ดาบชั้นหนึ่งเป็นดาบเล่มแรกในหอคุนหวู เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าดาบศักดิ์สิทธิ์! ดาบนี้สร้างขึ้นด้วยมือของคุณปู่ของอี้กุยเอง และเป็นสมบัติสำคัญประจำร้านของหอคุนหวู!
ดาบศักดิ์สิทธิ์ย่อมอยู่คู่เคียงกับวีระบุรุษ แต่ดาบเล่มนี้ไหนมาอยู่คู่กับเซียวเฉวียนคนไร้ค่าคนนี้!
ท่ามกลางฝูงชน มีบางคนที่แต่งกายหรูหรากำลังมองดูดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มแรกค่อยๆ ถูกย้ายลงมาด้วยอารมณ์เกลียดชังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เชือกที่ผูกดาบเล่มนั้นเก่าคร่ำคร่า แต่เนื้อตัวดาบนั้นยังเปล่งแสงวาวเยือกเย็นชวนเกรงขามเหมือนดั่งแต่ก่อน
”ดาบสุดยอด” เซียวเฉวียนถอนหายใจ พี่ใหญ่สามารถสร้างดาบอย่างนี้ขึ้นในรัชสมัยนี้ได้ คงต้องใช้ความพยายามอย่างสูง
ตอนที่มันอยู่สูงจากพื้นหนึ่งเมตร อี้กุยถอดดาบออกด้วยท่าทางเคร่งขรึม มือสองข้างยกถือไว้ต่อหน้าเซียวเฉวียน "ได้โปรดตั้งชื่อให้ดาบเล่มแรกนี้ด้วยครับ"
ทุกคนมักตั้งชื่อให้กับดาบของตนเอง หลังจากนั้น ดาบก็จะมีชื่อมีสกุล และการมีชื่อสกุลก็หมายความว่ามีเจ้าของ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เซียวเฉวียนมองดูดาบอย่างชื่นชม ไม่สนใจเรื่องการตั้งชื่อแม้แต่นิด คนสมัยก่อนชอบทำอะไรไร้สาระ เขากำลังจะรีบ เขาสัญญากับมารดาว่าจะกลับบ้านทานอาหารเย็น
เขากำลังจะรับดาบนั้นมา แต่อี้กุยจับด้ามดาบไว้แน่น “กรุณาตั้งชื่อให้ด้วยครับ มิฉะนั้น จะเอาดาบไปไม่ได้”
เซียวเฉวียนมองดูเขา มาเจอเด็กหัวโบราณอีกคนแล้ว ตั้งก็ตั้ง เขาจ้องไปที่ดาบอย่างตั้งใจ พี่ใหญ่สร้างดาบนี้ไว้ เกรงว่าดาบนี้จะมีความหมายอะไรสักอย่าง
ประเภทของดาบยาวที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีนโบราณคือดาบยาวโกวเจี้ยน ซึ่งสร้างขึ้นโดยโกวเจี้ยน กษัตริย์แห่งรัฐเยว่ ในยุคชุนชิว
สิ่งที่โด่งดังที่สุดที่โกวเจี้ยนเคยทำคือ "วั่วซินฉางตั่น" (นอนบนซุง กินถุงน้ำดี) เขาเป็นเจ้าจักรพรรดิผู้ครองนครรัฐองค์สุดท้ายในยุคชุนชิว
นอกจากนี้ ดาบยาวที่ดูแลประดิษฐ์ขึ้นโดยโกวเจี้ยน ยังมีชื่อเสียงมาก ดาบที่เขาดูแลประดิษฐ์ขึ้นนั้น ก็มาจากภูเขาคุนหวูในประเทศจีน
ต้าเว่ยก็มีภูเขาคุนหวู เซียวเฉวียนตรวจสอบมาแล้ว เขาคุนหวูของต้าเว่ยกับเขาคุนหวูของจีนฮว๋าเซี่ยไม่ใช่ที่เดียวกัน บางทีพี่ใหญ่ตั้งชื่อหอกระบี่ เป็นหอคุนหวู ก็อาจจะเป็นรหัสลับอะไรสักอย่างก็ได้
เมื่อเทียบกับสูตรทางคณิตศาสตร์ รหัสลับของหอคุนหวูนี้ดูยิ่งล้ำลึกกว่า หากเซียวเฉวียนไม่ได้คลุกคลีในพิพิธภัณฑ์มาเป็นเวลาหลายปี จ้องดูดาบยาวโบราณเหล่านั้นทุกวัน เขาคงไม่ประทับใจในอักษรสองตัวนี้ คนที่ไม่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์อาจพลาดเรื่องของหอคุนหวูด้วยเหตุนี้
เขามาที่หอคุนหวู ประการแรกเพราะดาบที่ดีที่สุดอยู่ที่นี่ ประการที่สอง เขาสงสัยคำว่าคุนหวูมีความหมายอื่น ดังนั้นเขาจึงต้องการมาลองเสี่ยงโชคดู
พอได้มาในวันนี้ ก็รู้เลยว่ามาถูกที่แล้วจริงๆ เป็นไปได้ไหมว่าพี่ใหญ่กำลังใช้หอคุนหวู เพื่อตักเตือนชาวจีนรุ่นหลังว่าในราชวงศ์ต้าเว่ย พวกเขาต้องแบกรับความอัปยศอดสูและทำงานหนักอย่างโกวเจี้ยน จึงจะได้ประสบความสำเร็จ?
เซียวเฉวียนยอมรับว่าต้องทำงานหนัก แต่ไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระของความอัปยศอดสูละมั่ง
เซียวเฉวียนเหลือบมองสัญลักษณ์ของหอคุนหวูที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านบน จากนั้นมองไปที่แสงเงาเยือกเย็นของดาบเล่มแรก และพูดอย่างลอยๆ ว่า "มีตำนานว่าชายผู้หนึ่งชื่อว่าโกวเจี้ยน สร้างดาบยาวแปดเล่ม เล่มหนึ่งเอี่ยนรื่อ เล่มสอง ต้วนส่วย เล่มสาม จ่วนพั่ว เล่มสี่ เซว่นเจี่ยน เล่มห้า จี๊งหนี เล่มหก เมี่ยหุน เล่มเจ็ด เชว่เสียเล่มแปด จึนกาง ชื่อดีๆ ทั้งหมดถูกเลือกไปหมดแล้ว เซียวมีความรู้อยู่น้อยนิด ดาบนี้ก็เรียกว่าสวย......เปี้ยน สวยเปี้ยน (ตามสบาย) ก็แล้วกัน"
อี้กุยผงะไปครู่หนึ่ง สวย...เปี้ยน? สวยเปี้ยน?
เซียวเฉวียนกระพริบตาและกล่าวอย่างใจเย็น "นายน้อยอี้ว่า ชื่อนี้ดีไหมครับ"
ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนประเมินดาบเล่มนี้ต่ำไป กลิ่นอายสังหารที่หอกระบี่นี้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไป่ฉีส่งสัญญาณถึงเซียวเฉวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆ กลัวว่าจะมีใครลงมือ เขาและไป่ฉีต้องรีบจากไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อหอกระบี่ที่พี่ใหญ่อุตส่าห์ตรากตรำทำงานหนักสร้างขึ้นมาทิ้งไว้ให้
อี้กุยกระพริบตา หันหน้าไปพูดกับเจ้าของร้านว่า "ลงบันทึกไว้ในสมุดว่า ชื่อของดาบเล่มแรกนี้เป็น สวยเปี้ยน แล้วแจ้งไปยังหอกระบี่แห่งใหญ่แต่ละสาขาด้วย"
เจ้าของร้านพยักหน้าด้วยความไม่น่าเชื่อ คนๆ นี้ไม่ให้ความเคารพกับดาบศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงถูกตะเพิดออกจากหอกระบี่ไปนานแล้ว นายน้อยใจกว้างมากในวันนี้ เขารีบนำพู่กันและกระดาษมา แล้วกระซิบอย่างไม่พอใจ "ครับ...... นายน้อย”
”ซื้อขายดาบเล่มเดียว ต้องประกาศให้คนทั้งโลกรับรู้ด้วยหรือ?” เซียวเฉวียนแตะคางแล้วถาม
”โลก?” อี้กุยไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร และพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ดาบธรรมดาไม่ต้องแจ้ง แต่ถ้าดาบที่มีชื่อเสียงพอได้เจ้าของแล้ว ก็เหมือนคนมีทะเบียนบ้าน ไม่เพียงแต่ต้องลงบันทึกในทะเบียนเท่านั้น จะต้องรายงานต่อทางการเพื่อลงบันทึก ทั้งประกาศให้ทุกหอกระบี่แห่งใหญ่รับรู้ด้วย”
เซียวเฉวียนพยักหน้า ไม่แปลกใจเลยที่ต้าเว่ยมีสภาพล้าหลังเช่นนี้ ความรอบคอบของเขาถูกใช้เพียงเพื่อจัดการกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้
เมื่อกรอกข้อมูลถึงตารางสำหรับเจ้าของ เจ้าของร้านอดกั้นความรู้สึกไม่ชอบใจของเขาและเหล่ตาไปที่เซียวเฉวียนด้วยรอยยิ้ม "ไม่ทราบว่าบ้านเกิดของท่านเซียวเฉวียนอยู่ที่ไหน ฉันต้องลงทะเบียน"
"เขาเป็นเขยของตระกูลฉิน ดังนั้นถิ่นกำเนิดของเขาจึงอยู่ในตระกูลฉินละสิ!!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...