บทที่ 652 จิตสังหารเข้มข้น – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 652 จิตสังหารเข้มข้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“เอาป้ายคำสั่งข้าไป เข้าออกวังหลวงได้อิสระ!”
เซียวเฉวียนโยนป้ายเนื้อหยกชิ้นหนึ่งออกมา ทางไป๋ฉี่รีบรับทันที นี่คือป้ายหยกที่ฮ่องเต้พระราชทานให้กับราชครู
สามารถเข้าออกวังหลวงได้อิสระ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่เซียวเฉวียนเสนอขึ้นมา หากว่าฮ่องเต้ไม่ทรงยินยอม เซียวเฉวียนก็จะไม่เป็นราชครู
ผลสุดท้าย ฮ่องเต้เองทรงรับปากแล้ว
เพียงแต่ว่าการรับปากของพระองค์ฝืดเฝือนเล็กน้อย
ยิ่งเรื่องสิทธิเข้าออกวังหลวงเป็นอำนาจพิเศษเสียด้วย
เซียวเฉวียนกลับไม่รู้ร้อนร้อนหนาว เขาไม่สนสีหน้าค่อนข้างลำบากใจของฮ่องเต้และยังคงยืนยันตามนี้ สิทธิพิเศษที่ตัวเขาเซียวเฉวียนต้องการไม่เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เพิ่มอีกหนึ่งจะเป็นไรไป?
ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่สามารถเข้าออกวังหลวงได้อย่างอิสระ มิใช่ว่าเขาถูกกักกันตัวหรือไร
เขาก็ไม่ใช่สตรี หากถูกฮ่องเต้กักบริเวณจะพาให้คนจำนวนมากเข้าใจผิดได้
ฮ่องเต้พระองค์หนึ่งกักตัวชายหนุ่มรายหนึ่งไว้ในมุมลึกของวังหลวง...เพียงแค่คิดถึงตรงนี้ เซียวเฉวียนก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว
พวกไป๋ฉี่รับคำสั่งไปดำเนินการ ส่วนเซียวเฉวียนรั้งตัวโย่วควนเอาไว้สนทนา “โย่วควน จิ่นเซ่อเฉลียวฉลาด ทว่ากลับร่ำเรียนเขียนอ่านมาจำกัด กลับกันหอสุราต้องการการปรับปรุง เจ้าไม่จำเป็นต้องไปช่วยหอสุราแล้ว อีกหน่อยเจ้ารับผิดชอบสอนจิ่นเซ่อร่ำเรียนเขียนอ่านพอ”
โย่วควนนั้นเป็นผู้รู้วัฒนธรรม ขับร้องเพลงได้ยอดเยี่ยม เป็นศิลปินผู้มีอารยธรรมชั้นตัวอย่าง ย่อมมีปัญญาสั่งสอนจิ่นเซ่อได้อยู่แล้ว
โย่วควนกลับรู้สึกประหลาดใจ “นายท่าน ข้า...ข้าฐานะต่ำต้อย จิ่นเซ่อนั้นจะอย่างไรก็เป็นน้องสาวของท่าน ข้าไม่มีคุณสมบัติสอนนางร่ำเรียนเขียนอ่าน”
“จวนเซียว วัดคนที่ความสามารถ มิใช่ฐานะสูงต่ำ”
เซียวเฉวียนเอ่ยทุ้มลึกหนึ่งประโยค เขาคิดว่าตลอดมาตัวเขาเองก็พูดจากระจ่างมากพอแล้วนะ ผลก็คือจิตใจของโย่วควนก็ยังยึดมั่นอยู่เหมือนเดิม ก็ไม่แปลกเช่นกัน ความคิดของเซียวเฉวียนนั้นค่อนข้างแหวกแนวเกินไปสำหรับคนโบราณ
นัยน์ตาของเซียวเฉวียนมืดดำอย่างยิ่ง ลูกนัยน์ตานั้นเต็มไปด้วยโทสะเย็นชาไม่พอใจ โย่วควนพลันรีบก้มหน้า “โย่วควนปากมาก อีกหน่อยวาจาเช่นนี้ โย่วควนจะไม่พูดอีกแล้วขอรับ”
“อืม เช่นนั้นก็ถูกแล้ว” นัยน์ตาของเซียวเฉวียนอบอุ่นขึ้นมา “อีกหน่อยอย่าได้พูดเรื่องฐานะสูงต่ำอีก การแบ่งแยกประหลาดนัก ไปเถอะ อีกหน่อยข้าฝากเรื่องเรียนของจิ่นเซ่อไว้กับเจ้าด้วย”
“ขอรับ”
โย่วควนพยักหน้า ความเชื่อใจและการไหว้วานที่เซียวเฉวียนมอบให้เขา เขาซาบซึ้งใจนักทว่ากลับไม่ได้เอ่ยวาจาชัดเจน
นับตั้งแต่ที่เขาออกจากตำหนักยางหวา ตำหนักยางหวาในเวลานี้ เหลือเพียงเซียวเฉวียนคนเดียวนั่งอยู่กลางที่นั่งประธานในตำหนักค่อนข้างใหญ่โตหลังนี้
รูปร่างของเซียวเฉวียนไม่ได้แตกต่างกันมากน้อยกับก่อนหน้านี้ เพียงแต่ว่าตรงหว่างคิ้วไม่ได้มีสีแดงเสียดแทงนัยน์ตาอีกแล้ว จิตสังหารของเขาพวยพุ่ง ทำเอาคนตระหนกสุดขีด
โย่วควนเดินก้าวเข้าไป คล้ายได้ยินเซียวเฉวียนส่งเสียงคำรามต่ำอย่างปวดร้าว “อึก...ชวีฝาน...ข้ารู้แล้ว เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว...”
เซียวเฉวียนพลันหันศีรษะ จากนั้นก็คล้ายว่าไม่มีอะไรผิดปรกติเกิดขึ้นกับเขา
เซียวเฉวียนมองเขาก่อนจะโบกมือพลางยิ้มเล็กน้อย “ไปเถอะ”
“ขอรับ นายท่าน” โย่วควนขมวดคิ้ว หรือว่า นี่เขาหลอนไปงั้นหรือ?
โย่วควนไม่อาจจะดื้อดึงไม่จากไปได้ เขาออกจากตำหนักยางหวาไปอย่างกังวลเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงนางกำนัลกลุ่มหนึ่งกำลังพูดจาเล่นกันอยู่ ทว่าล้วนแต่เป็นคำพูดน่าฟังทั้งสิ้น
“อา คิดไม่ถึงเลยว่าผู้อารักขาของท่านราชครูจะมีความสามารถปานนี้ รู้เรื่องเครื่องลายครามน้ำแข็งด้วย เก่งไปแล้วหรือเปล่า”
“นั่นสิ ข้าได้ยินมาว่า ผู้อารักขาจะเรียนเขียนอ่านไม่ได้ พวกเขาชาติกำเนิกต่ำต้อย เป็นได้แค่ผู้อารักขารายหนึ่งเท่านั้น”
“ผู้อารักขาของท่านราชครู จะไปที่ฐานะต่ำต้อยอย่างไร เจ้าดูพวกเขาพกอะไรมาตั้งเยอะ ดาบในมือนั่นน่ะเป็นถึงดาบจิงหุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังเลยนะ!”
“อื้อ! ผู้อารักขามีความสามารถปานนี้ ไม่อยากจะคิดว่าท่านราชครูตัวจริงจะเก่งกาจปานใดกัน!”
“เจ้าได้ยินแล้วหรือยัง ได้ยินว่าจวิ้นจู่เข้าวังมาแล้ว เห็นว่าจะพำนักอยู่นานด้วยนะ”
“เอ๋? ท่านราชครูเพิ่งย้ายเข้ามา นางก็ตามเข้ามาเลยอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงของนางกำนัลนั้นมีแววรังเกียจอยู่เต็มประดา
“ได้ยินว่าจวิ้นจู่ร่างกายไม่ดี ไทเฮาเลยให้นางเข้าวังมาพักรักษาตัวน่ะ!”
“มันจะไปมีเรื่องบังเอิญปานนี้ได้อย่างไร ราชบุตรเขยคนหลังของจวิ้นจู่รายนั้นตายแล้ว จวิ้นจู่มิใช่ว่าควรต้องเสียใจหรอกหรือ คิดอยากกลับมาหวนคืนรักเก่าสินะ!”
“ชู่! พวกเจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ! ใจกล้าวิจารณ์เชื้อพระวงศ์! อย่าลืมเสียละ ท่านราชครูยังเป้นราชบุตรเขยแคว้นซินเจียง งานอภิเษกของเขากับองค์หญิงต้าถงน่ะเป็นเรื่องใหญ่ของทั้งสองประเทศ จวิ้นจู่จะเป็นอะไรกับเขาไปได้กัน?”
“ใช่! หุบปากเถอะ! ระวังถูกราชครูลงโทษ!”
เหล่านางกำนัลพอจับกลุ่มพูดคุยจบ แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปทำความสะอาด ทว่าสิ่งที่โย่วควนควรได้ยิน เขาก็ได้ยินแล้ว
เหมือนอาวุธ
สายตาของโย่วควนเป็นประกาย นางท่านเหมือนอาวุธขึ้นไปทุกทีแล้ว อาวุธที่ใช้สังหารคนชิ้นหนึ่ง
การกลายเป็นอาวุธชิ้นหนึ่ง สำหรับคนใต้หล้าและสำหรับฮ่องเต้แล้ว เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
แต่ว่าสำหรับตัวเซียวเฉวียนเองล่ะ?
โย่วควนตะลึงไป เขาไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่ว่าจิตสังหารของนายท่านเข้มข้นไปแล้ว
เข้มข้นจนน่ากลัว
ไป๋ฉี่เป็นชาวคุนหลุน เป็นเทพสงครามโดยกำเนิก จิตสังหารเข้มข้นนั้นสามารถอธิบายได้
แต่นายท่านกลับไม่ใช่
เหวินฮั่นกับปีศาจกวีที่ล่วงลับไปแล้ว คงไม่อยากจะเห็นนายท่านกลายเป็นอาวุธชิ้นหนึ่งไปหรอก
“เฮ้อ! บอกให้เจ้าถอยไปไม่ได้ยินหรือ? เจ้ากำลังขวางทางเดินของพระนางมั่วสี่ของพวกข้านะ!”
นางกำนัลรายหนึ่งบริภาษ โย่วควนยามนี้ค่อยเบนสายตากลับ ก่อนจะรีบหันกาย “ข้าน้อยไร้มารยาท ของพระสนมโปรดระงับโทสะ”
โย่วควนหันกายมา เหล่านางกำนัลต่างลมหายใจสะดุด
จิ๊ ชายหนุ่มงดงามเป็นเอกผู้นี้มาจากที่ใดกัน?
บนโลกนี้ ยังมีใครที่หน้าตาดีปานนี้อีกบ้าง?
หว่างคิ้วของโย่วควนนั้นดูเย็นชาเศร้าโศก เรือนกายสูงโปร่งโดดเด่น มองจากระยะไกล เหมือนเซียนผู้หนึ่งไม่ปาน
พอมามองใกล้ๆ กลับยิ่งดูดีจนพาให้คนไม่อาจจะละสายตา
โย่วควนขมวดคิ้ว ตำหนักยางหวานั้นไม่อยู่ในเขตวังหลัง เดิมทีที่นี่เป็นสถานที่พักและสอนหนังสือของเหวินฮั่น และเป็นสถานที่เรียนของฝ่าบาท พระสนมวังหลังเหตุใดจึงมาที่นี่?
เขาพลันก้มหน้าลง “มาพบพระสนมเข้าแล้ว ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...