ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 712

สรุปบท บทที่ 712 ข่าวลือยิ่งแพร่มากขึ้น: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 712 ข่าวลือยิ่งแพร่มากขึ้น จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 712 ข่าวลือยิ่งแพร่มากขึ้น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในเวลานี้เอง จิ่นเซ่อสวมผ้าคลุมค่อยๆเดินมา

“เขาพูดถูก หากอยากนำเมล็ดพันธุ์ของส้มไป จำเป็นต้องเขียนจดหมายแล้วประทับตราประจำตัวของท่านพี่ พวกเขาถึงจะเพาะปลูกส้มได้”

“มิเช่นนั้น หากวันหน้าถูกที่ว่าการพบเข้า หรือมีคนไปรายงาน พวกเขาล้วนต้องโทษตายเท่านั้น”

ส้มแสนแพงและล้ำค่าเป็นของบรรณาการของต้าเว่ย

แม้แต่คนในราชวงศ์เองก็ไม่อาจกินได้ตามปรารถนา

ทุกวันนี้ต้าเว่ยมีต้นส้มเพียง 70 ต้น นอกจากพระราชวังที่มี 40 ต้นแล้ว นอกนั้นที่เหลือ 30 ต้นตกสู่จวนตระกูลชนชั้นสูงในพระราชวังแต่ละแห่ง ทั้งหมดเพราะอดีตฮ่องเต้หรือจักรพรรดิพระราชทานให้

3 ต้นของจวนเซียวได้มาจากอดีตฮ่องเต้พระราชทานแก่อี้อู๋หลี่ อี้อู๋หลี่จึงนำมาปลูกในสวน เวลาผ่านไปหลายปีได้บำรุงอย่างดีมากจนออกผลดก

ดังนั้นส้มจึงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งรุ่งโรจน์

เป็นเกียรติแก่ผู้มั่งคั่งและขุนนาง

หลักการกล่าวไว้ เหล่าขุนนางชนชั้นสูงสามารถมอบส้มให้แก่คนภายนอกได้ แต่ไม่มีใครสักคนที่ทำเช่นนั้น ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นความมั่งคั่งที่จักรพรรดิพระราชทานให้ ใครล้วนไม่ยินยอมแบ่งออกไปทั้งนั้น

ขี้งกก็ขี้งกไปสิ ยังทำเป็นมั่งคั่งไม่มั่งคั่งอะไรได้เช่นนี้

กะอีแค่ส้ม ดูเจ้าพวกชนชั้นสูงกลุ่มนี้เห็นเป็นของรักของหวง

“จิ่นเซ่อ นำเครื่องเขียนกระดาษ พู่กัน หมึก แท่นฝนหมึกและตราประทับของชิงหยวนมาหน่อย! ข้าจะเขียนจดหมายของแต่ละคนนำเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาพากลับไป!”

เซียวเฉวียนตรงไปตรงมาเช่นนี้ทำเอาบรรดาช่างไม้ทั้งตะลึงและดีใจ “ขอบพระคุณใต้เท้าเซียว! ขอบพระคุณใต้เท้าเซียว!”

เยี่ยมมากเลย! พวกเขาต้องการเมล็ดพันธุ์ส้มมาตั้งนานแล้ว อย่างแรกการได้เมล็ดพันธุ์ส้มมาได้ถือเป็นการเทิดเกียรติให้บรรพบุรุษ อย่างที่สองคือส้มอร่อย พวกเขาอยากให้ลูกหลานของตนได้ลิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยของส้ม

แต่เหล่าชนชั้นสูงที่มีอำนาจไหนเลยจะเห็นกลุ่มช่างไม้อยู่ในสายตา? คิดจะให้พวกเขามอบเมล็ดพันธุ์ให้นั้นเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลย

ส่วนเซียวเฉวียนกลับเต็มใจมอบให้ทุกคน! และยังเต็มใจเขียนจดหมายให้ทุกคนด้วย?

“เรื่องเล็กน้อย มิมีค่าควรเอ่ยถึง!” เซียวเฉวียนสะบัดแขนเสื้อแทบจะใช้น้ำเสียงเชิงขอร้อง “พวกเจ้าลุกขึ้นมาก่อนได้ไหม พวกเจ้าลุกขึ้นมาแล้วข้าค่อยเขียนต่อ อย่าเอะอะแล้วเอาแต่จะคุกเข่าอย่างเดียว ข้ากลัว ไม่ คนแซ่เซียวเช่นข้ากลัวอายุสั้น”

“ไม่ ไม่ การคุกเข่ารอหนังสือจดหมายของใต้เท้าเป็นเกียรติของพวกเรา!”

พวกเขาต่างพยักหน้างกๆ ราวกับเซียวเฉวียนได้มอบของที่สุดยอดอะไรสักอย่าง

ความรู้สึกเจ็บแปลบไม่แน่ชัดก่อขึ้นในใจเซียวเฉวียน เวทนาหัวใจพ่อแม่ในใต้หล้า ช่างไม้กลุ่มนี้ก็แค่อยากให้ลูกหลานได้ลองชิมรสชาติด้วยเช่นกัน ถึงได้ละศักดิ์ศรีขอเมล็ดพันธุ์ไม่มีเม็ดนี้กับเซียวเฉวียน

แค่เมล็ดที่กินแล้วคายไม่กี่เม็ดเท่านั้น กลับเป็นของล้ำค่าที่พวกเขาเอามาไม่ได้

ใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ดีกว่า อยากกินอะไรก็ได้กิน ขอแค่มีเงินก็พอ

แต่ที่ต้าเว่ยต้องดูฐานะศักดิ์และชนชั้น คนในต้าเว่ยช่างลำบากลำบนเกินไปแล้ว

“จิ่นเซ่อ ลองไปดูว่ายังมีส้มอีกไหม เด็ดมาให้พวกเขานำกลับบ้าน ให้ลูกพวกเขาได้ลิ้มลองด้วยเช่นกัน”

“ค่ะ ท่านพี่” จิ่นเซ่อยิ้มหวานแล้วไปทำตามคำสั่ง

“ขอบพระคุณใต้เท้า!”

ช่างไม้ที่ได้รับสิ่งโดยไม่คาดฝัน ต่างก็คุกเข่าลงกราบขอบคุณอีกครั้ง เซียวเฉวียนก็ห้ามพวกเขาไม่อยู่ และก็ไม่โน้มน้าวให้พวกเขาลุกขึ้นแล้ว รีบเขียนจดหมาย ดีที่จะให้พวกเขาสามารถนำเมล็ดพันธุ์กลับไป

เมืองหลวง โรงหมอไม่กี่แห่งที่ใกล้จวนเซียวที่สุดล้วนได้รับข่าวสารที่เซียวเฉวียนต้องการให้พวกเขารักษาภาวะไตพร่อง

จุกสำคัญคือ เซียวเฉวียนและไตพร่อง

ปาเย่ว์ประกาศพวกเขาเสร็จ ก็ประกาศบ้านต่อไปต่อเนื่องอีก

ตามคาดไม่ผิดจากที่คิดไว้เลย ปาเย่ว์เดินไปที่ใด คนที่มาหาหมอที่โรงหมอเหล่านั้นล้วนได้ยินเรื่องสำคัญอันยอดเยี่ยมนี้

เรื่องที่เซียวเฉวียนไตพร่องจึงได้แพร่ออกไปทันที

“ใครจะไปรู้ล่ะ! ไทเฮามาเอารับตัวด้วยตัวเอง เซียวเฉวียนไม่ทำตาม กลับไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น พวกเจ้าว่าแปลกหรือไม่?”

บรรดากินเม็ดแตงโมจับจุดสำคัญได้อีกครั้งแล้วคือ ไทเฮา

พวกเขาต่างสบตากัน สมองอันชาญฉลาดของตนผุดเรื่องเซียวเฉวียนกับไทเฮาขึ้นมาอีก

หรือว่าเซียวเฉวียนกับไทเฮามีเรื่องอะไรกัน จากนั้นเซียวเฉวียนที่เป็นราชครู จึงได้ถูกขับไล่ออกจากราชวัง?

ส่วนพระราชวังก็เกิดข่าวลือเสื่อมเสียใหญ่เช่นนี้ ตอนนี้คงเป็นเพราะไทเฮาทำเพื่ออำพราง จึงหาเหตุผลมาสังหารเซียวเฉวียน

ทว่าเซียวเฉวียนกับไทเฮาก็รุนแรงกันเกินไปแล้ว ทำเอาเซียวเฉวียนไตพร่องไปเลย ทั้งยังต้องรักษา ยอดเยี่ยมเลยยอดเยี่ยมมาก ฮ่าฮ่าฮ่า!

เซียวเฉวียนไม่ทรงว่าราชกิจ คงเพื่อหลบหนีจากการตามฆ่าของไทเฮา

และก็ไม่ทราบว่าทั้งสองคนนี้ใครเป็นคนเริ่มลงมือก่อน ไม่สนว่าใครลงมือก่อน ทั้งสองคนนี้ล้วนไม่กล้าสู้หน้าใครแล้วล่ะ

ชาวบ้านธรรมดาสนแค่เพียงเรื่องซุบซิบนินทาจะร้อนแรงหรือไม่ ส่วนปัญหาด้านตรรกะ ไม่อยู่ในขอบเขตการพิจารณาของพวกเขา ไม่งั้นข่าวลือของเซียวเฉวียนกับหยางอวี้หวน และข่าวลือที่เซียวเฉวียนทำร้ายปัญญาชนก็คงไม่แพร่ราวกับมีหูมีตาทุกที่เช่นนั้นหรอก

เซียวเฉวียนอยู่ในศตวรรษที่ 21 พบเจอกับนักเลงคีย์บอร์ดและหาชอบหาข้อตำหนิคนอื่นมามากมาย รู้ว่าควรปล่อยข้อมูลและจุดสำคัญอะไรออกมา และก็รู้ว่าข่าวลือสุดท้ายแล้วจะแพร่จนเป็นลักษณะไหน

บรรดาแทะเม็ดอาศัยข้อมูลไม่กี่ข้อมูลนี้ใช้สมองคิดสถานการณ์ใหญ่ออกมาได้ขนาดนี้ ไม่ทำให้เซียวเฉวียนผิดหวังเลยสักนิด

ถึงยังไงชื่อเสียงของเซียวเฉวียนก็เลวร้ายจนไม่อาจมากไปกว่านี้ได้แล้ว ก็ทำให้ข่าวลือรุนแรงดุเดือดมากยิ่งขึ้นไปอีกสักหน่อย!

และต้องลากไทเฮาลงน้ำไปด้วย!

เวลานั้นที่เซียวเฉวียนคิดแผนนี้ ไป๋ฉี่กังวลอย่างยิ่ง เกรงว่าไทเฮาจะรีบลงมือฆ่าเซียวเฉวียนทันที

เซียวเฉวียนส่ายหน้า กลัวอะไร เว่ยเชียนชิวยังอยู่! เพื่อยาอายุวัฒนะเม็ดนั้น เว่ยเชียนชิวต้องเชิดชูเซียวเฉวียนราวกับเป็นปู่แน่นอน ไทเฮากล้าแตะต้องเขา เว่ยเชียนชิวสามารถถลกหนังนางได้

ภายในพระราชวัง ไทเฮาที่ไม่รู้อะไรเลย กำลังได้ใจกับแผนใหญ่สังหารเซียวเฉวียนอยู่

ส่วนเซียวเฉวียนแสร้งป่วยหนัก สนุกกับการซักถามอาการจากหมอทั้งเมืองหลวง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย