“ถ้าอย่างนั้นจ้าวอีโต้วล่ะ?”
เว่ยเชียนชิวรอบนี้โกรธขึ้นมานิดหน่อยแล้วจริงๆ แม่ทัพในกำมือค่อยๆ ถูกเซียวเฉวียนกำจัดไปเรื่อยๆ ตอนนี้ถึงกับมาเล่นงานที่ตัวจ้าวอีโต้วแล้ว!
“เขา เขากำลังเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
“เข้าเฝ้า? ยังจะไปเข้าเฝ้าอีกหรือ?” เว่ยเชียนชิวใช้เท้าข้างหนึ่งถีบสตรีงามที่เกาะแข้งขาเขาออกไป “จนปานนี้แล้วยังจะเข้าเฝ้าอะไรอีก? หา? หากว่าเข้าเฝ้าอีก พรุ่งนี้ข้าจะขุดหลุมฝังศพให้เขาเสีย!”
เว่ยเชียนชิวดึงเส้นผม ขบคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ “สุดท้ายแล้วเหตุใดเซียวเฉวียนถึงลงมือกับจ้าวอีโต้วล่ะ? เป็นเพราะการแย่งชิงในราชสำนักหรือว่าเพราะเหตุอื่น?”
เสียงของสายลับนั้นเบาจนไม่อาจจะเบาไปกว่านั้นได้ “คล้ายกับว่าไป๋ฉี่ต้องการให้คนแซ่จ้าวส่งใครออกมาพ่ะย่ะค่ะ”
ว่ากันตามตรงแล้ว ยามนี้เบื้องหน้าเว่ยเชียนชิวพลันบังเกิดภาพดำขึ้นมาทันที
เซียวเฉวียนเกิดปีหนูหรืออย่างไร?
เรื่องผู้แอบแฝงรายนี้ เขาซ่อนเอาไว้เนิ่นนานหลายปี ยากนักกว่าจะเพาะเลี้ยงออกมาได้ ใครก็ไม่เคยพบทั้งสิ้น แล้วเซียวเฉวียนหาเจอได้อย่างไร? นัยน์ตาสุนัขของเซียวเฉวียนคู่นั้น เหตุใดจึงมองออกหมดเลยล่ะ?
“เจี้ยนกั๋ว ยามนี้จะทำเช่นไร? ต้องไปช่วยคนตระกูลจ้าวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
สายลับร้อนรนเล็กน้อย ยิ่งไป๋ฉี่ให้เวลาตระกูลจ้าวเพียงชั่วยามเดียว ไม่อาจจะรอจนกระทั่งจ้าวอีโต้วเลิกราชการมาได้
ผู้อารักขาตระกูลเซียวเก่งกล้ามากไป ต่อให้คนของกรมวังมาก็ไม่มีประโยชน์ หากว่าจะมีคนช่วยคนตระกูลจ้าวได้ ต้องเป็นจวนเจี้ยนกั๋วแน่นอน
สายลับรู้ว่าแต่ไหนแต่ไรมานั้นเว่ยเชียนชิวกับจ้าวอีโต้วสนิทสนมกลมเกลียว จ้าวอีโต้วที่ภักดีประดุจสุนัขตัวหนึ่งนั้นได้รับความไว้ใจลึกล้ำจากเว่ยเจี้ยนกั๋ว เว่ยเจี้ยนกั๋วต้องช่วยจวนจ้าวแน่นอน
ไม่คาดคิด เว่ยเชียนชิวกลับโบกมือ แล้วหันไปส่ายหน้ากับเขา “เซียวเฉวียนกล้ากระทำอาจหาญปานนี้ จะต้องมีแผนสำรองไว้จนครบครันแน่ จวนเจี้ยนกั๋วไม่อาจกระทำการบุ่มบ่าม กันมิให้ต้องติดร่างแหไปกับจ้าวอีโต้วด้วย”
สายลับตกตะลึง นี่คือจ้าวอีโต้วเลยนะ!
จ้าวอีโต้วที่ติดตามเว่ยเชียนชิวมานานปีปานนี้!
หากพูดว่าการตายของเหลียงไหวโหรวนั้นเว่ยเจี้ยนกั๋วไม่สนใจจะช่วยเหลือ นั่นก็เพราะว่าเหลียงไหวโหรวยังเยาว์เกินไป และก็เป็นแค่หน้าใหม่รายหนึ่ง ไม่คุ้มค่าแก่การที่เขาจะออกมือ เช่นนั้นจ้าวอีโต้ว...
สายลับก้มหน้า กันมิให้เว่ยเชียนชิวได้เห็นดวงตาอันตระหนกหวาดผวา
“พ่ะย่ะค่ะ เจี้ยนกั๋ว”
“คิดหาวิธีส่งจดหมายให้จ้าวอีโต้วสักฉบับ อย่างน้อยให้เขาได้รู้” เว่ยเชียนชิวเอ่ยเสียงเย็น เย็นชาจนสายลับยังตัวสั่น “พ่ะย่ะค่ะ”
“ไปเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
สายลับก้มหน้า เพียงเท่านี้งั้นหรือ?
เว่ยเชียนชิวอำนาจล้นฟ้า กระทั่งฮ่องเต้ยังสู้ไม่ได้ หากว่าเป็นผู้นี้ลงมือกับเจี้ยนกั๋ว ป่านนี้ศีรษะคงหลุดไปแล้ว ตอนนี้กลับไปลงโทษเซียวเฉวียนเนี่ยนะ?
หรือว่า เจี้ยนกั๋วยังจำเรื่องยาอายุวัฒนะของตระกูลเซียวอยู่อีก?
สายลับไม่กล้าถามมากความ เขาเพียงรีบผละออกไปเท่านั้น
ครั้นสายลับจากไป เดิมทีผู้ที่สงบนิ่งเยือกเย็นอย่างเว่ยเชียนชิวกลับระบายโทสะจนเขวี้ยงของบนโต๊ะลงพื้นไม่หยุด!
น่าโมโห!
โมโหที่สุด!
น่าโมโหไปแล้ว!
“เด็กๆ!”
ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งพลันปรากฏตัว พวกเขาก้มหัวรับคำสั่ง “กระหม่อมอยู่”
เว่ยเชียนชิวเอามือเท้าสะเอว ทรวงอกของเขากระเพื่อมขึ้นลง “เพิ่มกำลังคน ช่วยข้าสืบค้นทั่วจวนเซียว เอายาอายุวัฒนะมาให้ข้า!”
“ข้าให้เวลาพวกเจ้าสามวัน!”
“ข้าทนมันไม่ไหวแล้ว!” เว่ยเชียนชิวใช้หมัดกระแทกลงบนโต๊ะ “ข้าจะกำจัดมัน!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
จวนเซียว
นอกกลุ่มผู้อารักขา บ่าวรับใช้และข้าทาสในห้องใหญ่ห้องหนึ่งนั้น ไม่เห็นคนตระกูลเซียวเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...