“พวกเจ้าสองคนอย่าได้ใช้สายตาเช่นนี้จ้องมองข้า!”
ฉินซูโหรวตัวปลอมรู้สึกร้อนตัว แต่ว่าสิ่งที่นางร้อนตัวกลับมิใช่ปัญหาเรื่องตัวตน แต่กลับเป็นว่าก่อนหน้านี้นางปฏิบัติต่อเซียวเฉวียนไม่ดีพอ ตอนนี้กลับเอาแต่มาเข้าใกล้เข้า ในใจของนางจะอย่างไรก็ไม่แน่ใจเสียเลย นางรู้แต่ว่า ตอนนี้เซียวเฉวียนต้องการใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการยอมรับนาง
ภายในใจของตัวปลอมผู้นี้ แน่นอนว่าย่อมมองเซียวเฉวียนเป็นคนที่ชอบ แต่ว่าเซียวเฉวียนกลับไม่ต้องการนางแล้ว
อาเซียงเห็นจวิ้นจู่ไม่ได้รับการต้อนรับก็รีบเอ่ยโน้มน้าว “จวิ้นจู่ จะอย่างไรก็ไม่อาจทำตัวเหมือนแต่ก่อนได้ ก่อนหน้านี้ท่านอาละวาดใส่ราชครูไปอย่างไร ราชครูยังไม่ทันได้ปรับตัวตรงนั้นเลย ตอนนี้ต่อให้หยิบเอากระบี่ชีวันออกมาก็คงไม่มีประโยชน์เช่นกันเจ้าค่ะ”
“มิใช่ว่าท่านพูดไว้หรอกหรือ ฝ่าบาทบอกให้ท่านอ่อนโยนสักหน่อย เช่นนั้นท่านราชครูอาจเปลี่ยนความตั้งใจก็ได้”
อาเซียงเอ่ยเตือนอย่างระมัดระวัง จวิ้นจู่กับราชครูมีข้อขัดแย้งกันมามากพอแล้ว ราชครูก็เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตนเองปานนั้น ต่อให้จวิ้นจู่จะแข็งแกร่งเท่าใด ราชครูเองก็ไม่มีทางยอมอ่อนข้อแน่
“ใช่...เหตุใดข้าจึงลืมคำพูดของฝ่าบาทกันนะ?” ฉินซูโหรวที่กำลังโมโหเดือดค่อยมีปฏิกิริยา ตัวนางไม่ได้มาหาเรื่องเซียวเฉวียน แต่จะมาผูกสัมพันธ์กับเซียวเฉวียนต่างหาก
อาเซียงเห็นสีหน้าของนางผ่อนคลายลงมาแล้ว ก็รีบตีเหล็กตอนยังร้อน “จวิ้นจู่ ไม่สู้เอาแบบนี้ พวกเราล่วงไปเตรียมของขวัญกันก่อน ตอนนี้พวกเราทั้งสองคนมามือเปล่าก็ไม่ถูกธรรมเนียมเยี่ยม คนอื่นไม่ต้อนรับพวกเราก็เป็นเรื่องธรรมดา”
ฉินซูโหรวตัวปลอมขมวดคิ้ว นางไปเยี่ยมบ้านใครย่อมเป็นวาสนาของบ้านคนผู้นั้น! มีแต่คนอื่นที่ส่งของขวัญให้นาง ไม่มีหรอกที่นางเป็นฝ่ายมอบให้คนอื่น!
แต่ว่า ใครใช้ให้ตอนนี้เซียวเฉวียนอยู่สูงกว่านางระดับหนึ่ง นางพยายามสะกดกลั้นโทสะในใจ “ไป! ซื้อของขวญ!”
“เอ๋ เยี่ยมเจ้าค่ะ! อาเซียงรู้จักร้านขนมเกาเตี่ยนที่เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดในเมืองหลวงระยะนี้ ราชครูน่าจะชอบกินเช่นกัน! พวกเราไปกัน!” อาเซียงส่งสายตาให้เว่ยอู๋จี้เต็มที่ “ไป ไปสายก็จะซื้อไม่ทันแล้ว”
“ขอรับ ขนมเกาเตี่ยนร้านนั้นไม่เลวเลย” เว่ยอู๋จี้พยักหน้าแบบไร้อารมณ์ คนผู้นี้กลับมิใช่นายท่านที่แท้จริงของเขา ให้พูดด้วยเพิ่มขึ้นเขาก็ยังไม่ได้ยินดีเลย
“ไป!” ฉินซูโหรวตัวปลอมถลึงตามองไป๋ฉี่ “รอข้าเจอเซียวเฉวียนก่อน ค่อยให้เขาลงโทษพวกคนชั้นต่ำสองคนที่ไม่รู้จักมารยาทเช่นพวกเจ้า! เฮอะ!”
ฉินซูโหรวตัวปลอมเดินอาดๆ พาคนทั้งสามจากไป อาเซียงเดินอยู่รั้งท้ายสุด นางแอบหันศีรษะไปค้อมเอวให้กับไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า เพื่อเป็นการขออภัยที่คุณหนูของนางทำการไร้มารยาทและหุนหัน
เหมิงเอ้าส่ายหน้า นายบ่าวสองคนนี้เหมือนฟ้ากับเหวเลยจริงๆ หญิงรับใช้กลับเข้าใจรู้เรื่องราวดีกว่าคุณหนูผู้เป็นนายเสียอีก เหมิงเอ้าถอนหายใจเบาๆ “อาเซียงผู้นี้มิใช่ว่าโตมากับฉินซูโหรวหรอกหรือ? หากใช้คำของนายท่านว่า ก็เหมือนเป็นเพื่อนซี้ของนาง หากว่าอาเซียงรู้ว่าฉินซูโหรวเป็นตัวปลอม เจ้าว่านางจะไม่ร้องไห้ตายเลยหรือไง?”
ไป๋ฉี่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด รู้สึกแย่น่ะมันต้องรู้สึกแย่อยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรได้?
ญาติสนิทมิตรชิดใกล้ถูกคนแอบสับเปลี่ยน ย่อมเป็นเคราะห์กรรมขั้นสูงสุดของมนุษย์อยู่แล้ว
ตอนนี้ขุนนางจำนวนไม่น้อยชิงชังเว่ยเชียนชิว เพียงแค่ไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าคดีตัวปลอมนี้ คนทั่วไปคงไม่มีทางรับได้
“ข้าไม่เข้าใจเลย ครั้นเรื่องตัวปลอมเปิดเผย ย่อมเป็นจังหวะที่จะกำจัดเว่ยเชียนชิวไปได้ เหตุใดนายท่านกับฝ่าบาทไม่ลงมือเสียล่ะ?”
เหมิงเอ้าใช้มือเกาๆ ศีรษะ เขาไม่เข้าใจเรื่องราชสำนัก แต่เขารู้ว่า คนผู้หนึ่งกระทำเรื่องผิดก็ควรถูกลงโทษ
คดีเรื่องตัวปลอมนี้ เว่ยเชียนชิวโยนความผิดไปให้คนที่ตายไปแล้วผู้หนึ่งอย่างจ้าวอีโต้วทั้งหมด ตัวเขากลับสลัดทิ้งความรับผิดชอบเสียหมดจด แล้วนายท่านก็ให้แล้วกันไปทั้งแบบนี้อ่ะนะ?
“นายท่านมิใช่ว่าแล้วกันไปหรอก”
ไป๋ฉี่เอ่ยตอบ ปัญหาข้อนี้ เขาเข้าใจ
นายท่านพูดว่า ทำเรื่องอะไรต้องคิดอ่านให้ตลอด หากไม่มั่นใจเรื่องอะไรก็อย่าหุนหันพลันแล่น
คดีเรื่องตัวปลอม จริงๆแล้วได้ลงโทษเว่ยเชียนชิวไปแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้ลงโทษต่อหน้าสาธารณชน
“ลงโทษอย่างไรหรือ?” เหมิงเอ้าได้สติขึ้นมา ความสุขของเขาอยู่บนความทุกข์ของเว่ยเชียนชิว “เจ้าเล่าเร็ว”
“ระยะหลังนี้พรรคพวกของเว่ยเชียนชิว มีพวกขุนนางบุ๋นเริ่มมีใจออกห่าง เริ่มตั้งข้อสงสัยต่อเว่ยเชียนชิวเยอะขึ้น ใจภักดีไม่อยู่แล้ว”
“นี่ยังนับเป็นการลงโทษหรือไร?” เหมิงเอ้าส่ายหน้า ไม่น่าสนใจ เรื่องที่ขุนนางบุ๋นผู้นี้เอาใจออกห่างเขารู้อยู่แต่แรกแล้ว แต่ว่านี่นับเป็นการลงโทษอะไรได้? สำหรับเว่ยเชียนชิวแล้ว ไม่เจ็บไม่คันสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...