ในวันของการทดสอบระดับชนบท
การทดสอบระดับชนบทนั้น สมัยก่อนมันคือวิธีเดียวที่คนชนชั้นธรรมดาสามารถเป็นข้าราชการได้ ทุกครอบครัวทุกบ้านจะเป็นห่วงกับเรื่องแบบนี้มาก
การทดสอบระดับชนบทใช้เวลาสอบทั้งหมดสามวัน ไม่มีใครสามารถออกจากห้องสอบได้จนกว่าจะตอบคำถามทั้งหมดให้เสร็จ
ผู้ที่เข้าสอบต้องเอาอาหารและผ้าห่มมาเอง ในห้องสอบจะไม่มีประตู ต้าเว่ยชอบฝนตก เพราะฉะนั้นผู้สอบต้องเอาเสื่อน้ำมันมาเอง
ตระกูลฉินรู้ว่าเขาต้องรีบไปสอบ จึงไม่ได้สนใจอะไรเขา แต่กลับเตรียมพร้อมให้แค่ฉินหนานและฉินเป่ย ไม่ว่าจะเป็นพู่กัน กระดาษหรือหมึกดำ แต่ก็ยังมีอาหารชั้นดีและเสื่อน้ำมันที่หนาๆ มีแต่ของที่ดีกว่าของคนอื่น และไม่มีใครดีกว่า
ฉินหนานและฉินเป่ยถูกผู้ดูแลพาออกจากจวนฉิน คุณยายฉินยังให้เงินจำนวนมากแก่พวกเขาใช้ จากนั้นพวกเขาก็ได้นั่งรถม้าจากไป
แต่เซียวเฉวียนออกไปตั้งแต่เช้าทางประตูหลังห้องครัวของคนรับใช้ ไม่มีใครมาส่งเขา เขาอยู่ตัวคนเดียว แต่เขาก็ไม่รู้เดียวดาย แต่เขากลับรู้สึกมีความสุขด้วยซ้ำ
พอมาถึงเมืองหลวง มีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงจำนวนไม่น้อยกำลังต่อแถว ถึงแม้ว่าการแต่งตัวจะคล้ายๆ กัน แต่ว่าคุณภาพของเนื้อผ้าดีมากและปักด้วยลวดลายดอกไม้ที่สวยงาม กล่องหนังสือที่พวกเขาถือก็ทำมาจากไม้ชิงชัน
ในทางกลับกันนั้น เสื้อผ้าของเซียวเฉวียนนั้นดูไม่ได้เลย แต่ก็ยังมีเด็กที่มาจากครอบครัวที่ยากจนแต่งตัวเหมือนเขา ถึงภายนอกจะเป็นผ้าที่หยาบ แต่ว่าจิตใจข้างในของพวกเขานั้นไม่ได้แย่
ถึงคนพวกนี้จะมีฐานะยากจน แต่พวกเขามีแต่ของเต็มไม้เต็มมือ ต่างจากเซียนเฉวียนที่แต่พู่กัน กระดาษและหมึก แล้วก็ขนมปังข้าวโพดหนึ่งชิ้น
เจ้าหน้าที่คุมสอบ แบ่งออกเป็นเจ้าหน้าที่คุมสองด้านในและเจ้าหน้าที่คุมสอบด้านนอก เจ้าหน้าที่คุมสอบด้านในมีหน้าที่คุมสอบ ส่วนเจ้าหน้าที่ด้านนอกมีหน้าที่ตรวจข้อสอบ นอกจากนั้นทั้งเจ้าหน้าที่ด้านในและเจ้าหน้าที่ด้านนอกจะไม่มีการสื่อสารกัน
ขณะนี้นักวิชาการกำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตและลักลอบโพยเข้ามา
หลังจากตรวจเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่คุมสอบก็ให้นักวิชาการรับบัตร แล้วปล่อยเข้าไปหาห้องสอบของตัวเอง
ตอนที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเซียวเฉวียน มองดูเขาที่ลักษณะมอมแมม แม้แต่เสื่อน้ำมันยังไม่มีเลย อันที่จริงก็อยากจะเตือนเขา แต่พอมองดูคนข้างหลังที่ยืนห่างจากเขาไม่กี่เมตร ขาอยากจะเตือนเขา แต่ทุกคนอยู่ห่างจากเขาไม่กี่เมตร ดูเหมือนก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการของเมืองหลวง จึงทำได้แค่โบกมือ แล้วให้เขาเข้าไป
เซียวเฉวียนมาถึงห้องของตัวเอง จึงเตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนของเขา จากนั้นก็รอเวลาสอบ
โดยความเคยชินของคนที่เป็นโรคที่เกิดจากการทำงาน เขาค่อยๆ สังเกตห้องที่เขานั่งอย่างละเอียด ถึงแม้ว่าห้องนี้จะดูเรียบง่าย แถมก้อนอิฐพวกนี้มันฉาบด้วยปูนที่คล้ายกับข้าวเหนียว
ปูนข้าวเหนียว คือ ทำจากข้าวเหนียวที่ต้มแล้ว จากนั้นก็นำข้าวเหนียวมาผสมกับดิน และผสมน้ำมะเฟืองเข้าไป พอได้แบบนี้แล้วมันสามารถทนร้อนทนฝนได้หลายร้อยปี ถือว่าเป็นปูนสมัยใหม่
สมัยก่อน มีแค่สุสานฮ่องเต้และฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถใช้ปูนแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้สถานที่การทดสอบระดับชนบทก็ได้ใช้ของที่ดีแบบนี้ มันทำให้เห็นได้ว่าฮ่องเต้ให้ค่ากับคนที่มีพรสวรรค์มากๆ
ขณะที่เซียวเฉวียนกำลังสังเกตกำแพง ก็มีคนเดินผ่านมาทักทายเขา
คนที่ทักทายลักษณะภายนอกเหมือนเจ้าชาย เขามองไปที่เซียวเฉวียนที่อยู่ในห้องเปล่า แล้วพูดว่า "พี่ชาย วันนี้ท้องฟ้าดูอึมครึม เหมือนจะฝนตกนะ เสื่อน้ำมันของพี่อยู่ไหนครับ?"
ภาษากายของผู้ชายคนนี้ ไม่มีลักษณะที่ดูหมิ่น แต่กลับกลายว่าทำหน้าตาขมวดคิ้วและมีแต่ความสงสัย
เซียวเฉวียนจึงตอบกลับว่า "ไม่เป็นไร ข้าไม่กลัวฝน"
ขอแค่เขาเขียนเสร็จเร็ว ฟ้าฝนไม่ทันเขาอยู่แล้ว เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับความมั่นใจในตัวเขา
แขนเสื้อของเซียวเฉวียนมีรอยเย็บ เสื้อตัวนี้เขาใส่มาเกือบสามปีแล้ว ทุกครั้งที่มีการสอบเซียวเฉวียนจะใส่เสื้อตัวนี้ แถมยังรอยหมึกเก่าที่เคยหยดอยู่บนแขนเสื้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...