ด้านนอกพระราชวัง ชายชราคนหนึ่งควบม้าของเขาเข้ามา และเสียงของเกือกม้าที่ดังวังวาน ราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจ!
ใบหน้าของชายชราซีดขาวอย่างมาก ราวกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง เมื่อมาถึงหน้าประตูวัง ชายชราก็หยุดม้าแล้วพูดว่า “ฮี่!”
“เจ้าคือผู้ใด!” องครักษ์ที่เฝ้าพระราชวังตะโกนถามเสียงดัง “เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างลงจากหลังม้าตั้งแต่หน้าประตูวัง! เจ้ามิใช่ขุนนางก็ควรลงจากหลังม้าเสียตั้งแต่พันเมตรแล้ว! เข้ามายังพระราชวังต้าเว่ย ควรได้รับโทษเช่นใด?”
ในมือของชายชราถือถุงผ้าหยาบ ๆ เปียก ๆ ใบหนึ่ง ด้านในราวกับมีของบางสิ่งจะพุ่งออกมาข้างนอก
เหล่าผู้อารักขาที่รอเหล่านายท่านอยู่นอกพระราชวัง ต่างทำจมูกฟุดฟิด รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามันคือกลิ่นเลือด
ติ๋ง ๆ ติ๋ง ๆ
เหล่าองครักษ์มองไปบนพื้น มันคือเลือดสีแดงสดจริง ๆ พวกเขาชักดาบออกมาในทันทีและตำหนิเสียงดัง “กล้านำของสกปรกเปื้อนเลือดมาที่นี่ มีจุดประสงค์อันใด!”
ชายชราผู้นั้นคุกเข่าลงไปกับพื้นดัง “ตุบ” พร้อมกับก้มหัวคำนับลงที่พื้น “ข้าน้อยเป็นพ่อบ้านของจวนจ้าว ตอนนี้จวนจ้าวถูกประทุษร้าย ขอให้ทุกท่านได้โปรดเข้าใจและรายงานแก่นายท่านของจวนข้าด้วยเถิด”
พูดจบ ชายชราก็เปิดห่อผ้าออก ด้านในถุงผ้าเป็นมือคู่หนึ่งที่เปียกโชกไปด้วยเลือด
เหล่าองครักษ์ขมวดคิ้วและมองหน้ากัน แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา บาดแผลของมือคู่นี้เรียบมาก ไม่มีรอยสะดุดแม้แต่น้อย อาวุธที่ตัดมือนี้ต้องยอดเยี่ยมมาก และกําลังภายในของผู้ที่ตัดมือคู่นี้ก็น่าทึ่งมากเช่นกัน
ตระกูลจ้าวงั้นหรือ? จวนจ้าวที่อยู่ภายใต้จิตใต้สำนึกของพวกเขา ก็คือจวนจ้าวของจ้าวจินไหล ที่เป็นหนึ่งในเมืองหลวง
ทว่าจ้าวจินไหลตายไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าผู้นี้กลับเอาแต่พูดว่าต้องการพบนายท่าน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ตระกูลของจ้าวจินไหล หนึ่งในองครักษ์ตำหนิเสียงดัง “ท่ามกลางขุนนางทั้งหลาย ใต้เท้าที่สกุลจ้าวมีมากถึงยี่สิบท่าน นายท่านของเจ้าคือผู้ใด?”
“ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นในจวน ก็ควรจะไปรายงานต่อจวนว่าการชั้นใน เหตุใดจึงมายังพระราชวัง! และยังนำของที่มีกลิ่นคาวเลือดเช่นนี้มาอีก!”
“หากไปชนเข้ากับผู้สูงศักดิ์ในวัง เจ้าจะรับผิดชอบได้หรือไม่!”
คำพูดขององครักษ์ไม่ได้ไร้เหตุผล หากเกิดคดีใดก็ตามในเมืองหลวง สิ่งแรกคือต้องไปรายงานที่จวนว่าการชั้นใน จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะดำเนินเรื่องต่อหรือไม่ ตามที่จวนว่าการชั้นในกำหนด
มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในต้าเว่ย หากทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมาต้องมาร้องเรียนที่หน้าพระราชวัง เช่นนั้นพระราชวังจะวุ่นวายมากเช่นไร
“ใต้เท้าองครักษ์” พ่อบ้านตระกูลจ้าวผู้นั้นแทบร้องไห้ และคำนับอยู่หลายครั้ง “เรื่องนี้จวนว่าการชั้นในไม่อาจควบคุมได้! ใต้เท้าทุกท่านได้โปรดช่วยผ่อนปรนด้วยขอรับ!”
“เรื่องของเมืองหลวง มีเรื่องที่จวนว่าการชั้นในควบคุมไม่ได้ด้วยหรือ?” องครักษ์เหลือบมองเขาด้วยความเหยียดหยาม “อย่ามาพูดจาเหลวไหล! เจ้ากล้ามาพูดจาดูหมิ่นต่อหน้าข้าหลวงใต้ฝ่าบาทบุตรแห่งสวรรค์หรือ!”
“ข้าน้อยไม่บังอาจ! ข้าน้อยไม่บังอาจ!”
พ่อบ้านตระกูลจ้าวส่ายหัวอย่างแรง “ผู้ที่ฟันมือฮูหยินใยจวนของข้า คือ คือ คือ...”
ท่านผู้เฒ่าอ้ำ ๆ อึ้งๆ ไม่อาจพูดจบแม้เพียงประโยคเดียว องครักษ์ตะคอกเสียงกร้าว “เจ้าคนขี้ขลาด! กลัวถึงขนาดนี้แล้ว แม้แต่ชื่อก็ยังเรียกไม่ถูกอีกงั้นรึ?”
ชื่อนั้นยิ่งใหญ่เกินต้านทาน ทำให้ท่านผู้เฒ่าพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่น ปากและฟันกระทบกันหงึก ๆ ท่านผู้เฒ่าโค้งคำนับลงบนพื้นอย่างแรง “เขา เขา เขาคือไป๋ฉี่แห่งจวนเซียวขอรับ!”
ไป๋ฉี่งั้นหรือ?
เหล่าองครักษ์หน้าซีด ชื่อเสียงของไป๋ฉี่ พวกเขาคุ้นหูกันดี ไม่ต้องพูดให้มากความ พวกเขาผู้ที่ซ้อมวิชาต่อสู้ต่างก็กลัวไป๋ฉี่ที่สุด
ทว่าท่านผู้เฒ่าคนนี้ ยังพูดขึ้นมาอีกสองคำ นั่นคือจวนเซียว
เช่นนั้นความหมายก็ชัดแจ้งแล้ว สิ่งที่ไป๋ฉี่ทำในวันนี้ จะต้องได้รับมอบหมายจากเซียวเฉวียนเป็นแน่
ในที่สุดเหล่าองครักษ์ก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ จึงถามขึ้น “เจ้าคือตระกูลจ้าวตระกูลใด!”
ท่านผู้เฒ่าคิดว่ามีหวังเสียแล้ว จึงรีบคำนับ “ทูลใต้เท้าทั้งหลาย ข้ามาจากจวนจ้าวอีโต้วแห่งเฉิงตง”
เดิมทีองครักษ์ที่มีสีหน้าตึงเครียด แต่เมื่อได้ยินชื่อของจ้าวอีโต้ว ก็คลายลงในทันที
จ้าวอีโต้วงั้นหรือ?
แม้แต่คนที่เฝ้าประตูพระราชวังอย่างพวกเขาก็รู้ว่า จ้าวอีโต้วเป็นสุนัขรับใช้ที่กระตือรือร้นที่สุดในบรรดาสุนัขจํานวนมากของเว่ยเชียนชิว ราวกับสุนัขที่ประจบสอพลอ คอยเลียแข้งเลียขาเว่ยเชียนชิว
คนของเว่ยเชียนชิวก็คือศัตรู
น่าเสียดาย วันนี้โชคไม่เข้าข้างจ้าวอีโต้วเอาเสียเลย ทหารที่เข้าเวรในวันนี้คือสหายของกู้เจิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...