ใบหน้าของเซียวเฉวียนเต็มไปด้วยอารมณ์ปฏิเสธ
ใช่แล้ว เซียวเฉวียนไม่เอาด้วย
หลี่มู่เป็นข้าราชฯ ระดับสี่ เป็นเจ้านายของกองอารักขา และเป็นผู้บังคับบัญชาของเขา
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลี่มู่เป็นคนที่มีสถานะและฐานะ จะมาเป็นผู้อารักขาให้เซียวเฉวียนได้อย่างไร
หลี่มู่และเซียวเฉวียนเท่าเทียมกันแล้ว หลี่มู่จะทำเช่นนี้ คนในราชสำนักจะมองเซียวเฉวียนและหลี่มู่ยังไง?
พวกเขาจะต้องพูดอย่างแน่นอนว่าเซียวเฉวียนใช้อำนาจบาตรใหญ่ เลี้ยงผู้อารักขาจำนวนมากขนาดนั้นแล้วยังไม่พอ ยังกล้าจะรับหลี่มู่เป็นผู้อารักขาอีกคน
คนอื่นจะวิจารณ์อย่างไร เซียวเฉวียนไม่ติดใจ ในเมื่อชื่อเสียงเขาปกติก็ไม่สู้ดีอยู่แล้ว ซ้ำเติมอีกกี่คำก็ไม่เป็นไร
แต่หลี่มู่ก็จะถูกวิจารณ์อย่างชอกช้ำเช่นกัน คนพวกนี้ไหว้ที่สูงย่ำที่ต่ำ ไม่รู้ว่าจะฉีกหน้าหลี่มู่อย่างไร พวกเขาคงพูดอย่างแน่นอนว่าหลี่มู่เป็นคนต่ำต้อยจริงๆ อุตส่าห์ไต่เต้าจนได้เป็นนาย จะกลับไปเป็นผู้อารักขาให้ผู้อื่นอีกแล้ว
จะเป็นผู้อารักขาก็ไม่ว่า ดันมาเป็นผู้อารักขาของเซียวเฉวียนกระจอกๆ
ระดับอย่างหลี่มู่ เขามีคุณสมบัติเหลือๆ ที่จะเป็นผู้อารักขาขององค์จักรพรรดิด้วยซ้ำ ทำไมเป็นเซียวเฉวียน?
แม้แต่เซียวเฉวียนเองก็ไม่กล้าคิด เขาโบกมือ "ใต้เท้าหลี่ อย่าวุ่นวาย อาการบาดเจ็บหายช้าก็ช้าหน่อย จะให้ข้าเป็นนาย ข้ากลัวโดนฟ้าผ่า!"
"แต่......"
หลี่มู่ดูเหมือนยังคิดจะโน้มน้าวเซียวเฉวียน แต่เขาอ่อนแรงเกินไป พูดสองคำก็ไอที เซียวเฉวียนถือโอกาสออกจากห้องและปิดฉากคุยเรื่องนี้ต่อ
เหลวไหล!
เซียวเฉวียนก้าวจากไปอย่างรีบด่วน หลี่มู่มีความคิดเช่นนั้นได้อย่างไร?
แม้ว่าหลี่มู่เมื่อก่อนเป็นผู้อารักขาของเหวินเจี้ยวยวี่ แต่เขาก็ยังเป็นความภาคภูมิใจของเหวินเจี้ยวยวี่ เพราะหลี่มู่หลุดพ้นจากชะตากรรมของการเป็นไพร่ เป็นคนแรกที่รับราชการ เป็นข้าราชฯ ชั้นสูงชาวคุนหลุนด้วย
เหวินเจี้ยวยวี่ไม่ค่อยชอบอาชีพผู้อารักขานัก ถ้าหลี่มู่อุตส่าห์ได้เป็นขุนนางข้าราชสำนัก ยังมาเป็นผู้อารักขาของ เซียวเฉวียนอีก เซียวเฉวียนกลัวว่าเหวินเจี้ยวยวี่จะมุดขึ้นจากดินมาฆ่าหลี่มู่ ถือโอกาสฆ่าเซียวเฉวียนด้วย
“เฝ้าดูแลเขาให้ดี อย่าปล่อยให้เขาคิดฟุ้งซ่าน”
เซียวเฉวียนกำชับไป่ฉีว่า ยกเว้นคนที่ไว้ใจได้ ใครก็ไม่ให้เข้าใกล้หลี่มู่
ช่วงนี้ ต้องปรนนิบัติหลี่มู่ให้กินดีอยู่ดี หลี่มู่อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเซียวเฉวียนช่วงชิงได้เวลาสามเดือน นี่คือสิ่งที่จวนเซียวควรปฏิบัติ
“ขอรับ เจ้านาย ไม่ต้องห่วง”
ไป่ฉีพยักหน้า
“มีข่าวเกี่ยวกับต่งจัวและเถาจี๋ไหม? พวกเขาหาเจอหญ้าอสุราในภูมิภาคตะวันตกหรือยัง?”
”พวกเขากำลังกลับอยู่ อีกสองวันก็จะถึง”
“ดี ๆ ๆ “ เซียวเฉวียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เมื่อได้หญ้าอสุราแล้ว เซียวเฉวียนยังเอานักรบแท้ไม่อยู่อีกหรือ? ฮ่า ๆ ๆ !
“ข้าจะกลับไปที่ลานบ้านข้าก่อน อย่าให้ใครมารบกวน”
เซียวเฉวียนกำชับอย่างเข้มงวด ไป่ฉีพยักหน้า "ขอรับ"
“ดูแลกิเลนให้ดีๆ อย่าปล่อยให้มันสร้างปัญหา” เซียวเฉวียนยังไม่ไว้ใจ ก่อนจากไป เขาชี้ไปที่กิเลนในกรงเหล็กที่ตั้งอยู่ในลานบ้านของไป่ฉีแล้วกำชับแล้วกำชับอีก
ตอนนี้กิเลนเพิ่งผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่และได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เขาถูกขังอยู่ในกรงเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่ต่อไปนี้ กิเลนจะเป็นยังไงนั้น พูดยา
เซียวเฉวียนคิดจะฆ่ามันให้ตายเลยในวันนี้ เกรงว่ามันจะหมายหัวไป่ฉีและจะกินไป่ฉี แต่แล้วไม่ทราบสาเหตุใด ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิมาห้ามเซียวเฉวียนอย่างแข็งขัน มิให้เซียวเฉวียนฆ่ากิเลน เซียวเฉวียนจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
ไป่ฉีก็ดูเหมือนจะอยากเก็บกิเลนไว้ แต่เซียวเฉวียนไม่เอ่ยปาก เขาก็ไม่อาจจะพูด
เซียวเฉวียนเห็นว่าไป่ฉีต้องการ จึงมอบให้ไป่ฉีไปเลี้ยงดูกิเลนเสียเลย รอให้กิเลนหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ก็จะให้ไปทำงานเป็นคนงานเตาหลอม
ตระกูลเซียวไม่เลี้ยงคนเกียจคร้าน สัตว์เกียจคร้านด้วย
"เจ้านายไม่ต้องห่วง กิเลนมีภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิคุนหลุนบังคับอยู่ ก่อเรื่องวุ่นวายอะไรไม่ได้หรอก"
“ได้เลย เจ้าใส่ใจกับความปลอดภัยด้วย ไม่ต้องมาสนใจข้าในลานบ้าน ข้าจะอยู่คนเดียวเงียบๆ “ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิควบคุมบังคับกิเลนอยู่จริงๆ เซียวเฉวียนพยักหน้า เขาไม่อยากให้ไป่ฉีกลายเป็นอาหารของกิเลน
เซียวเฉวียนหันหลังแล้วจากไป ท่าทางดูจะยังแข็งแรงมั่นคง แต่ก็ดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย
ไป่ฉีเฝ้าดูเขาจากไป เจ้านายเพิ่งเรียนรู้วิธีการปราบด้วยคำพูดสำเร็จ เขาใช้พลังงานไปมาก ทั้งไปปั่นป่วนในจวนเจียนกั๋วมา คงเหนื่อยมากจึงห้ามไม่ให้ใครไปรบกวนเขา
จริงๆ แล้ว ไป่ฉีคิดผิด
เซียวเฉวียนไม่อยากให้ไป่ฉีได้เห็นด้านนิสัยเด็กๆ ของเขา
การปราบด้วยคำพูด!
ให้ตายเถอะ เขาเรียนรู้วิธีปราบด้วยคำพูดได้แล้วจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...