อ่านสรุป บทที่ 639 ยอมรับเจ้าเป็นนาย จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 639 ยอมรับเจ้าเป็นนาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ฮ่า?
ขอโทษ?
เซียวเฉวียนและไป่ฉีมองหน้าซึ่งกันและกัน เว่ยเป้ยคนนี้หมายความว่าอย่างไร?
เสียงของเว่ยเป้ยค่อยมาก ค่อยจนมีเพียงเซียวเฉวียนและไป่ฉีเท่านั้นที่ได้ยินชัดเจน หรือเป็นเพราะว่าพ่อเฒ่าทำเรื่องเลวร้ายมามาก พ่อคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ลูกรู้สึกละอายใจงั้นหรือ?
เว่ยเป้ยชอบร้องไห้ สู้เขาไม่ได้ก็ร้องไห้ แข่งบทกวีสู้เขาไม่ได้ก็ร้องไห้ ทีแรกเซียวเฉวียนคิดว่าเว่ยเป้ยอาจเป็นพวกเสือซ่อนเล็บหรือเปล่า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไอ้หมอนี้มีนิสัยแบบนี้จริงๆ
เซียวเฉวียนไม่รู้สึกว่าเว่ยเป้ยมีอะไรแปลกจากคนอื่น ยิ่งไม่คิดว่าเขาจะมาจากจีนฮวาเซี่ย ที่ผ่านๆ มา เว่ยเป้ยได้ปิดซ่อนตัวเองไว้ดีมากตลอดมา ในสายตาของหลายๆ คน เขาเป็นลูกชายสุดที่รักของเว่ยเชียนชิว เป็นเด็กขี้แยที่ถูกชุบเลี้ยงอย่างทะนุถนอมมาอย่างดี
แต่ว่า แค่พูดว่าขอโทษคำเดียวก็จะจบแล้วหรือ?
อาชญากรรมที่จวนเจียนกั๋วได้กระทำมานั้นมีมากมายเกินกว่าจะกล่าวถึง แค่คำขอโทษของเด็กคนหนึ่ง มันเบาบางเกินไป
เซียวเฉวียนไม่ต้องการ
คำขอโทษดังกล่าวไม่มีความหมาย
“จวิ้นอ๋อง ในโลกนี้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เจ้าไม่มีอะไรต้องมาขอโทษข้า ยิ่งกว่านั้น น้ำหนักเจ้าน้อยเกินไป การขอโทษของเจ้าก็ไม่ได้ช่วยอะไร”
คำเหล่านี้ถ้าออกจากปากคนอื่น ถือเป็นโทษผิดร้ายแรงถึงตาย แต่เขาคือเซียวเฉวียน เป็นเซียวเฉวียนที่กล้าทรมานใจแม้แต่เว่ยเชียนชิว พูดคำดังกล่าวกับแค่จวิ้นอ๋องน้อยๆ นั้น ก็ดูสอดคล้องกับสถานะและวิถีของเซียวเฉวียน
เว่ยเป้ยเข้าใจว่ามีนัยอยู่เบื้องหลังคำพูดของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนกำลังบอกว่าเขาไม่ใช่หัวหน้าของจวนเจียนกั๋ว เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะมาขอโทษด้วยซ้ำ
เว่ยเป้ยกระชับกำปั้น นี่เป็นการดูถูกชนิดหนึ่ง
ตั้งแต่เว่ยเป้ยมาที่ต้าเว่ย เขารู้สึกถูกดูแคลนเป็นครั้งแรก และการดูแคลนแบบนี้เป็นของจริงเรื่องจริง สิ่งที่เซียวเฉวียนพูดนั้นเป็นความจริง
เว่ยเป้ยไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องระยำที่เว่ยเชียนชิวทำ ไม่มีความสามารถหยุดมัน และไม่เคยชดใช้ให้เหยื่อที่ได้รับความเสียหาย เว่ยเป้ยแค่พูดว่าเขาขอโทษคำเดียว เซียวเฉวียนควรรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณหรือ?
แค่ศักดิ์ศรีของจวิ้นอ๋องคนหนึ่ง ไม่สูงส่งพอที่จะทำให้เซียวเฉวียนปรารถนา
ตั้งแต่ที่เซียวเฉวียนมาถึงต้าเว่ย กรรมที่จวนเจียนกั๋วก่อขึ้นนั้น เซียวฉวียนใช้ให้ครบสิบนิ้วก็ไม่สามารถนับได้ ไม่ต้องพูดถึงบัญชีเก่าของกองทัพตระกูลเซียว!
ขอโทษคำเดียว? จวนเจียนกั๋วไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดขอโทษ ในแผนและการรับรู้ของเซียวเฉวียน ผู้คนในจวนเจียนกั๋วไม่คู่ควรแม้แต่จะให้โอกาสสำนึกผิด!
ฝ่ายจวนเจียนกั๋วนี้จะต้องตายสถานเดียว จะถูกประหาร หรือจะถูกฆ่า สรุปก็คือ พวกเขาจะต้องตาย!
นี่คือวิถีแห่งสวรรค์และผลกรรมที่ควรได้รับ!
เซียวเฉวียนจ้องเว่ยเป้ย "ลูกหลานของผู้มีอำนาจก็คือลูกหลานของผู้มีอำนาจ พวกเขามองชีวิตคนเหมืองผักปลา คำขอโทษคำเดียว จะลบล้างอะไรได้? "
“จวิ้นอ๋อง ข้าคิดว่าเจ้ามีนิสัยซื่อตรงจริง หากเจ้ามีความรู้สึกเสียใจกับใครจริงๆ เจ้าต้องไปเกลี้ยกล่อมพ่อของเจ้า ให้ทำตัวเป็นมนุษย์คนหนึ่งเถอะ”
“จวนเจียนกั๋วอย่างพวกเจ้า อย่าทำแต่สิ่งชั่วร้ายแล้วจะมาสร้างซุ้มประตูอนุสรณ์ แบบนี้มันไม่ดี”
สิ่งที่เซียวเฉวียนพูดทำให้เว่ยเป้ยหน้าแดง ดูเหมือนจะสะท้อนให้ประจักษ์ว่าพฤติกรรมของเว่ยเป้ยนั้นเสแสร้งมาก
เซียวเฉวียนและพวกก้าวออกจากจวนเจียนกั๋วไป อย่างสง่าผ่าเผย กวาดฝุ่นกระจายไปทั่วสถานที่
”ช่างไร้เหตุผล! ช่างไร้เหตุผล!” ขันทีตัวน้อยที่อยู่ข้างๆ เว่ยเป้ยดุด่าว่า “เซียวเฉวียนผู้นี้ไม่รู้ดีชั่ว! กล้ามาพูดเรื่องแบบนี้กับท่านอ๋อง! ผู้น้อยไปสั่งสอนมันหน่อยดีไหม! "
“เจ้ามีปัญญาสั่งสอนเขาหรือ?” ดวงตาของเว่ยเป้ยลดต่ำลง ขันทีตัวน้อยเห็นว่าเจ้านายไม่โกรธแต่ยังมาตำหนิเขาเช่นนี้ เขาก็ใจเสียทันที “ผู้น้อยพูดมากเกินไป ท่านอ๋องจงยกโทษให้ด้วย”
”ต่อไปเรื่องไม่เจียมสังขารพวกนี้พูดให้น้อยหน่อย เดี๋ยวคนเขาจะหัวเราะเยาะเจ้าได้!” เว่ยเป้ยเหลือบมองเขาอย่างลอยๆ “อาจารย์เซียวยังเป็นเจ้าของชิงหยวน และท่านเป็นอาจารย์ของข้า ครูบาอาจารย์ก็เหมือนพ่อ ถึงอาจารย์เซียวจะกล่าวว่าอะไรข้าไม่ดี ก็แค่ฟังเฉยๆ ก็พอ”
ขันทีน้อยแอบถ่มน้ำลายใส่พวกเธอ "หึ จวิ้นอ๋องน้อยจะต้องมีชื่อเสียงคุณงามความดีติดตัวสักวัน อย่ามาดูถูกคนอื่น!"
ที่จวนเซียว
หลี่มู่สีหน้าขาวซีดนอนอยู่บนเตียงของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนสั่งให้คนเฝ้าดูแลเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงจนกว่า เขาจะหายดี
ทักษะของไป่ฉีนั้นดีมากจริงๆ เขาเกือบจะสัมผัสส่วนสำคัญของหลี่มู่ ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาพลวงตาของการตาย แต่ไม่ทำให้หลี่มู่ถึงกับตาย
พักฟื้นสักครึ่งปี หลี่มู่ก็น่าจะฟื้นตัวได้
อย่างไรก็ตาม ชาวคุนหลุนเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เหนือกว่า บาดแผลจะหายเร็วหรือช้าจะปรับอัตโนมัติตามความสามารถด้านบทกวีของเจ้านาย แม้ว่าเหวินฮั่นจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เขายังคงเป็นเจ้านายของหลี่มู่ ด้วยความแข็งแกร่งของเหวินฮั่น การฟื้นตัวของหลี่มู่คงไม่ช้า คนธรรมดาจะใช้เวลาสามถึงห้าปี แต่หลี่มู่ครึ่งปีก็เพียงพอแล้ว
ครึ่งปี?
นานเกินไป
หลี่มู่คว้ามือของเซียวเฉวียนแล้วพูดด้วยลมหายใจแผ่วเบา "อีกสามเดือน เจ้าก็จะทำลายตราจูเสิน ข้าไม่อยู่ด้วย จะทำไงดี?"
“ใต้เท้าหลี่ อาการบาดเจ็บนี้จะหายดีจะต้องรอเวลา ใจร้อนไม่ได้” เซียวเฉวียนตบมือของเขา ให้เขาวางใจ "ไม่ต้องห่วง ไป่ฉีและเหมิงเอ้าอยู่ มันแค่ตราประทับอันเดียว ไม่มีอะไรต้องกลัว เจ้าพักฟื้นไปก็แล้วกัน"
”ไม่ ให้ข้ายอมรับเจ้าเป็นเจ้านายเถอะ”
หลี่มู่เงยหน้าขึ้น เหวินฮั่นเสียชีวิตแล้ว ตามกฎระเบียบ หลี่มู่สามารถเปลี่ยนเจ้านายคนใหม่ได้
ไป่ฉีตกใจกลัวอย่างมาก เซียวเฉวียนถึงกับถอยหลังไปสองก้าวและส่ายหัว "หลี่...หลี่...หลี่มู่ อย่ามามั่ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...