ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 571

สรุปบท บทที่ 571 โต้กลับอย่างแข็งกร้าว: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 571 โต้กลับอย่างแข็งกร้าว จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 571 โต้กลับอย่างแข็งกร้าว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

กระบี่ชีวันอันเปี่ยมไปด้วยพลังนั้น อี้กุยเพียงได้แค่ยลผ่านหนังสือโบราณเก่าแก่ก็เท่านั้น การจะหลอมมันไม่ง่ายเลย นอกเสียจากจะเป็นผู้มีประสบการณ์ กระบี่ชีวันนั้นยากจะได้มาและมีพลังอันแข็งแกร่งพิสดารนัก

แข็งแกร่งถึงระดับไหนหรือ? คาดว่าต่อให้มีผู้มีวรยุทธ์เก่งกล้าสูงส่งนับหมื่นก็ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อกรกับกระบี่ชีวันได้

เกรงว่าต้องใช้ไป๋ฉี่นับร้อยคนกว่าจะสู้กับกระบี่ชีวันไหว

ส่วนวิธีการหลอมกระบี่ชีวันนั้น จำเป็นต้องใช้เลือดเนื้อและสติวิญญาณของผู้คน เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใดก็เป็นวิชาต้องห้ามทั้งสิ้น

ทว่าวันนี้ที่กระบี่ชีวันปรากฏโฉม จะต้องมีเรื่องและมีสาเหตุเป็นอันแน่

“เหล่าเซียว! เรื่องนี้เกินไปหน่อยแล้ว รีบไปซ่อนเร็วเข้า!” แม้ว่าเว่ยอวี๋จะฟังไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็รู้ว่ากระบี่ชีวันมุ่งหมายมาที่ตัวเซียวเฉวียน ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุใด การหลบนั้นนับว่าถูกแล้ว

ฮ่า ลูกเล่นของคนโบราณนี่มันเยอะเหลือเกิน

ผนึกอักษร ผนึกจูเสิน ชาวยุทธ์แท้ แล้วยังมีกระบี่ชีวันนี่เอง

“ไม่ต้องหลบหรอก หลบไปก็หลบไม่พ้น” อี้กุยส่ายหน้า “ท่านปู่น้อยแค่ถูกเพ่งเล็ง ไม่แน่ว่ามันจะลงมือจัดการสำเร็จหรอกขอรับ เพียงป้องกันก่อนมันเกิดปัญหาก็พอแล้ว”

และนี่คือเหตุผลที่อี้กุยร้อนรนวิ่งเข้ามาบอกกับเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนนั้นไม่ค่อยเข้าใจของมากมายในแคว้นต้าเว่ยเท่าไหร่นัก ก่อนหน้านี้กระทั่งรากอักษรคือสิ่งใดเขาก็ไม่รู้ ดังนั้นแล้วต่อให้จู่ๆ ปรากฏของชิ้นใหม่ขึ้นมา อี้กุยเองก็จะเป็นคนรู้ตัวก่อนและมาอธิบายให้เขาฟัง

“ขอบคุณวิชาสามัญของเจ้า ข้าเข้าใจแล้ว”

เซียวเฉวียนเหยียดบั้นเอว “ใครจะสนว่ามันเป็นกระบี่ชีวันหรืออะไร อาวุธมาเราก็สร้างรั้วขวางมันไว้ก็พอแล้ว!”

เซียวเฉวียนเองก็ไม่ใช่จะถูกเล่นงานเป็นวันแรก ก็แค่กระบี่เล่มหนึ่งเท่านั้น เขาจะกลัวไปไย?

ไม่ว่ากระบี่ชีวิตจะใช้ร่างกายและดวงจิตของใครในการหลอมสร้าง การถูกใช้หลอมกระบี่เล่มหนึ่ง นั่นมิใช่ว่าคนผู้นั้นตายไปแล้วหรือไม่?

เซียวเฉวียนนั้นไม่เสียแรงที่เป็นยอดนักกิน คนอื่นเห็นกระบี่ชีวัน สิ่งแรกที่เอ่ยถึงกระบี่นี้ก็คือมันเป็นกระบี่แห่งความตาย ทว่าในใจของเซียวเฉวียนกลับให้คำนิยามโต้ตอบกลับไปว่า มันก็เหมือนของกินที่ทำเสร็จแล้วมิใช่หรือ?

เว่ยอวี๋กับอี้กุยสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ในเวลาเดียวกันก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เซียวเฉวียนตบบ่าของคนโง่สองคนหลายครั้ง “ทำสีหน้าเช่นนี้กันทำไม ตัวข้าเซียวเฉวียนยังเป็นคนเป็นอยู่ ยังจะต้องกลัวคนตายผู้หนึ่งอีกหรือ?”

“ไม่ว่าผู้ที่ตายแล้วจะเป็นใคร คนผู้นั้นก่อนตายก็สู้ข้าไม่ได้ ตอนนี้ตายไปแล้ว กลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งจะสู้ข้าได้อย่างไร?”

“ฮ่าๆๆ! ตลกนัก!”

เซียวเฉวียนกลอกตา ความมั่นใจในตัวเองและมองโลกแง่บวกของเขานั้นทำเอาเว่ยอวี๋กับอี้กุยไล่ตามอย่างไรก็ไม่ทัน พวกเขามองตากัน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำพูดของเซียวเฉวียนคล้ายจะมีเหตุผลเสียเต็มประดา

เซียวเฉวียนเอ่ยวาจาไปๆ มาๆ จิตใจของอี้กุยกับเว่ยอวี๋ก็คล้ายไม่ได้หนักอึ้งปานนั้นแล้ว

“ไป! ไปดื่มเหล้าที่ตระกูลจ้าวกัน!”

เซียวเฉวียนลูบมือ ทำเอาอี้กุยตกใจจนผงะไป “อ๋า? ท่านปู่น้อย ตระกูลจ้าวหรือ?”

“จ้าวซิ่นมิใช่ว่าอยากรับน้องสาวข้าเป็นอนุหรอกหรือ?”

เซียวเฉวียนดวงตามืดครึ้ม

“อาๆๆ ถูกๆๆ!”

เว่ยอวี๋ครั้นได้ฟังก็รู้แล้วว่าเซียวเฉวียนจะไปแก้แค้น! เซียวเฉวียนดีนัก เขาคล้ายเป็นเด็กที่มีผู้ปกครองคอยหนุนหลังขึ้นมาก็ไม่ปาน “ถูกแล้ว! ไปหาเรื่องตระกูลจ้าวกันเถอะ! น่าโมโหนัก! ตระกูลจ้าวเคยหมิ่นหยามจิงเอ๋อร์คอยให้นางรับใช้คนที่หอหน่วนเซียงมาก่อน!”

“ท่านปู่น้อย ยามนี้ท่านเป็นขุนนางที่ปรึกษา” อี้กุยขมวดคิ้ว เขาเตือนอย่างระมัดระวัง “จ้าวจินไหลตายไปแล้ว แต่ว่าจ้าวหลานนั้นมีตำแหน่งสูงกว่าท่าน ท่านไปก่อเรื่องที่บ้านขุนนางตำแหน่งสูง พรุ่งนี้ก็ต้องถูกกล่าวหา แบบนี้ก็ไม่ดีกระมัง?”

“ใครบอกว่าข้าไปจะก่อเรื่องกัน?”

เซียวเฉวียนเอนศีรษะ ใบหน้าของเขาเย็นชาสุดขีด ก่อนจะเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์แบบที่คุ้นเคยออกมา

“ตระกูลจ้าวมิใช่อยากจะดองญาติกับข้าหรือ?” เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อย “แน่นอนว่าข้าต้องทำความรู้จักกับตระกูลจ้าวก่อนสิ”

จ้าวซิ่นมีเรื่องกลุ้มใจกังวลมากมาย ดังนั้นสุดท้ายเขาก็ต้องมาละ

“รายงาน! ใต้เท้าเซียวส่งคนมาส่งเทียบเชิญ อยากขอพบหน้าคุณชายใหญ่สักครั้งขอรับ!”

คนตระกูลจ้าวกำลังกินข้าวอยู่เลย เด็กรับใช้รายหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามารายงานสีหน้าเขียนเต็มไปหมดว่า จบสิ้นกัน ตัวปัญหาอย่างเซียวเฉวียนมาแล้ว

เทียบน้อมพบของเซียวเฉวียนนั้น บอกว่าผู้ที่เขาอยากพบคือหลานชายคนโตอย่างจ้าวหลาน กลับมิใช่จ้าวซิ่นที่คิดจะสู่ขอน้องสาวของตน

ยามนี้เซียวเฉวียนอยู่ต้าเว่ยมานานแล้ว บางครั้งเขาก็จะมีพฤติกรรมที่ใช้วิธีคิดและการมองโลกแบบคนโบราณเหมือนกัน

นิสัยของจ้าวซิ่นนั้นไม่ดี นอกเสียจากเลี้ยงสุนัขจรจัดบางตัวแล้ว ก็ไม่ได้ยินว่าเขาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยิ่งบวกกับจ้าวซิ่นเป็นแค่ลูกชายสายรองจากอนุ มีคุณสมบัติอะไรมาสนทนากับเซียวเฉวียนกัน?

มาแล้วก็มา คนโง่ผู้นี้ยังจะมีพิธีรีตองอะไรมากมาย? แถมยังไม่ลืมร่างเทียบน้อมพบอีกด้วย?

จ้าวซิ่นมองเทียบน้อมพบในมือของเด็กรับใช้แล้ว พรุ่งนี้เขาต้องการจะสู่ขอเซียวจิง เจ้าโง่อย่างเซียวเฉวียนผู้นี้จู่ๆ มาเยี่ยมถึงบ้านทำอะไรกัน?

จ้าวซิ่นไม่พอใจเล็กน้อย เซียวเฉวียนไม่ได้พูดว่าอยากพบเขา ต่อให้เซียวเฉวียนจะเอ๋อไปแล้ว เซียวเฉวียนก็ยังไม่ใส่ใจในตัวเขาอยู่ดี

เพ้ย! คนโง่ผู้หนึ่ง ยังจะมีคุณสมบัติเหยียดหยามเขาอย่างไร?

“ให้เขาเข้ามา”

ท่านมาแล้ว

สามประโยคนี้ ชืดชาเป็นที่สุด ในเนื้อความนั้นไม่ได้ต้อนรับเซียวเฉวียนเลยแม้แต่น้อย

ก็ใช่ ประตูของตระกูลจ้าวนั้นยังแขวนผ้าขาวอยู่เลย ระยะไว้ทุกข์ของจ้าวจินไหลยังไม่จบสิ้น จ้าวหลานได้พบเซียวเฉวียนแล้วจะยินดีไปได้อย่างไร?

แต่ว่าเซียวเฉวียนมาแล้ว และเขาก็ไม่ได้มาเพื่อเอาใจคนตระกูลจ้าวด้วย

จ้าวหลานมองไป๋ฉี่ครั้งหนึ่ง “ไป๋ฉี่ เป็นเยี่ยงไร คิดตกแล้วหรือ? ต้องการเปลี่ยนนายหรือไม่?”

ไป๋ฉี่กลอกตาครั้งหนึ่ง ฝันไปเถอะ

เซียวเฉวียนหันหน้ากลับมา พลางมองจ้าวหลานอย่างเย็นชา “คุณชายใหญ่จ้าว”

ทุกคำทุกประโยคของเซียวเฉวียน เอ่ยอย่างมีพลัง

จ้าวหลานผงะไป บรรยากาศเยือกเย็นตีขึ้นมาจากฝ่าเท้า

สายตาของเซียวเฉวียนทอประกายปลาบ จิตสังหารบีบคั้นคน

บุคลิกโง่งมก่อนหน้านี้มลายไปสิ้น

เซียวเฉวียนหายดีแล้วหรือ?

แล้วนี่เซียวเฉวียนคิดจะพาไป๋ฉี่มาหาเรื่องตระกูลจ้าวหรือไร?

เซียวเฉวียนยืนมองเขาเขม็ง น้ำเสียงวาจานั้นแม้จะเย้ยหยันแต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นอริและเต็มไปด้วยจิตสังหาร “ตระกูลจ้าวทำลายชื่อเสียงของน้องสาวข้า ยามนี้ยังพูดว่าจะสู่ขอนางอีกหรือ”

จ้าวหลานผงะไป เซียวเฉวียนถึงกับมาเพื่อเรื่องนี้เลยหรือ”

“วันนี้ตัวข้าเซียวเฉวียนมานี่ ไม่ใช่เพื่อมาหาเรื่องตระกุลจ้าว แต่มาต่อรองเรื่องการแต่งงาน”

เซียวเฉวียนบารมีเต็มเปี่ยม พูดจนจ้าวหลานผงะไป “ต่อรองอะไรหรือ?”

ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนเอ๋อไป ตระกูลจ้าวคิดหมิ่นหยามเซียวจิงก็ช่างเถอะ มาตอนนี้เขาหายดีแล้ว ตระกูลจ้าวย่อมไม่อาจจะปะทะโดยตรงกับเซียวเฉวียนอย่างโง่ๆ ได้ แล้วยังมีอะไรที่ยังต่อรองกันได้อีกหรือ

“ดูไปแล้วตระกูลจ้าวของเจ้าอยากจะเกี่ยวดองกับตระกูลเซียวของข้า” สายตาของเซียวเฉวียนนั้นเผยประกายเยาะเย้ยมาทางหางตาครั้งหนึ่ง “ตัวข้าในฐานะพี่ใหญ่ แน่นอนว่าต้องช่วยออกหน้าแทนน้องสาว ดังนั้นแล้ว ตัวข้าเซียวเฉวียนมาในวันนี้ ก็เพื่อจะต่อรองกับตระกูลจ้าวเรื่องให้เจ้าจ้าวหลานแต่งเข้ามาในจวนเซียวของข้า”

เด็กรับใช้และสีหน้าของเหล่าทาสด้านหลังจ้าวหลานแข็งทื่อไปหมด! ให้คุณชายใหญ่ แต่งเข้า! แต่งเข้าเนี่ยนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย