ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 604

สรุปบท บทที่ 604 คนเลวทรามจักต้องตาย: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 604 คนเลวทรามจักต้องตาย – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 604 คนเลวทรามจักต้องตาย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ณ พระราชวัง

พระตำหนักฉางหมิง

ก่อนเหล่าขุนนางทั้งหลายเข้าเฝ้า องครักษ์หน้าพระตำหนักจะต้องค้นตัวก่อน เพื่อดูว่าขุนนางทุกคนจะไม่พกอาวุธเข้าไป

ดังนั้น แน่นอนว่าพู่กันเฉียนคุนของเซียวเฉวียนก็ถูกริบไว้เช่นกัน

องครักษ์คนหนึ่งถือพู่กันเฉียนคุนไว้สองด้าม และพูดกับเซียวเฉวียนอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าเซียว นี่เป็นอาวุธสงคราม ตามกฎแล้วห้ามนำเข้าไปในพระตำหนักฉางหมิง ข้าน้อยจะเก็บรักษาไว้ให้ท่านเป็นพิเศษ เมื่อท่านเข้าเฝ้าเสร็จแล้วก็สามารถนำกลับไปคืนได้ขอรับ”

องครักษ์ผู้นั้นถือพู่กันเฉียนคุนของปลอมไว้อยู่ เขาตื่นเต้นจนตัวสั่นเทิ้ม เขาถือว่าเป็นองครักษ์คนแรกของพระราชวังที่ได้สัมผัสพู่กันเฉียนคุนเชียวนะ พู่กันด้ามนี้ทรงพลังจริง ๆ ทว่าน้ำน้อยกว่าที่คิดไว้มาก

แท้จริงแล้ว พู่กันเฉียนคุนของจริงมีน้ำหนักมหาศาล

นอกจากเซียวเฉวียนแล้วก็ไม่มีผู้ใดที่สามารถถือได้ รวมทั้งไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า นอกเสียจากว่าพู่กันเฉียนคุนจะยินยอม มิเช่นนั้นนอกจากเจ้านายของมันแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดถือได้อีก

มีเพียงเซียวเฉวียนที่สามารถถือมันออกรบได้อย่างง่ายดาย

พู่กันเฉียนคุนสองด้ามนั้น ทำมาจากไม้ธรรมดา แน่นอนว่าต้องมีน้ำหนักเบา นอกจากเซียวเฉวียนและฮ่องเต้ที่ได้เห็นพู่กันเฉียนคุนในระยะประชิด ก็ยังมีขันทีน้อยที่คอยติดตามฝ่าบาทที่เคยพบเห็นพู่กันเฉียนคุน ในตอนที่เซียวเฉวียนถูกเนรเทศครั้งก่อน และเป็นที่แน่นอนว่าองครักษ์คนนี้ไม่รู้ว่าด้ามนี้เป็นของปลอม

“อืม รบกวนเจ้าด้วยนะ” เซียวเฉวียนรู้ว่าองครักษ์เพียงทำตามกฎเท่านั้น จึงให้ความร่วมมืออย่างมาก

“ขอบพระคุณใต้เท้าเซียวที่เข้าใจ” องครักษ์นำพู่กันเฉียนคุนวางไว้ในถาดที่ปูด้วยผ้าสีแดงอย่างนอบน้อม และถอยออกไปด้วยความเคารพ

สายตาของจ้าวอีโต้วจับจ้องพู่กันเฉียนคุนตลอดเวลา ขณะที่องครักษ์นำพู่กันเฉียนคุนไปเก็บไว้ที่โถงด้านข้างพระตำหนัก จ้าวอีโต้วส่งสัญญาณทางสายตาให้ขันทีผู้หนึ่ง ขันทีผู้นั้นพยักหน้าเล็กน้อย ซึ่งถือว่าได้รับสัญญาณแล้ว

ยู้ฮู

เซียวเฉวียนกลอกตามองบน ขโมยพู่กันเพียงด้ามเดียว แต่สร้างแผนการขนาดนี้ ไม่มีความมั่นใจหรือดูถูกเซียวเฉวียนมากเกินไป?

หากไม่นับว่าพู่กันเฉียนคุนเป็นของปลอม และต่อให้เป็นของจริงจ้าวอีโต้วก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เช่นนี้ เซียวเฉวียนมอบให้เขาได้เลยตรง ๆ! เพียงแต่จ้าวอีโต้วจะสามารถใช้การได้หรือไม่ ฮ่า ๆ!

โชคดีที่เซียวเฉวียนไม่ได้พูดออกมา มิเช่นนั้นจ้าวอีโต้วคนช่างพูดจะต้องระเบิดออกมาทันที และตำหนิที่เซียวเฉวียนดูหมิ่นเขา

“นายท่าน ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุนหาคุณหนูรองพบแล้ว สภาพนางแย่มากขอรับ ใบหน้าบาดเจ็บสาหัส”

ข้างหูเซียวเฉวียน มีเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดของไป๋ฉี่ลอยมา

เซียวเฉวียนแอบกำหมัดไว้แน่น เส้นเลือดที่แขนปูดอยู่ใต้แขนเสื้อยาว “นำตัวนางกลับมา ให้เย่าเหล่าทำการรักษาให้นาง จากนั้นก็ทำตามแผนที่วางไว้”

“ขอรับ”

สองนายบ่าวผูกจิตสื่อสารกัน เพียงแต่สื่อสารในใจและไม่มีผู้ใดสามารถสังเกตเห็นได้

เพียงแต่สายตาที่เยือกเย็นของเซียวเฉวียน โดยเฉพาะตอนที่จ้องมองจ้าวอีโต้ว ความเยือกเย็นนั้นแทบกลืนกินคนเข้าไปทั้งตัว

จ้าวหลานที่กำลังรุดเข้าไปทักทายเซียวเฉวียน ก็ตกใจและหยุดฝีเท้าไว้ในทันที

ในขณะนั้น สายตาของเซียวเฉวียน ราวกับมีเพียงแค่จ้าวอีโต้วผู้นี้

จ้าวหลานมองไปที่จ้าวอีโต้วด้วยความสงสัย วันนี้เซียวเฉวียนและจ้าวอีโต้วมีฐานะทัดเทียมกัน และยังเป็นขุนนางร่วมงานในฝ่ายเดียวกัน เหตุใดสายตาของเซียวเฉวียนจึงแผ่ความอาฆาตออกมาเช่นนั้น?

เซียวเฉวียนเป็นผู้ที่เก่งกาจในการกอบกู้สถานการณ์ หากเสือร้ายแสดงอำนาจบารมี แน่นอนว่าต้องมีผู้ใดไปลูบหัวของเสือเข้าแล้ว จ้าวหลานเหลือบมองจ้าวอีโต้ว ไม่กล้าคิดอะไรมาก เขาถอยหลังออกไปและไม่ได้ทักทายเซียวเฉวียนอีก

ท่ามกลางฝูงชน ฉินหนานและฉินเป่ยหันหลังมองเซียวเฉวียนที่อยู่ไกล ๆ

เซียวเฉวียนรู้สึกถึงการจับจ้อง จึงละสายตาออกจากจ้าวอีโต้ว ฉินหนานถามเขาผ่านการส่งสายตา “ทุกอย่างปกติดีใช่หรือไม่?”

เซียวเฉวียนพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความว่องไวที่เร็วจนแทบมองไม่เห็น ฉินหนานเข้าใจ เอาล่ะ

ต้าเว่ยมีขุนน้ำขุนนางมากมาย ขุนนางที่ปรึกษาก็มีถึงสองร้อยกว่าคนแล้ว

ในบรรดาขุนนางที่มีจำนวนมากเช่นนี้ การหาคนที่เว่ยเชียนชิวมอบหมายหน้าที่สําคัญให้นั้น ค่อนข้างมีความยากมากโข

อย่างไรเสีย แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะประมาทเลินเล่อ แต่เขากลับปิดบังซ่อนเร้นได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะพบความผิดใด ๆ ที่ไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของเว่ยเชียนชิว ก็มักจะมีขุนนางออกมารับผิดแทนเว่ยเชียนชิวเสมอ ดังนั้นฮ่องเต้ก็จนปัญญากับเขาเช่นกัน

คนโหดเหี้ยม

เซียวเฉวียนยิ้มพลางส่ายหัว

การข้ามมิติมาพบกับคนที่โหดเหี้ยมอย่างเว่ยเชียนชิว ไม่รู้จริง ๆ ว่าสวรรค์ต้องการทรมานเขาหรือให้เกียรติเซียวเฉวียนมากเกินไปแล้ว

“หากสวรรค์จะให้ภาระหนักให้กับใครบางคน” เซียวเฉวียนพูดพึมพำ “จักต้องทำให้เขากลัดกลุ้มใจ ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้ออ่อนล้า ทำให้ทนหิวโซ และทำให้เขาตกอยู่ในความยากจน...”

จ้าวอีโต้วที่ยืนอยู่ข้างเขา ขมวดคิ้วแน่น และพูดดูถูกเขา “ใต้เท้าเซียว พูดจาพึมพำอะไรกัน? หรือว่าโรคโง่ยังไม่หายดี? หากยังไม่หายดี เช่นนั้นก็ควรนอนอยู่ที่บ้านนะ?”

สิ้นเสียงของจ้าวอีโต้ว เหล่าขุนนางที่ปรึกษาต่างพากันหัวเราะถากถาง

เซียวเฉวียนไม่สะทกสะท้าน มองไปยังพระตำหนักฉางหมิงและกล่าวเป็นประโยคว่า “ร่างกายที่ว่างเปล่าและอ่อนแอ ทำให้ทุกการกระทำของเขาไม่เป็นที่สมหวังดังใจปรารถนา”

จ้าวอีโต้วตกใจ เห็นเพียงเซียวเฉวียนหลับตาลงช้า ๆ “สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนความคิดของเขาได้ โปรดเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอารมณ์ของเขา และเสริมความสามารถที่เขาขาดไป”

“ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ!” จ้าวอีโต้วหัวเราะเสียงต่ำอย่างบ้าคลั่ง และหันไปพูดกับขุนนางที่อยู่ข้าง ๆ “เซียวเฉวียนท่าจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ ดูเขาบ่นพึมพำสิ”

“ผู้ตรวจการจ้าว ระวังคำพูดหน่อยนะ” ขุนนางผู้นั้นไม่ได้คุ้นเคยกับเซียวเฉวียน แต่ก็ไม่ใช่คนของจ้าวอีโต้ว อยู่ต่อหน้าพระตำหนักฉางหมิง การดูถูกขุนนางของราชสำนักอย่างเปิดเผย ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

“ขี้ขลาดเหมือนลูกหนู”

จ้าวอีโต้วฮึดฮัดเสียงเย็น และหันมาหัวเราะกับขุนนางที่ปรึกษาที่อยู่ฝ่ายตนด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย