บรรดาข้าราชบริพารพูดถูก เว่ยเชียนชิวเป็นคนหยิ่งผยองอย่างยิ่ง ต้องมีอารมณ์ดีๆ เขาถึงจะเข้าวังเพื่อร่วมงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง แล้วไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ในวังสักรอบสองรอบ
ถ้าคิดจะเชิญเว่ยเชียนชิวมาพิสูจน์สายเลือด เชอะ แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังคิดว่ามันไม่น่าจะได้
“ท่านเว่ยเจียนกั๋วพักใช้ชีวิตอยู่ที่จวนเจียนกั๋วมาตลอด” จ้าวอีโต้วคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็คิดหาข้ออ้างได้ เขาพูดอย่างเย็นชาราวกับว่าเขาเป็นผู้แถลงข่าวของเว่ยเชียนชิว “สำหรับเรื่องที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ เจียนกั๋วยินดีที่จะมาหรือไม่ ? ก็พูดยากเหมือนกัน”
เซียวเฉวียนพูดอย่างตรงไปตรงมา "ในเมื่อข้าพระองค์เป็นผู้เสนอเรื่องนี้ ข้าพระองค์จะเชิญเอง"
โอ้?
องค์จักรพรรดิเอนศีรษะเล็กน้อย "อนุญาต"
บรรดาข้าราชบริพารต่างผงะ นี่หรือคนมีฝีมือใจถึงอย่างที่เขาลือกันนั่นเหรอ?
ตอนนี้เซียวเฉวียนกำลังแหย่หนวดเสือเข้าแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เซียวเฉวียนคงจะเกรงกลัวเว่ยเชียนชิวบ้าง
หลังจากคลำพบสภาพจิตของเว่ยเชียนชิวแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นมาก เว่ยเชียนชิวชอบเล่น งั้นเขาก็จะชวนเว่ยเชียนชิวมาเล่นด้วยกัน
"ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงอนุญาต!" เซียวเฉวียนคำนับและออกจากตำหนักฉางหมิง หันหน้าขึ้นฟ้าเอ่ยเรียก "พูกันเฉียนคุน! มานี่!"
อาวุธเข้ามาในตำหนักฉางหมิงไม่ได้ เซียวเฉวียนจึงปฏิบัติตามมารยาทและกฎระเบียบ ออกไปเรียกที่ข้างนอกของตำหนัก
ปรากฏลมแรงพัดขึ้น พู่กันเฉียนคุนสองด้ามส่องแสงสีขาวและสีแดงลอยมาดังเสียงซ่าๆ!
ลมพัดมาชักจูงศีรษะของบรรดาข้าราชฯ หันไปมอง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพู่กันจินหลุนเฉียนคุน
เซียวเฉวียนเจตนากระทำให้เห็นเช่นนี้
ถือโอกาสที่องค์จักรพรรดิได้บอกทุกคนเกี่ยวกับการมีอยู่ของพู่กันเฉียนคุนในวันนี้ เซียวเฉวียนจึงอวดให้คนเหล่านั้นดู เพื่อให้คนเหล่านั้นมีความรู้สึกเกรงกลัว!
บรรดาข้าราชบริพารต่างตกตะลึง ยิ่งเฉาสิงจือนั้นถึงกับขมวดคิ้วแน่น!
อาวุธวิเศษเหล่านี้ ไม่ได้มาจากแผ่นดินต้าเว่ย
ลำแสงสีขาวและสีแดงสองลำเฉียดมาอย่างไว หยุดอยู่ตรงหน้าเซียวเฉวียนดัง "หวือ" และแขวนอยู่บนอากาศ
ไม่แปลกใจเลย พู่กันเฉียนคุนดึงดูดความสนใจของทุกคน รวมทั้งองค์จักรพรรดิก็ทรงสะดุ้งเล็กน้อย
ทำไมพู่กันเฉียนคุนกลายเป็นสองด้ามแล้ว?
”เอาคำพูดนี้ไปพูดกับเว่ยเจียนกั๋ว”
เห็นเซียวเฉวียนพึมพำอะไรบางอย่างกับพู่กันทั้งสองด้าม พู่กันเฉียนคุนก็ส่งเสียง "หวือ" และหันหัวกลับและจากไปอย่างเท่ระเบิด
น่าอิจฉา
น่าอิจฉาจังเลย
บรรดาข้าราชบริพารต่างกำหมัดแน่น
แต่แล้ว เซียวเฉวียนพูดอะไรไปล่ะ?
เว่ยเจียนกั๋วจะมาจริงเหรอ?
มันเป็นไปไม่ได้ เว่ยเจียนกั๋วถือตัวเองสูงอยู่เหนือเมฆ ไม่ไว้หน้าแม้แต่องค์จักรพรรดิ เขาจะมาเพราะได้รับเชิญจากเจ้าหน้าที่เอี๋ยนกวนกระจ้อยร่อยได้อย่างไร?
”ฝ่าบาท รอสักครู่ เว่ยเจียนกั๋วต้องมาแน่นอน”
เซียวเฉวียนดูสงบนิ่งและมั่นใจเต็มร้อย
”ถ้าเว่ยเจียนกั๋วไม่มา ท่านเซียว ถือว่าท่านหลอกลวงเบื้องสูง!” จ้าวอีโต้วตะคอกและแทบรอไม่ไหวที่จะตั้งข้อหาเซียวเฉวียน "นั่นเป็นโทษหลอกลวงเบื้องสูง!"
“ท่านจ้าว ท่านรีบอะไร?” เซียวเฉวียนมองตาค้อง “ถ้าเว่ยเจียนกั๋วไม่มา ก็ตัดสินว่าข้าหลอกลวงเบื้องสูงก็แล้วกัน ตัดหัวข้าไปเลย ท่านเอะอะโวยวายใส่ข้าเพื่ออะไร ท่านคิดว่าข้าไม่รู้หรือนี่เป็นความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง?”
หน็อยแน่ ๆ !
ฟัง!
ฟัง!
น้ำเสียงของเซียวเฉวียนฟังดูช่างเบาหวิวซะเหลือเกินนะ!
จ้าวอีโต้วโกรธมากจนไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไรดีกับเซียวเฉวียนที่รู้ดีทุกอย่างในเรื่องของตัวเอง
เซียวเฉวียนผู้นี้เคยหน้าด้านมาก่อน ทำไมเดียวนี้รักษาหน้าชะมัด รู้จักตัวเองดีขึ้นแล้วหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...