ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 605

ด้านนอกพระราชวัง ชายชราคนหนึ่งควบม้าของเขาเข้ามา และเสียงของเกือกม้าที่ดังวังวาน ราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจ!

ใบหน้าของชายชราซีดขาวอย่างมาก ราวกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง เมื่อมาถึงหน้าประตูวัง ชายชราก็หยุดม้าแล้วพูดว่า “ฮี่!”

“เจ้าคือผู้ใด!” องครักษ์ที่เฝ้าพระราชวังตะโกนถามเสียงดัง “เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างลงจากหลังม้าตั้งแต่หน้าประตูวัง! เจ้ามิใช่ขุนนางก็ควรลงจากหลังม้าเสียตั้งแต่พันเมตรแล้ว! เข้ามายังพระราชวังต้าเว่ย ควรได้รับโทษเช่นใด?”

ในมือของชายชราถือถุงผ้าหยาบ ๆ เปียก ๆ ใบหนึ่ง ด้านในราวกับมีของบางสิ่งจะพุ่งออกมาข้างนอก

เหล่าผู้อารักขาที่รอเหล่านายท่านอยู่นอกพระราชวัง ต่างทำจมูกฟุดฟิด รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามันคือกลิ่นเลือด

ติ๋ง ๆ ติ๋ง ๆ

เหล่าองครักษ์มองไปบนพื้น มันคือเลือดสีแดงสดจริง ๆ พวกเขาชักดาบออกมาในทันทีและตำหนิเสียงดัง “กล้านำของสกปรกเปื้อนเลือดมาที่นี่ มีจุดประสงค์อันใด!”

ชายชราผู้นั้นคุกเข่าลงไปกับพื้นดัง “ตุบ” พร้อมกับก้มหัวคำนับลงที่พื้น “ข้าน้อยเป็นพ่อบ้านของจวนจ้าว ตอนนี้จวนจ้าวถูกประทุษร้าย ขอให้ทุกท่านได้โปรดเข้าใจและรายงานแก่นายท่านของจวนข้าด้วยเถิด”

พูดจบ ชายชราก็เปิดห่อผ้าออก ด้านในถุงผ้าเป็นมือคู่หนึ่งที่เปียกโชกไปด้วยเลือด

เหล่าองครักษ์ขมวดคิ้วและมองหน้ากัน แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา บาดแผลของมือคู่นี้เรียบมาก ไม่มีรอยสะดุดแม้แต่น้อย อาวุธที่ตัดมือนี้ต้องยอดเยี่ยมมาก และกําลังภายในของผู้ที่ตัดมือคู่นี้ก็น่าทึ่งมากเช่นกัน

ตระกูลจ้าวงั้นหรือ? จวนจ้าวที่อยู่ภายใต้จิตใต้สำนึกของพวกเขา ก็คือจวนจ้าวของจ้าวจินไหล ที่เป็นหนึ่งในเมืองหลวง

ทว่าจ้าวจินไหลตายไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าผู้นี้กลับเอาแต่พูดว่าต้องการพบนายท่าน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ตระกูลของจ้าวจินไหล หนึ่งในองครักษ์ตำหนิเสียงดัง “ท่ามกลางขุนนางทั้งหลาย ใต้เท้าที่สกุลจ้าวมีมากถึงยี่สิบท่าน นายท่านของเจ้าคือผู้ใด?”

“ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นในจวน ก็ควรจะไปรายงานต่อจวนว่าการชั้นใน เหตุใดจึงมายังพระราชวัง! และยังนำของที่มีกลิ่นคาวเลือดเช่นนี้มาอีก!”

“หากไปชนเข้ากับผู้สูงศักดิ์ในวัง เจ้าจะรับผิดชอบได้หรือไม่!”

คำพูดขององครักษ์ไม่ได้ไร้เหตุผล หากเกิดคดีใดก็ตามในเมืองหลวง สิ่งแรกคือต้องไปรายงานที่จวนว่าการชั้นใน จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะดำเนินเรื่องต่อหรือไม่ ตามที่จวนว่าการชั้นในกำหนด

มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในต้าเว่ย หากทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมาต้องมาร้องเรียนที่หน้าพระราชวัง เช่นนั้นพระราชวังจะวุ่นวายมากเช่นไร

“ใต้เท้าองครักษ์” พ่อบ้านตระกูลจ้าวผู้นั้นแทบร้องไห้ และคำนับอยู่หลายครั้ง “เรื่องนี้จวนว่าการชั้นในไม่อาจควบคุมได้! ใต้เท้าทุกท่านได้โปรดช่วยผ่อนปรนด้วยขอรับ!”

“เรื่องของเมืองหลวง มีเรื่องที่จวนว่าการชั้นในควบคุมไม่ได้ด้วยหรือ?” องครักษ์เหลือบมองเขาด้วยความเหยียดหยาม “อย่ามาพูดจาเหลวไหล! เจ้ากล้ามาพูดจาดูหมิ่นต่อหน้าข้าหลวงใต้ฝ่าบาทบุตรแห่งสวรรค์หรือ!”

“ข้าน้อยไม่บังอาจ! ข้าน้อยไม่บังอาจ!”

พ่อบ้านตระกูลจ้าวส่ายหัวอย่างแรง “ผู้ที่ฟันมือฮูหยินใยจวนของข้า คือ คือ คือ...”

ท่านผู้เฒ่าอ้ำ ๆ อึ้งๆ ไม่อาจพูดจบแม้เพียงประโยคเดียว องครักษ์ตะคอกเสียงกร้าว “เจ้าคนขี้ขลาด! กลัวถึงขนาดนี้แล้ว แม้แต่ชื่อก็ยังเรียกไม่ถูกอีกงั้นรึ?”

ชื่อนั้นยิ่งใหญ่เกินต้านทาน ทำให้ท่านผู้เฒ่าพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่น ปากและฟันกระทบกันหงึก ๆ ท่านผู้เฒ่าโค้งคำนับลงบนพื้นอย่างแรง “เขา เขา เขาคือไป๋ฉี่แห่งจวนเซียวขอรับ!”

ไป๋ฉี่งั้นหรือ?

เหล่าองครักษ์หน้าซีด ชื่อเสียงของไป๋ฉี่ พวกเขาคุ้นหูกันดี ไม่ต้องพูดให้มากความ พวกเขาผู้ที่ซ้อมวิชาต่อสู้ต่างก็กลัวไป๋ฉี่ที่สุด

ทว่าท่านผู้เฒ่าคนนี้ ยังพูดขึ้นมาอีกสองคำ นั่นคือจวนเซียว

เช่นนั้นความหมายก็ชัดแจ้งแล้ว สิ่งที่ไป๋ฉี่ทำในวันนี้ จะต้องได้รับมอบหมายจากเซียวเฉวียนเป็นแน่

ในที่สุดเหล่าองครักษ์ก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ จึงถามขึ้น “เจ้าคือตระกูลจ้าวตระกูลใด!”

ท่านผู้เฒ่าคิดว่ามีหวังเสียแล้ว จึงรีบคำนับ “ทูลใต้เท้าทั้งหลาย ข้ามาจากจวนจ้าวอีโต้วแห่งเฉิงตง”

เดิมทีองครักษ์ที่มีสีหน้าตึงเครียด แต่เมื่อได้ยินชื่อของจ้าวอีโต้ว ก็คลายลงในทันที

จ้าวอีโต้วงั้นหรือ?

แม้แต่คนที่เฝ้าประตูพระราชวังอย่างพวกเขาก็รู้ว่า จ้าวอีโต้วเป็นสุนัขรับใช้ที่กระตือรือร้นที่สุดในบรรดาสุนัขจํานวนมากของเว่ยเชียนชิว ราวกับสุนัขที่ประจบสอพลอ คอยเลียแข้งเลียขาเว่ยเชียนชิว

คนของเว่ยเชียนชิวก็คือศัตรู

น่าเสียดาย วันนี้โชคไม่เข้าข้างจ้าวอีโต้วเอาเสียเลย ทหารที่เข้าเวรในวันนี้คือสหายของกู้เจิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย