว่าในยุคโบราณ จัดการเรื่องราวแตกต่าง จะทำสิ่งใดก็ล้วนต้องรู้จักรุกถอย
ฮูหยินฉินแม้จะกระทำการเลอะเลือน แต่จะอย่างไรนางก็ยังมีฐานะของคนในราชวงศ์ และผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังนาง คือราชวงศ์ของฮ่องเต้ที่สูงส่งที่สุดในหมู่ชาวต้าเว่ย
ศักดิ์ศรีของฮูหยินฉินนั้นคือศักดิ์ศรีของฮ่องเต้
เซียวเฉวียนไม่ได้เป็นเฉกเช่นเดียวกับเหลียงไหวโหรว ที่โง่ทำเรื่องถึงขั้นตบหน้าฮูหยินฉินดังฉาดๆ
เพราะว่า ตบไปก็ไร้ประโยชน์ ตบก็คือการตบหน้าฮ่องเต้ กระทั่งใบหน้าของอดีตฮ่องเต้นด้วย
ฮ่องเต้เพื่อจะปิดข่าวฉาวโฉ่นี้ ต้องทรงจัดการลับๆ แน่
แต่ไม่รู้ว่าเหลียงไหวโหรวเป็นบ้าอะไร หรือว่าร้อนรนใจที่สุดแล้วเขาถึงกับเอาเรื่องนี้มาเปิดเผย
เปิดเผยก็ช่างมัน เซียวเฉวียนเองก็ไม่ใช่ฝ่ายที่ทำผิด เขาต้องกลัวใครหรือ?
ผลก็คือ เมื่อได้ยินคำพูดของเหลียงไหวโหรว สีพระพักตร์ฮ่องเต้ก็เปลี่ยน
“เซียวเฉวียน ที่เหลียงไหวโหรวพูดนั้นมีเรื่องเช่นนี้จริงๆ หรือ? องค์หญิงใหญ่ขายคุณหนูรองตระกูลเซียวให้ศาลาหน่วนเซียงงั้นหรือ?” ครั้นฮ่องเต้ถามเช่นนี้ จริงๆ แล้วไม่ได้ต้องการคำตอบจากเซียวเฉวียน
การเอาเซียวจิงไปขายให้สถานโลกีย์เช่นนี้ก็คล้ายวิธีการลงมือของฮูหยินฉิน
ฮ่องเต้ไม่สนใจว่าฮูหยินฉินจะทำหรือไม่ทำสิ่งใด เขาถามเซียวเฉวียนให้ชัดเจน จริงๆ แล้วก็คือเพื่อดูท่าทีของเซียวเฉวียนนั่นเอง
เซียวเฉวียนเข้าใจจิตใจของฮ่องเต้แท้จริง เขาเอ่ยตอบอย่างมีมารยาท “เรียนฝ่าบาท เรื่องที่น้องสาวถูกขายไปยังหอหน่วนเซียงนั้นมีเรื่องเช่นนั้นจริง แต่กลับมิใช่ฝีมือขององค์หญิงใหญ่”
คำตอบนี้ ทันใดนั้นก็แยกแยะระดับสูงต่ำของเซียวเฉวียนกับเหลียงไหวโหรวได้แล้ว
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ฮ่องเต้กับฉินเซิงก็ถอนหายใจอย่างชัดเจนออกมาพร้อมเพรียง
เหลียงไหวโหรวกัดฟัน นี่เซียวเฉวียนเป็นบ้าไปแล้วหรือ? ฮูหยินฉินปฏิบัติตนย่ำแย่กับเขาปานนี้ ตอนนี้เซียวเฉวียนควรจะเหยียบกระทืบฮูหยินฉินสิ มาตอนนี้ยังจะปกป้องนางอีกหรือ?
“น้องสาวพูดว่า เป็นเหลียงไหวโหรวที่ขายนางไปหอหน่วนเซียงพ่ะย่ะค่ะ ขั้นตอนทั้งหมดนั้นเป็นเหลียงไหวโหรวกับคนแซ่เกาของหอหน่วนเซียงตกลงซื้อขายกัน ไม่เคยเห็นองค์หญิงใหญ่ปรากฏตัวมาก่อน”
“กระหม่อมพอรู้ว่าน้องสาวถูกขายไป ใจก็ร้อนรนดังไฟ ดังนั้นเลยเข้าหยุดรถของเหลียงไหวโหรว ประจวบเหมาะ องค์หญิงใหญ่อยู่ที่นั่นด้วย”
“องค์หญิงใหญ่เข้าใจผิดว่ากระหม่อมหาเรื่องนาง ดังนั้นเลยเรียกองครักษ์หงอวี้กับแม่ทัพตระกูลฉินมาสู้กับกระหม่อม”
“ในจังหวะนี้เอง เหลียงไหวโหรวก็เปิดใช้ผนึกมู่อวิ๋น ทำให้สถานะเชื้อพระวงศ์ของเขาเปิดเผย เขาโมโหจนขาดสติถึงได้คิดสังหารองค์หญิงใหญ่กับข้า”
“ในตอนนั้นที่ข้าถูกผนึกมู่อวิ๋นผนึกเอาไว้และองค์หญิงใหญ่ถูกสังหาร ข้าขับตัวไม่ได้แม้คิดอยากช่วยองค์หญิงใหญ่ก็ไร้กำลังพ่ะย่ะค่ะ” ในเวลานี้เอง สายตาอขงเซียวเฉวียนก็ปรากฏแสงน้ำตาแห่งความรู้สึกผิดออกมาอย่างเหมาะเจาะหยดหนึ่ง “กระหม่อมกับองค์หญิงใหญ่แม้จะมีเรื่องบาดหมางมาเนิ่นนาน แต่นางก็เป็นผู้อาวุโสของข้า พอเห็นนางตายใต้มือคนชั่ว กระหม่อมก็เจ็บปวดสุดแสนพ่ะย่ะค่ะ”
เหลียงไหวโหรวเบิกตากว้าง เซียวเฉวียนเอ่ยปากแต่ละประโยคถัดมานั้นประดุจสายน้ำลื่นไหลสุดๆ ไม่หลุดรั่วแม้สักนิด พูดเหมือนเป็นเรื่องจริงก็ไม่ปาน!
“เซียวเฉวียนเจ้ามันคนหน้าไม่อาย!” เหลียงไหวโหรวโมโหหนัก “เห็นชัดว่าเจ้าเป็นฝ่ายยั่วยุองค์หญิงใหญ่ก่อน! เป็นเจ้าที่พูดว่าจะสังหารนาง! นี่ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องที่เหลือตามมา! เจ้าช่างมีความสามารถนัก พลิกลิ้นไปมา กลับกลายเป็นข้าที่ก่อเรื่องขึ้นก่อนอย่างนั้นหรือ?”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าใช่คนที่ขายน้องสาวข้าหรือไม่? เรื่องนี้ใครก็ล้วนโกหกไม่ได้ คนแซ่เกาในหอหน่วนเซียงกับน้องสาวของข้าสามารถเป็นพยานให้ได้”
เซียวเฉวียนเองไม่อยากพูดเสียเวลา เขาเอ่ยโต้กลับไปโดยตรง
ฮ่องเต้กับฉินเซิงมองเหลียงไหวโหรวอย่างเงียบๆ
เอ๋?
เหลียงไหวโหรวเหม่อลอย “นี่...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...